หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 2 เมษายน 2564
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 876,000 บาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 เม.ย. จากโรงกลั่นในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปตอบสนองต่อความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น
+ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยคาดการณ์ว่าจะสร้างงานเพิ่มขึ้นอีกหลายล้านตำแหน่ง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
- กลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเพิ่มกำลังการผลิต 350,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน พ.ค. 350,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน มิ.ย. และ 441,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ค.
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง ประกอบกับอุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียที่ฟื้นตัวดีขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานในภูมิภาคที่ยังอยู่ในระดับสูง
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 เม.ย.) หลังที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศแผนลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 2.29 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 61.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.12 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 64.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากที่ประชุมโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเริ่มในเดือนพ.ค.