"จุรินทร์"แย้ม ทุกฝ่ายเห็นพ้องเปิดเวทีรัฐสภา

20 ต.ค. 2563 | 03:41 น.

“จุรินทร์” พอใจทุกฝ่ายเห็นพ้องกับข้อเสนอประชาธิปัตย์ เปิดเวทีรัฐสภา ใช้ ม.165 อภิปราย-ฟังความเห็นทุกฝ่าย เสนอ ตั้งคณะทำงานหาทางออกร่วมกัน  เห็นชอบ หากหยิบเรื่องแก้ รธน.ร่วมพิจารณา

20 ตุลาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้มีความเห็นว่า ควรจะได้มีการเปิดสภาสมัยวิสามัญ และรัฐบาลควรจะได้เป็นเจ้าภาพในการที่จะเสนอขอเปิดด้วยตนเอง รวมทั้งเสนอขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 เพื่อฟังความเห็นของสมาชิกรัฐสภา ดูเหมือนจะได้รับการขานรับจากทุกฝ่าย เพราะว่านายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวานว่าเห็นด้วยกับการที่จะต้องเปิดวิสามัญ

 

ส่วนวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และผู้เกี่ยวข้องก็ได้หารือกัน ประชุมร่วมกับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา วานนี้ซึ่งก็เห็นพ้องกันว่า ควรเปิดวิสามัญและควรใช้มาตรา 165 รับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เมื่อเป็นเช่นนี้ก็คิดว่าวันนี้คณะรัฐมนตรีก็น่าจะมีความเห็นไปในทางเดียวกัน

 

“ถ้ามีการเปิดวิสามัญได้จริง อย่างน้อยที่สุดการรับฟังความเห็นของสมาชิกฯ เพื่อหาทางออกให้กับสถานการณ์ของประเทศ ตามมาตรา 165 ก็ควรจะได้ดำเนินการ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ครม.ถกเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ฝ่าทางตันม็อบคณะราษฎร

"สว.สมชาย"โพสต์เผยข่าวดี นายกฯจะขอมติครม.ใช้ม.165 รับฟังความ

"บิ๊กป้อม"ไม่ขัดเปิดประชุมสภาแก้วิกฤติชาติ

ยื่นกว่า 1100 ชื่อ เรียกร้องนายกฯ ไม่ใช้ความรุนแรง 

 

ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้เห็นผลข้อสรุปของการรับฟังความเห็น หรือการอภิปรายว่าควรจะได้มีคณะทำงาน หรือจะเรียกว่ากรรมาธิการก็สุดแล้วแต่ก็ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของสภาอีกครั้งที่จะต้องไปดูกันว่าควรจะได้เป็นเวทีต่อเนื่องในการที่จะรับฟังความเห็นและแสวงหาทางออกร่วมกันในจุดที่คิดว่าจะเป็นทางออกของประเทศได้ โดยประกอบด้วยทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน สมาชิกวุฒิสภา และบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกร่วมกันว่าควรจะให้ฝ่ายใดดำเนินการในเรื่องใดเรื่องหนึ่งร่วมกัน

อันนี้ก็จะทำให้ทุกอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น แล้วก็จะเป็นข้อดีด้วย  รัฐสภาควรทำหน้าที่เป็นเวทีหาทางออกให้กับประเทศ เพราะรัฐสภาในระบบประชาธิปไตยนั้น ถือว่าเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศอยู่แล้ว ถ้าจะได้เป็นเจ้าภาพ ก็จะเป็นที่ยอมรับ อย่างน้อยน่าจะเป็นที่ยอมรับได้ แล้วก็เอาทั้งคนใน คนนอกเข้ามาช่วยกันคิด” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

 

สำหรับกรอบเวลาในการพิจารณาของ กมธ. นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า คงต้องเร่งดำเนินการ อันไหนต้องเร็วที่สุด อันไหนปานกลาง หรืออันไหนต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนกระบวนการ ก็คงเป็นเรื่องที่กรรมาธิการชุดนั้นจะเป็นผู้ไปดำเนินการ แต่ทุกอย่างควรที่จะได้ข้อสรุปที่รวดเร็ว เพราะการเปิดวิสามัญก็มีจุดประสงค์ที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องการความเห็นพ้องในประเด็นที่จะนำไปสู่ทางออกประเทศโดยเร่งด่วนอยู่แล้ว


 

สื่อมวลชนได้สอบถามเกี่ยวกับการยกเลิก พรก. ฉุกเฉิน นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่าในที่ประชุม ครม.ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกันว่า ฝ่ายความมั่นคงจะเป็นผู้พิจารณาโดยจะใช้เท่าที่จำเป็นและในเงื่อนเวลาที่จำเป็นโดยฝ่ายความมั่นคงจะต้องร่วมใช้ดุลพินิจร่วมกับนายกรัฐมนตรี และนายกฯ เองก็ปรารภชัดว่า จะใช้ในเงื่อนไขเวลาที่จำเป็นเท่านั้น ดังนั้น จะต้องให้ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า เงื่อนเวลาที่จำเป็นจริงๆ สั้นที่สุดนั้นจะเป็นเมื่อไร และอย่างไร

 

ต่อคำถามถึงเงื่อนไขการร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งในเรื่องของนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งรัฐบาลก็รับเป็นนโยบายของรัฐบาลและได้ดำเนินการมาปีหนึ่งแล้ว สำหรับปีที่ 2 คณะรัฐมนตรีก็เห็นชอบไปแล้วเรื่องประกันรายได้ มันสำปะหลัง ปาล์ม และข้าวโพด ยังคงรอเพียง ข้าว กับยางพารา ซึ่งตนได้ลงนามเสนอคณะรัฐมนตรีไปแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ขั้นตอนพิจารณาที่กระทรวงการคลัง และก็ได้ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ช่วยเร่งรัดไปแล้ว สำหรับเงื่อนไขที่ 2 ก็ยังคงอยู่คือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยังเป็นเงื่อนไขที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

 

“ความเห็นผมนั้น ผมคิดเพิ่มเติมว่าถ้าสมมติว่าในช่วงเปิดวิสามัญ ถ้าเป็นไปได้ จะเอาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามาพิจารณาด้วยได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะการแก้รัฐธรรมนูญก็ควรจะดำเนินการให้เร็วที่สุดเป็นวาระแรกเมื่อมีการเปิดประชุมรัฐสภา” นายจุรินทร์ กล่าว