“องอาจ” ชี้ 3 มาตรการ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 สถานการณ์ล็อกดาวน์

11 ก.ค. 2564 | 02:32 น.

รองหัวหน้า ปชป. แนะ 3 มาตรการฝ่าวิกฤตโควิด-19 ในช่วงล็อกดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม วอน"บิ๊กตู่"ต้องลงมากำกับการปฏิบัติการในพื้นที่อย่างจริงจัง อย่านั่งรับรายงานแล้วประชุมสั่งการจากทำเนียบรัฐบาล

 วันที่ 11 ก.ค.2564 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้มที่ กทม. และปริมณฑลรวมทั้งจังหวัดชายแดนใต้รวม 10 จังหวัดว่า จากการลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ติดโควิดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. และปริมณฑลของอดีต ส.ส. กทม. อดีต ส.ก. ตัวแทนพรรค สาขาพรรค พบว่า การดำเนินการเพื่อระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิดยังมีข้อบกพร่องที่ควรเร่งปรับปรุงแก้ไขมากมายหลายประการ จึงมีข้อเสนอฝากไปยังนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดของ ศบค. ภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งปรับปรุงแก้ไขการทำงานเพื่อให้การล็อกดาวน์เป็นไปตามเป้าหมายควบคุมการแพร่ระบาดและช่วยเหลือดูแลผู้ได้รับผลกระทบแบบครบวงจรดังนี้

 

1. มีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดตามสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ต้องมีปฏิบัติการเชิงรุกในการป้องกันมากกว่าการตั้งรับ 

 

โดยเฉพาะในชุมชนแออัดต้องมีการคัดกรองอย่างทั่วถึง และเมื่อพบการแพร่ระบาดต้องนำผู้ติดเชื้อแยกออกจากครอบครัวและชุมชนอย่างรวดเร็ว และดูแลกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัวอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ออกไปแพร่เชื้อเพราะเป็นบุคคลที่มีโอกาสติดเชื้อสูง

2. ปรับการวางแผนนโยบายวัคซีนใหม่ให้ทันกับสถานการณ์แพร่ระบาดที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อสามารถสนองตอบต่อการแพร่ระบาดได้จริง และจัดให้มีวัคซีนที่มีคุณภาพเพียงพอกับความต้องการของประชาชน

 

3. จัดให้มีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบ กลุ่มอาชีพอิสระ กลุ่มอาชีพบริการทุกประเภท กลุ่มเปราะบางทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชนเมืองที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก

 

ทางพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าทาง ศบค. ประกาศล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ผลและเพื่อให้การล็อกดาวน์ได้ผล จะต้องปรับปรุงการทำงานที่บกพร่องในช่วงที่ผ่านมามีการควบคุมดูแลการปฏิบัติการต่างๆ ในพื้นที่ให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้อย่างจริงจังจึงจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้

จึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดของ ศบค. จะต้องลงมากำกับดูแลการปฏิบัติการในพื้นที่อย่างจริงจัง อย่าเพียงนั่งรับรายงานแล้วประชุมสั่งการจากทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น เพราะการลงมากำกับดูแลอย่างใกล้ชิดเกาะติดสถานการณ์ถึงระดับพื้นที่ด้วยวิธีการต่างๆ จะช่วยทำให้แก้ปัญหาได้รวดเร็วและช่วยสนับสนุนการทำงานอย่างทันท่วงที เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิดได้ผลจริงตามที่เราทุกคนต้องการ

 

พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่า ข้อเสนอต่างๆ ของพรรค จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานทั้งในระดับนโยบาย และในระดับพื้นที่ เพื่อช่วยกันทำให้สถานการณ์โควิดคลี่คลาย และทำให้การดูแลแก้ไขปัญหาของประชาชนเป็นไปอย่างครบวงจรในที่สุด