‘ใส่ใจลูกค้า-สังคม’ กลยุทธ์ความสำเร็จ ผู้นำแบรนด์ MULBERRY GROVE

02 ก.พ. 2563 | 01:00 น.

ทำอย่างไรเราจะเข้าใจความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ ทำให้เร็ว และผิดพลาดให้เร็ว แล้วรีบนำกลับไปแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อให้ต้นทุนของการผิดพลาดน้อยที่สุด

การบริหารธุรกิจในโลกยุคใหม่ เรื่องของสังคมและผู้บริโภค กลายเป็นหัวใจ ที่คนทำธุรกิจมองข้ามไม่ได้ และยังต้องศึกษาเพื่อสนองตอบทั้ง 2 ส่วนนี้ให้มากขึ้น ลึกขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่ผู้บริหารรุ่นใหม่อย่าง “รุ่งโรจน์ จาศุจิพันธุ์” ผู้อำนวยการอาวุโสแบรนด์ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ” (MULBERRY GROVE) บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ตระหนักดี และได้นำมาใช้กับการบริหารโปรเจ็กต์มูลค่ากว่า 6 พันล้านแบรนด์นี้ ได้อย่างสวยงาม

การเข้ามาทำหน้าที่ดูแลโปรเจ็กต์ มัลเบอร์รี่ โกรฟ ให้กับ MQDC ของผู้บริหารหนุ่มคนนี้ เกิดจากวิสัยทัศน์ขององค์กรที่สอดคล้องกับความตั้งใจ และความต้องการส่วนตัว ที่ต้องการเลือกทำธุรกิจที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค แก้ Pain Point ของสังคม และไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม เมื่อสารตั้งต้นตรงกัน การร่วมงานและการบริหารโปรเจ็กต์จึงไหลลื่น

‘ใส่ใจลูกค้า-สังคม’ กลยุทธ์ความสำเร็จ ผู้นำแบรนด์ MULBERRY GROVE

“คุณจ๊อก - รุ่งโรจน์” เล่าว่า จบปริญญาตรี เกียรตินิยม จากจุฬาฯ และได้เข้าทำงานที่เอสซีจี ปูนซิเมนต์ไทย หลังจากนั้นจึงไปเรียนต่อ สาขาการบริหารธุรกิจ จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซ็ตส์ (MIT) และยังได้ศึกษาด้านการบริหารอสังหาริมทรัพย์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อจากนั้นจึงไปทำงานที่บริษัทพีแอนด์จีฯ ดูแลแบรนด์ ยิลเลตต์ ในระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ก่อนที่จะมาเริ่มทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ จนได้เข้าร่วมงานกับ MQDC ด้วยคำถามที่ว่า...สนใจอยากทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ที่แก้ปัญหาสังคม และปัญหาของโลกไหม

“แนวคิดการทำอสังหาริมทรัพย์ของที่นี่แตกต่างจากที่อื่น นอกจากอยากให้ทุกสรรพสิ่งมีชีวิต มีความเป็นอยู่ที่ดีแล้ว ยังมีการทำวิจัย เพื่อหาคำตอบที่ตอบโจทย์สังคมได้จริงๆ ไม่ใช่แค่คิดว่าต้องผลิตโปรดักต์ออกมาเยอะๆ เพื่อทำกำไร แต่ต้องสร้างโปรดักต์ที่ผู้อยู่อาศัยอยากได้ และตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชันจริงๆ ซึ่ง MQDC ไม่ได้ต้องการเพียงแค่คนเก่ง แต่ต้องการคนดี ที่พร้อมคิดเพื่อสังคมไปพร้อมๆ กันด้วย ซึ่งก็แมตช์กับสิ่งที่ผมหาอยู่พอดี”

โปรเจ็กต์ของ มัลเบอร์รี่ โกรฟ กว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ใช้เวลากว่า 2 ปี ในการวิจัย และทดลอง จนได้โปรดักต์ที่ตอบโจทย์ ไม่เพียงแค่โลเกชันที่สะดวกสบาย อยู่ใกล้โรงเรียนชั้นนำ อยู่ใกล้รถไฟฟ้า และอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ แต่ยังเพิ่มมูลค่าด้วยการใส่บริการแคร์กิฟเวอร์ ที่มีผู้ช่วยเหลือด้านสุขภาพคอยดูแลลูกบ้านตลอด 24 ชม. มีผู้ดูแลลูกบ้าน มีห้องafternoon tea ที่ทางโครงการเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ได้มาจากผลการวิจัย ที่ “คุณจ๊อก”และทีมอีก 9 คน ลงไปทำสำรวจมาจริงๆ ศึกษาถึงความต้องการของทุกเจเนอเรชันด้วยตัวเอง

ทีมงานที่มีอยู่ 9 คน เป็นคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามาช่วยกันคิด โดยมี “คุณจ๊อก” เป็นผู้ผลักดัน และท้าทายให้น้องๆ เริ่มแนวคิดที่แตกต่าง กล้าคิดนอกกรอบ กล้าหาอะไรใหม่ๆ เข้ามา จนได้ผลลัพธ์ตามเป้าที่ต้องการ คือ การตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยทุกเจเนอเรชันจริงๆ  

“การบริหารคน เราพยายามชาเลนจ์ ให้เขามีมายด์เซ็ตที่จะคิดอะไรใหม่ๆ กล้าก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน เราพยายามผลักดัน ให้เขากล้าที่จะออกไปทำ และคิดสิ่งใหม่ๆ ทีมของเรา 9 คน เป็นทีมเล็กๆ ทำให้การบริหารงานมีความคล่องตัว สามารถระดมไอเดียได้ตลอดเวลา”

“คุณจ๊อก” บอกว่า โปรเจ็กต์ มัลเบอร์รี่ โกรฟ จะเปิดขายจริงๆ ในวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์นี้ แต่สามารถขายได้แล้ว 20% ซึ่งถือว่าเกินเป้าจากที่ตั้งไว้ และปัญหาเศรษฐกิจปัจจุบัน ไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า นั่นแสดงให้เห็นว่า เขาเดินมาถูกทาง สามารถสร้างโปรดักต์ได้ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริงๆ และขณะนี้ เขาและทีมกำลังเริ่มศึกษา เพื่อสร้างโปรเจ็กต์ต่อไปที่คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าแล้ว

‘ใส่ใจลูกค้า-สังคม’ กลยุทธ์ความสำเร็จ ผู้นำแบรนด์ MULBERRY GROVE

เมื่อถามว่า ความสำเร็จจากโปรเจ็กต์แรก จะทำให้การทำงานในโปรเจ็กต์ต่อไปยากขึ้นหรือไม่...“คุณจ๊อก” บอกเลยว่า มันคือสิ่งที่ท้าทายอย่างมาก เพราะฉะนั้น เขาและทีมจึงต้องศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ลึกยิ่งขึ้น พยายามค้นหาความต้องการที่อยู่ในใจของคนแต่ละเจเนอเรชันให้เจอ แล้วนำมาพัฒนาสร้างเป็นโปรดักต์ใหม่ต่อไป  

เป้าหมายของนักบริหารคนนี้ คือ การพยายามเข้าใจความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งนั่นคือ สิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาจากประสบการณ์ การเรียนในตำรา และจากครอบครัว ซึ่งทำธุรกิจอาหาร ทั้งหมดได้หล่อหลอมให้เขามีความเข้าใจและให้ความสำคัญต่อผู้บริโภค ในฐานะเจ้าของธุรกิจ ไม่ใช่แค่เพียงลูกจ้าง เป็นแนวคิดแบบเถ้าแก่ที่พยายามบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ จึงมีทั้งความละเอียด และใส่ใจกับลูกค้า

“ทุกวันนี้ ผมหาวิธีว่า ทำอย่างไรเราจะเข้าใจความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ ทำให้เร็ว และผิดพลาดให้เร็ว แล้วรีบนำกลับไปแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อให้ต้นทุนของการผิดพลาดน้อยที่สุด”

การทำงานของผู้บริหารคนนี้ ไม่ได้คิดถึงว่า ตัวเองจะต้องเดินหน้าไปถึงตำแหน่งอะไร เพราะตำแหน่งเป็นเพียงแค่ชื่อที่ถูกกำหนดขึ้น แต่คุณค่าที่แท้จริงของการทำงานสำหรับเขา คือ ทำสิ่งที่เกิดประโยชน์ และสร้างคุณค่าให้ทั้งกับลูกค้า สังคม และองค์กร...และนั่นคือเป้าหมายสูงสุดที่ผู้บริหารคนนี้ต้องการ

 

‘ใส่ใจลูกค้า-สังคม’ กลยุทธ์ความสำเร็จ ผู้นำแบรนด์ MULBERRY GROVE