Play
ขนส่งทางบกสแกนเข้มต่อเนื่องก่อนเทศกาลไม่พร้อมสั่งเปลี่ยนรถ-คนขับ
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
กรมการขนส่งทางบก สแกนเข้มต่อเนื่องเป็นวันที่สามในช่วงก่อนเทศกาล !!! ตรวจสอบความพร้อมคนขับและรถโดยสารทุกคันก่อนออกเดินทาง เฉพาะ 6 เมษายน 2561 พ่นห้ามใช้รถทันที 7 คัน พบคนขับสภาพไม่พร้อม สั่งเปลี่ยนตัวทันที 1 ราย กำชับ!!! ทุกหน่วยงานดูแลความปลอดภัยตั้งแต่ต้นทาง ระหว่างทาง จนถึงปลายทาง
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกดำเนินมาตรการสแกนเข้มรถโดยสารสาธารณะทุกคัน และพนักงานขับรถทุกคน ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถ 212 แห่งทั่วประเทศ ตามมาตรฐานความปลอดภัย (Checklist) ที่กรมฯกำหนด โดยดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่องเป็นวันที่สามในช่วงก่อนเทศกาล ระหว่างวันที่ 4 –10 เมษายน 2561 ซึ่งจากผลการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและคนขับ เฉพาะวันที่ 6 เมษายน 2561 ตรวจสอบความพร้อมของรถและคนขับ จำนวน 18,189 ราย พบรถมีข้อบกพร่อง จำนวน 36 คัน
พบเป็นรถที่ไม่ได้เชื่อมโยงระบบ GPS กับศูนย์ GPS ของกรมฯ จึงสั่งพ่นห้ามใช้ทันที 7 คัน และให้ดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยพร้อมนำรถเข้าตรวจสภาพก่อนนำกลับมาให้บริการ และสั่งให้เปลี่ยนรถทันที 1 คัน โดยให้ผู้ประกอบการนำรถคันใหม่มาเปลี่ยนให้บริการประชาชนเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย ด้านพนักงานขับรถ พบข้อบกพร่อง จำนวน 2 ราย เป็นข้อบกพร่องที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการเดินรถ จำนวน 1 ราย เนื่องจากมีชั่วโมงการทำงานเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนตัวผู้ขับรถทันที พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานจัดเตรียมรถสำหรับให้บริการอย่างเพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชน
นอกจากมาตรการตรวจความพร้อมของรถและคนขับ ตั้งแต่ต้นทางที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถทั่วประเทศแล้ว กรมการขนส่งทางบกยังมีมาตรการดูแลความปลอดภัยในระหว่างการเดินทาง จัดตั้งจุดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและคนขับบนเส้นทางสายหลักใน 16 จังหวัด 19 แห่งทั่วประเทศ เน้นสแกนเข้มรถโดยสารไม่ประจำทางหรือรถเช่าเหมา ซึ่งในช่วงเทศกาลจะมีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก สภาพรถที่นำมาให้บริการต้องมีความมั่นคงแข็งแรง มีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยครบถ้วน ผ่านการตรวจสภาพรถประจำปี และระหว่างปีอย่างถูกต้อง ครบถ้วน
มีการติดตั้ง GPS Tracking และเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก ด้านคนขับต้องพร้อมปฏิบัติหน้าที่ พักผ่อนอย่างเพียงพอ ไร้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ 100% ทั้งนี้ ต้องแสดงสมุดจดบันทึกข้อมูลประจำรถทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่เรียกตรวจและต้องบันทึกในสมุดประจำรถให้ครบถ้วน หากตรวจพบละเลยไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดความปลอดภัยในการขนส่งจะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุดทุกกรณี
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรและลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน กรมการขนส่งทางบกจึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก หลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าและวัตถุอันตรายในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2561 หากผู้ประกอบการขนส่งรายใดมีความจำเป็นต้องทำการขนส่งสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางและช่วงเวลาที่มีการสัญจรเป็นจำนวนมาก กรณีที่จำเป็นต้องจอดรถในช่องทางเดินรถหรือไหล่ทางจะต้องแสดงสัญญาณไฟกะพริบและเครื่องหมายตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมตรวจสอบ ติดตามและแจ้งเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมการขับขี่รถสาธารณะแบบเรียลไทม์ ผ่านแอพพลิเคชั่น “DLT GPS” บนโทรศัพท์มือถือ โดยสแกนคิวอาร์โค๊ดบนสติ๊กเกอร์ประชาสัมพันธ์ที่ติดอยู่บนรถสาธารณะทุกคัน และหากพบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน โทร 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกดำเนินมาตรการสแกนเข้มรถโดยสารสาธารณะทุกคัน และพนักงานขับรถทุกคน ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถ 212 แห่งทั่วประเทศ ตามมาตรฐานความปลอดภัย (Checklist) ที่กรมฯกำหนด โดยดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่องเป็นวันที่สามในช่วงก่อนเทศกาล ระหว่างวันที่ 4 –10 เมษายน 2561 ซึ่งจากผลการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและคนขับ เฉพาะวันที่ 6 เมษายน 2561 ตรวจสอบความพร้อมของรถและคนขับ จำนวน 18,189 ราย พบรถมีข้อบกพร่อง จำนวน 36 คัน
พบเป็นรถที่ไม่ได้เชื่อมโยงระบบ GPS กับศูนย์ GPS ของกรมฯ จึงสั่งพ่นห้ามใช้ทันที 7 คัน และให้ดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยพร้อมนำรถเข้าตรวจสภาพก่อนนำกลับมาให้บริการ และสั่งให้เปลี่ยนรถทันที 1 คัน โดยให้ผู้ประกอบการนำรถคันใหม่มาเปลี่ยนให้บริการประชาชนเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย ด้านพนักงานขับรถ พบข้อบกพร่อง จำนวน 2 ราย เป็นข้อบกพร่องที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการเดินรถ จำนวน 1 ราย เนื่องจากมีชั่วโมงการทำงานเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนตัวผู้ขับรถทันที พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานจัดเตรียมรถสำหรับให้บริการอย่างเพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชน
นอกจากมาตรการตรวจความพร้อมของรถและคนขับ ตั้งแต่ต้นทางที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถทั่วประเทศแล้ว กรมการขนส่งทางบกยังมีมาตรการดูแลความปลอดภัยในระหว่างการเดินทาง จัดตั้งจุดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและคนขับบนเส้นทางสายหลักใน 16 จังหวัด 19 แห่งทั่วประเทศ เน้นสแกนเข้มรถโดยสารไม่ประจำทางหรือรถเช่าเหมา ซึ่งในช่วงเทศกาลจะมีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก สภาพรถที่นำมาให้บริการต้องมีความมั่นคงแข็งแรง มีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยครบถ้วน ผ่านการตรวจสภาพรถประจำปี และระหว่างปีอย่างถูกต้อง ครบถ้วน
มีการติดตั้ง GPS Tracking และเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก ด้านคนขับต้องพร้อมปฏิบัติหน้าที่ พักผ่อนอย่างเพียงพอ ไร้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ 100% ทั้งนี้ ต้องแสดงสมุดจดบันทึกข้อมูลประจำรถทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่เรียกตรวจและต้องบันทึกในสมุดประจำรถให้ครบถ้วน หากตรวจพบละเลยไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดความปลอดภัยในการขนส่งจะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุดทุกกรณี
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรและลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน กรมการขนส่งทางบกจึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก หลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าและวัตถุอันตรายในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2561 หากผู้ประกอบการขนส่งรายใดมีความจำเป็นต้องทำการขนส่งสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางและช่วงเวลาที่มีการสัญจรเป็นจำนวนมาก กรณีที่จำเป็นต้องจอดรถในช่องทางเดินรถหรือไหล่ทางจะต้องแสดงสัญญาณไฟกะพริบและเครื่องหมายตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมตรวจสอบ ติดตามและแจ้งเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมการขับขี่รถสาธารณะแบบเรียลไทม์ ผ่านแอพพลิเคชั่น “DLT GPS” บนโทรศัพท์มือถือ โดยสแกนคิวอาร์โค๊ดบนสติ๊กเกอร์ประชาสัมพันธ์ที่ติดอยู่บนรถสาธารณะทุกคัน และหากพบปัญหาจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน โทร 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
