'อียู – ไอแอลโอ - ยูเอ็น วูแมน'สร้างความเท่าเทียมทางเพศ - ขจัดความรุนแรงแรงงานหญิง

26 พ.ย. 2563 | 08:35 น.

อียู – ไอแอลโอ - ยูเอ็น วูแมน ผนึกกำลัง ปลุกจิตสำนึกคนรุ่นใหม่ ขจัดอคติ ร่วมสร้างความเท่าเทียมทางเพศ ต่อต้านการใช้ความรุนแรงงานหญิงข้ามชาติ ผุดแคมเปญ “ส่องประกายคนรุ่นใหม่หัวใจเท่าเทียม: Spotlight on Generation Equality” ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจเพื่อร่วมโลก

สำหรับประเทศไทย สถิติล่าสุด ระบุว่า มีแรงงานข้ามชาติจำนวน 3.9 ล้านคน และส่วนใหญ่เดินทางมาจากประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ซึ่งช่วยเติมเต็มการขาดแคลนแรงงานของประเทศไทย นอกจากนี้ สัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP)ที่มาจากแรงงานข้ามชาติยังมีมากถึง 4.3% - 6.6%

  'อียู – ไอแอลโอ - ยูเอ็น วูแมน'สร้างความเท่าเทียมทางเพศ - ขจัดความรุนแรงแรงงานหญิง        

ถึงแม้ว่าแรงงานข้ามชาติเหล่านี้ จะเข้ามามีส่วนช่วยในการสร้างเศรษฐกิจและสังคม ทั้งประเทศต้นทางและประเทศปลายทาง แต่แรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะแรงงานหญิง ยังคงเผชิญกับปัญหาจากทัศนคติคนในสังคม จนเป็นเหตุให้ถูกกีดกัน ไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านค่าจ้างแรงงานและสวัสดิการต่างๆ ถูกเลือกปฏิบัติ รวมถึงเกิดความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำต่อแรงงานหญิง 

 

ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาและขจัดการใช้ความรุนแรงต่อแรงงานข้ามชาติหญิง ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)โดยเฉพาะ SDG 5 -ความเท่าเทียมทางเพศ SDG 8 – งานที่มีคุณค่าSDG – 10 การโยกย้ายอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ และ SDG 16.2– การยุติการละเมิดการแสวงหาประโยชน์การค้ามนุษย์และความรุนแรงต่อเด็กทุกรูปแบบ จึงจำเป็นที่ทุกประเทศต้องมีการกำกับดูแลการเคลื่อนย้ายแรงงานที่ปลอดภัยและเป็นธรรม รวมถึงการป้องกันความรุนแรงโดยผ่านการฝึกอบรมและการรณรงค์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างกลุ่มคนต่างๆ

นางซาร่าห์ นิบส์ รักษาการผู้อำนวยการ ยูเอ็น วูแมน สำนักงานภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก และผู้แทนประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  พบว่าแรงงานข้ามชาติในหลายๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ได้รับความเดือดร้อน ทั้งจากการถูกเลิกจ้างงานโดยไม่เป็นธรรม ปัญหาการขอรับบริการสุขภาพและสังคมที่ไม่เท่าเทียม เป็นต้น 

 

โดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติหญิง ซึ่งต้องเผชิญความเสี่ยงและความเปราะบางสูง ด้วยสิ่งกดทับในสองมิติ ด้านหนึ่ง คือ อำนาจที่ไม่เท่าเทียมระหว่างชายและหญิง และอำนาจที่ไม่เท่าเทียมระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง และอีกด้านหนึ่งคือ การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติ ซึ่งแสดงออกผ่านการกระทำที่เลือกปฏิบัติ เช่น การกีดกันการเข้าถึงบริการหรือการคุ้มครองต่างๆ รวมถึงการคุ้มครองทางสังคม 

 

สอดคล้องกับผลการศึกษาของโครงการเซฟ แอนด์ แฟร์ (Safe and Fair)ร่วมกับองค์การยูนิเซฟที่ทำการสำรวจทัศนคติของเยาวชนไทยต่อแรงงานข้ามชาติ พบข้อมูลที่น่าตกใจว่า 30%ของเยาวชนที่ร่วมทำการสำรวจมีความคิดว่า แรงงานข้ามชาติที่ประสบความรุนแรง ไม่ควรได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ หากไม่มีสถานะการย้ายถิ่นที่ถูกต้อง 

ดังนั้น เพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ อันจะมีส่วนช่วยยุติการเลือกปฏิบัติต่อแรงงานหญิงข้ามชาติและยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง โครงการเซฟ แอนด์ แฟร์ จึงได้จัดแคมเปญ“ส่องประกายคนรุ่นใหม่หัวใจเท่าเทียม: Spotlight on Generation Equality”ขึ้น โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การจัดบรรยายพิเศษเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ การจัดแคมป์อบรมสำหรับผู้นำเยาวชน และ การจัดเวทีสาธารณะ“Spotlight on Generation Equality”ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 ที่มุ่งเปลี่ยนแปลงทัศนคติของเยาวชนและประชาชนทั่วไป โดยให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการขจัดความรุนแรงต่อแรงงานหญิงข้ามชาติ 

 

ด้าน รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)กล่าวว่า มธ. เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในประเทศไทยที่มีนโยบายป้องกันและตอบสนองต่อความรุนแรงต่อผู้หญิง รวมถึงการล่วงละเมิดทางเพศ และส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศอย่างจริงจัง โดยได้รับการสนับสนุนข้อแนะนำและเทคนิคจากยูเอ็น วูแมนระดับภูมิภาค และยังเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียที่ ยูเอ็นพิจารณาสร้างความร่วมมืออย่างเป็นทางการในการประกาศสัตยาบันเรื่องความเท่าเทียมทางเพศในปี 2562 ที่ผ่านมา 

 

ในปี 2563 มธ. ได้ขยายความร่วมมือกับโครงการ เซฟ แอนด์ แฟร์ ดำเนินโครงการ Spotlight Initiative ขยายผลการยุติการเลือกปฏิบัติต่อแรงงานหญิงข้ามชาติ และยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงผ่านกิจกรรมการอบรมหลักสูตร “สปอตไลท์ เทรนนิ่ง แคมป์” ระหว่างวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งนักศึกษาที่เข้ารับการอบรม นอกจากจะได้รับความรู้ความเข้าใจ และเกิดทัศนคติที่ดีต่อแรงงานข้ามชาติแล้ว ยังได้มีโอกาสทำงานร่วมกับแรงงานข้ามชาติหญิง ในการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อแรงงานข้ามชาติหญิงอีกด้วย 

'อียู – ไอแอลโอ - ยูเอ็น วูแมน'สร้างความเท่าเทียมทางเพศ - ขจัดความรุนแรงแรงงานหญิง

มธ.ยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับยูเอ็น ในการผลักดันและสร้างความตระหนักเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ และยุติการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงให้กับกลุ่มนักศึกษา ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ และในปีหน้า2564 มธ. และยูเอ็น จะขยายความร่วมมือเพื่อผลักดันประเด็นความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศสภาพและการยุติความรุนแรงต่อแรงงานหญิงข้ามชาติมากขึ้น 

 

โครงการปลอดภัยและยุติธรรม (เซฟ แอนด์ แฟร์)เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Spotlight Initiative ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรป (อียู) และสหประชาชาติ (ยูเอ็น) โดยมี ไอแอลโอร่วมกับองค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น วูแมน เป็นผู้ดำเนินการหลัก มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นช่องทางการเข้าถึงบริการและข้อมูลความช่วยเหลือสำหรับแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติหญิงที่ประสบปัญหาความรุนแรง และการแสวงหาประโยชน์ในที่ทำงาน