โอเคไหม “รมว.ศึกษาฯ” อาสาเจรจา “เยาวชนปลดแอก”

17 ส.ค. 2563 | 08:23 น.

“ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ" บอกรับได้นักเรียนชูสามนิ้ว แต่ต้องมีขอบเขต พร้อมเป็นตัวแทนรัฐบาล เจรจาหาทางออก แนะ ครูไม่สั่งการเติมเชื้อเพลิง  แต่เตือนระมัดระวังการแสดงออก อย่าให้แตกแยก

วันนี้(17ส.ค.63) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแส "เยาวชนปลดแอก" จนทำให้เด็กนักเรียนแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว ขณะเคารพธงชาติเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และมีทวิตเตอร์รณรงค์ #โรงเรียนหน้าเขาไม่เอาเผด็จการ ว่า เข้าใจเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของนักเรียน ประชาชน รับได้ทั้งนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีขอบเขต หากการแสดงออกจะสร้างสรรค์หรือไม่สร้างสรรค์ก็แล้วแต่ สร้างความแตกแยกต่อประเทศหรือก่อให้เกิดปัญหาของสังคมในอนาคต ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำในขณะที่ประเทศต้องการความร่วมมือกัน ณ ขณะนี้

 

“จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันพิจารณาอย่างเหมาะสม หากครูจะอธิบายให้เด็กๆฟังก็จะเป็นเรื่องที่ดี และรัฐบาลพร้อมจะรับฟังความเห็นต่างๆ และพร้อมจะหาทางออกร่วมกัน การท้าทายหรือการแสดงออกที่อาจทำให้เกิดความแตกแยกควรจะระมัดระวัง ผมคิดว่ามีการเปิดทางแล้วเพื่อให้มีการพูดคุยกัน และผมพร้อมจะเป็นตัวแทนของรัฐบาลในการพูดคุยกับนักเรียน นักศึกษา”

 

เมื่อถามว่า ได้มีการกำชับไปยังผู้อำนวยการ ครู หรือผู้ปกครองหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า  สิ่งที่ปฏิบัติกันมาในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการยืนตรง การเคารพธงชาติเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เป็นสิ่งที่สวยงามที่อยากจะรักษามันไว้ ไม่อยากให้การแสดงออกบางอย่างทำให้เกิดความแตกแยก อยากให้นักเรียนระมัดระวัง เข้าใจดี การแสดงออกอย่างไรก็เป็นสิทธิ แต่อยากให้นึกถึงความละเอียดอ่อนที่ก่อให้เกิดความแตกแยกของสังคม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ม็อบ “คณะประชาชนปลดแอก” อ่านแถลงการณ์-ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว

เน็ตกาก “ประชาชนปลดแอก” โวยค่ายมือถือกั๊กสัญญาณ  

นายกฯ ขอบคุณจนท. -ห้ามใช้ความรุนแรงในการชุมนุม

ไร้ม็อบชนม็อบ "ประชาชนปลดแอก" ปักหลักรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

 

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าครูและผู้บริหารเข้าใจในเรื่องละเอียดอ่อน การสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งไปหากเป็นการกระตุ้นไฟเข้าไปในกองเพลิง เราก็ไม่อยากทำ เราอยากให้ทุกคนมีความเข้าใจ และตนคิดว่าไม่ว่าจะเป็นผู้นำนักเรียนหรือนักศึกษาเข้าใจสถานการณ์ดีว่าประเทศต้องการอะไร

นายณัฏฐพล กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าการชุมนุมในสถานที่ต่างๆ ขณะนี้ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจให้ที่คนจะเข้ามาในประเทศไทย ตนยืนยันว่าเรื่องเศรษฐกิจ เป็นเรื่องสำคัญมากกว่าที่จะต่อสู้กันทางการเมือง เราต้องร่วมกันเดินหน้าให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ การเปลี่ยนแปลงไม่มีปัญหาตนเข้าใจ แต่การที่ประเทศจะเดินไปข้างหน้าได้ เศรษฐกิจต้องขับเคลื่อนไปให้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นเราออกมากันก็ไม่มีงานทำ เพราะไม่มีใครจะมาลงทุนในประเทศไทย อยากให้หันหน้าเข้าหากัน ตนมั่นใจว่าเราสามารถหาทางออกได้

นายณัฏฐพล ยังกล่าวถึงข้อเสนอของนักศึกษาที่เรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรารับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง หากน้องๆคนใดเห็นว่ารัฐธรรมนูญมาตราใดมีปัญหาและจะต้องแก้ไขเพื่อให้มีประโยชน์ต่อประเทศ ขอให้นำเสนอมา อยากให้มองเวที กมธ.พิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เป็นทางออกที่จะให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประเทศ.