ไปรษณีย์ไทย ปักธงยืนหนึ่ง อัดแคมเปญกระตุ้นยอดส่ง
ตัวเลขการค้าขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-คอมเมิร์ซ อยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท ทำให้บรรดากลุ่มโลจิสติกส์ข้ามชาติปักธงชิงส่วนแบ่งการตลาด
เมื่อมีคนเข้ามาชิงเค้กบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หรือ ปณท ปรับตัวอย่างหนักเพื่อ รักษามาร์เก็ตแชร์
โดยเฉพาะการส่งของ EMS ชูจุดขาย “ส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น” มีพัสดุส่งเข้ามาถึง 8 ล้านชิ้นต่อวัน โดยไปรษณีย์คาดว่า ภายในสิ้นปีมีถึง 3,000 ล้านชิ้น
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทย พัฒนาระบบด้านโลจิสติกส์ เช่น บริการเก็บเงินปลายทาง หรือ Cash on Delivery (COD)
ล่าสุดจัดแคมเปญ “ท้าส่งลุ้นล้าน 2020 แจกรถ! แจกทอง มูลค่า 9,000,000 บาท” สำหรับส่งของระหว่างประเทศ
นางสมร เทอดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ ไปรษณีย์ไทย กล่าวว่า ไปรษณีย์ เปิดบริการเก็บเงินปลายทาง หรือ Cash on Delivery (COD) เลือกรูปแบบการชำระเงินได้ 3 ช่องทาง คือ เงินสด แอพพลิเคชัน กระเป๋าเงินไปรษณีย์ (Wallet@POST) และ แอพพลิเคชันธนาคารบนสมาร์ทโฟน (Mobile Banking) ยกระดับคุณภาพบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในประเทศให้มีความรวดเร็วกว่าเดิมด้วยบริการ ส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้วันรุ่งขึ้น โดยส่งถึงกันก่อน 11.00 น. ในกรุงเทพฯ/ปริมณฑล วันเดียวถึงมือผู้รับ และส่งถึงกันก่อน 11.00 น. ในอำเภอเมืองจังหวัดเดียวกัน วันเดียวก็จะถึงมือผู้รับเช่นกัน
นอกจากนี้ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า ปัจจุบัน ไปรษณีย์ ปรับตัวอย่างเห็นได้ชัด ถ้าจำกันได้ตอนแยกกิจการไปรษณีย์ออกจากการสื่อสารแห่งประเทศ ไทย ไม่มีใครอยากย้ายไปอยู่ด้วยเพราะไม่มั่นใจ แต่วันนี้ ไปรษณีย์ไทย แข็งแรงและเข้มแข็งกว่า แคท หรือ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ด้วยซํ้า
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,526 วันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2562
