ตร.เตือนกลโกงโครงการ “เราชนะ”

23 ก.พ. 2564 | 04:30 น.

รองโฆษก ตร. เตือนภัยกลโกงโครงการ “เราชนะ” อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง หากเป็นการทำผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ก็อาจมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ

ทันทีที่กระทรวงการคลังได้โอนเงินโครงการ "เราชนะ" งวดแรก 2,000 บาท ในวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมาให้กับกลุ่มผู้ที่อยู่ในโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน รวมถึงกลุ่มทั่วไปที่เปิดลงทะเบียน ก็เกิดประเด็นที่สื่อสังคมออนไลน์นำเสนอเรื่องกลโกงเราชนะ รับซื้อ-ขายสิทธิ รับเเลกเงิน 

สอดคล้องกับข้อมูลที่ทีมข่าว"ฐานเศรษฐกิจ" ได้รับจากการพูดคุยกับเเม่ค้ารายหนึ่งย่านสี่เเยกพระราม 9 ระบุว่า มีร้านค้าหลายร้านที่รับเเลกเงินสดโดยจะหักเงินเราชนะจากผู้นำมาเเลกร้อยละ 10 ซึ่งมีร้านค้าที่ทำเเบบนี้จำนวนมากเเม้จะรู้ว่าอาจผิดเงื่อนไขโครงการ

ล่าสุดเฟซบุ๊คเพจสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ โดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. และโฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ระบุว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา-2019 (โควิด-19) ในปัจจุบัน รัฐบาลจึงมีโครงการต่างๆ เพื่อเยียวยาช่วยเหลือด้วยการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 

ซึ่งโครงการเราชนะก็เป็นอีกโครงการหนึ่งที่จะช่วยเหลือ ผู้ที่มีสิทธิ์ตามโครงการฯ โดยจะได้รับเงินไม่เกิน 3,500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน รวมเป็นเงินมูลค่า 7,000 บาท โดยลงทะเบียนผ่าน www.เราชนะ.com ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน มีกลุ่มมิจฉาชีพอาศัยช่องว่างของโครงการฯ เข้ามาหาผลประโยชน์ในทางที่ผิดกฎหมายและเงื่อนไขของโครงการฯ 

โดยรูปแบบของเหล่ามิจฉาชีพ จะมีการแอบอ้างประกาศซื้อขายสิทธิ์ หรือรับแลกเปลี่ยนเงินที่ได้รับในแอพพลิเคชั่นเป็นเงินสด ซึ่งเงื่อนไขของโครงการได้ระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่สามารถใช้สิทธิ์ของผู้อื่นได้และเงินที่ได้รับจากโครงการไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ 

นอกจากนี้ยังอาจมีมิจฉาชีพบางคนทำการปลอมเว็ปไซต์ โดยใช้ชื่อเว็ปไซต์ที่คล้ายกับเว็ปไซต์ของรัฐบาลที่ให้ประชาชนไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต และเมื่อประชาชนมาลงทะเบียนในเว็ปไซต์ปลอมแล้ว ก็จะนำข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ของเหยื่อไปใช้ จนเหยื่อหรือผู้อื่นได้รับความเสียหาย

รองโฆษก ตร. และโฆษก บช.สอท. ขอฝากเตือนไปยังผู้ที่มีพฤติกรรมลักษณะดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นการกระทำผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ก็อาจจะมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

ทั้งนี้ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้เล็งเห็นถึงปัญหาและพิษภัยต่างๆ บนโลกออนไลน์จึงมอบนโยบายไปยัง พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ให้ทาง บช.สอท. ป้องกันปราบปราม และจับกุมผู้กระทำความผิดบนโลกออกไลน์รวมถึงให้สร้างการรับรู้ถึงพิษภัยต่างๆ บนโลกออนไลน์ พร้อมกับแนวทางการป้องกันให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อป้องกันเหล่ามิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสซ้ำเติมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

จึงขอเรียนประชาสัมพันธ์ถึงแนวทางการหลีกเลี่ยงป้องกันการถูกหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าวมายังพี่น้องประชาชนว่า ควรศึกษาเงื่อนไขของโครงการให้ชัดเจนก่อนลงทะเบียน, อย่าหลงเชื่อคนที่มาแอบอ้างหรือรับแลกเปลี่ยนอะไรก็ตามที่ขัดกันเงื่อนไขของโครงการฯ, ควรเข้าหน้าเว็บไซต์จากการพิมพ์ URL เท่านั้น ไม่เข้าจากการคลิกลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือ สแกน QR code เพราะอาจถูกส่งไปยังเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาหลอกลวงได้ 

โดยช่องทางที่รัฐบาลได้จัดทำสำหรับโครงการเราชนะ มีเฉพาะเว็บไซต์ “www.เราชนะ.com” และรับเงินช่วยเหลือผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เท่านั้น อีกทั้งอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่ไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้าหรือรับบริการจริงอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นท่านอาจตกเป็นเหยื่อ ที่สนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดโดยไม่รู้ตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: