พลันที่คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. มีมติเห็นชอบควบรวม บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ แคท โดยจัดตั้ง บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (National Telecom: NT Co.) โดยกระทรวงการคลังถือหุ้น 100% ให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
นอกจากนี้ยังมีมติยกเลิกคำสั่ง ครม.เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2560 กรณีให้ตั้ง เป็น 2 บริษัทย่อย คือ บริษัท โครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ จำกัด (บริษัท NBN) และ บริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด (บริษั NGDC) พร้อมรับโอนพนักงานเดิมกลับเข้าทำงาน โดยนับอายุงาน-รับค่าตอบแทนเหมือนเดิม
ดูเหมือนว่าการควบรวม "ทีโอที และ แคท" ในครั้งนี้ราบรื่นไร้รอยต่อ แตกต่างเหมือนจากทุกครั้งที่ผ่ามาเพราะในอดีตถ้ารัฐบาลขยับควบรวมทั้งสององค์กรจะรวมตัวทักท้วง แต่ครั้งนี้เชื่อว่าทังสององค์กรคงเข้าใจสถานภาพที่เปลี่ยนไปจากเดิมจนมีสัญญาณออกมาเห็นด้วยกับการควบรวม อีกทั้งนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส น่าจะจับเข่าคุยกับทีมผู้บริหารรวมไปถึงสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ของ ทีโอที และ แคท เช่นเดียวกัน
โดยนายพงษ์ฐิติ พงศ์ศิลามณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ สรท กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เนื่องจากในเรื่องนี้เป็นนโยบายเห็นด้วยหรือไม่นั้นต้องปฏิบัติตามนโยบาย เพราะรัฐบาลบอกว่าถ้าควบรวมระหว่างกันรัฐบาลจะเข้ามาดูแลรับผิดชอบทั้งหมดเนื่องจากเหลือเพียงหน่วยงานเดียวเท่านั้น ที่สำคัญเมื่อควบรวมแล้วลดต้นทุนในการลงทุนอีกด้วย
ส่วนคำถามที่บอกว่าเมื่อควบรวมกิจการระหว่างกันแล้วพนักงานเกิดความกังวลในเรื่องนี้ แต่ ครม. และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับลดพนักงานแต่อย่างใด
ขณะที่เรื่องการประมูล5G ครม.ก็มีมติชัดเจนแล้วว่าแม้จะควบรวมสามารถยื่นข้อเสนอประมูล 5G ได้เช่นเดียวกัน
"ถ้าถาม ผม ควรจะยื่นประมูลคนละย่านความถี่เพื่อไม่ต้องแข่งระหว่างกันเนื่องจากระบบ 5G ที่นำมาให้บริการนั้นถ้าต้องการใช้งานให้ได้เต็มประสิทธิภาพอย่างน้อยต้องมีเกิน 100 เมกะเฮิรตซ์"
สอดคล้องกับความคิดเห็นของนายสังวรณ์ พุ่มเทียน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ สร.กสท กล่าวว่า การควบรวมกิจการเป็นบริษัทฯเดียว ดีกว่าที่แยกเป็นสองบริษัทฯ เนื่องจากการลงทุนไม่เกิดความซ้ำซ้อน และ ไม่ต้องแข่งขันกันเอง
"ทั้ง ทีโอที และ แคท อยู่แบบเดิมไม่ได้แล้วเราเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจมีผู้ถือหุ้นคนเดียวกันแล้วมานั่งแข่งขันกันเองใครจะตายก่อนกันถ้าเหลือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเพียงหน่วยงานเดียวอย่าง ธนาคารกรุงไทย และ ปตท. (บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นรัฐวิสาหกิจประกอบกิจการด้วยคนไทยทำให้เงินตราไม่ออกนอกประเทศ" นายสังวรณ์ กล่าว
ส่วนการประมูลคลื่น 5G ทาง สรท.กสท มีจุดยืนชัดเจนว่าต้องการเข้าร่วมประมูลโดยต่างฝ่ายต่างยื่นประมูลคนละคลื่นความถี่ เช่น แคท อาจจะยื่น 2 คลื่นความถี่ คือ 700 เมกะเฮิรตซ์ และ 2600 เมกะเฮิรตซ์ ส่วน ทีโอที ยื่นความถี่ 26 กิกะเฮิรตซ์ เพื่อนำมาให้บริการสาธารณ เช่น การศึกษาผ่านทางไกล และ แพทย์ทางไกล เป็นต้น
คอลัมน์ Move On
โดย: คนท้ายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง