"โคราช"ออกประกาศคัดกรองคนจาก "สมุทรสาคร"

20 ธ.ค. 2563 | 21:30 น.

ผู้ว่าฯ"โคราช" ออกประกาศคัดกรองคนที่มาจาก "สมุทรสาคร" พร้อมเฝ้าระวังโควิด-19 อย่างเข้มงวด

หลังจากที่พ่อเมือง “โคราช” เพิ่งจะงัดมาตรการเข้มแก้ปัญหาภายในจังหวัดของตัวเอง สั่งให้ระงับการจัดคอนเสิร์ต “บิ๊กเมาน์เท่น” เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ไปหมาดๆ กับสถานการณ์ล่าสุดกรณีที่การการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาครนั้น

 

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงนามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (COVID-19) สำหรับบุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร ระบุว่า ตามที่จังหวัดสมุทรสาครได้แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รายใหม่ในพื้นที่ ระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ถึง 19 ธันวาคม 2563 รวมจำนวน 548 ราย

 

ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคและมิให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดนครราชสีมา จึงเห็นสมควรกำหนดมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (COVID-19) สำหรับบุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร

 

อาศัยอำนาจตามความในข้อ 7 (1) ข้อ 33 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราช กำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่1 ) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 และมาตรา 22 (1) (7) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา จึงออกมาตรการ เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโควิด 19 (COVID-19) สำหรับบุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร ดังนี้

 

กรณีประชาชนที่อยู่ในจังหวัดนครราชสีมา

1.1 ให้ประชาชนที่อยู่ในจังหวัดนครราชสีมา ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งได้เข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2563 โดยเดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาครไปรายงานตัวกับผู้นำชุมชน หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ในพื้นที่ซึ่งอาศัยอยู่ภายใน 12 ชั่วโมง นับแต่เดินทางมาถึงจังหวัด นครราชสีมา หรือทราบหรือควรได้ทราบประกาศฉบับนี้

 

1.2 ให้ผู้นำชุมชน หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่รับรายงานตัวบุคคล ตามข้อ 1.1 บันทึกรายละเอียดการเดินทางของบุคคลตามข้อ1.1 ตามแบบรายงานแนบท้ายมาตรการนี้ แล้วให้ นำส่งแบบรายงานไปยังเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือสำนักงาน สาธารณสุขอำเภอ หรือโรงพยาบาลของรัฐ ในพื้นที่ภายในวันที่ได้รับรายงานตัว หากได้รับรายงานตัวในช่วงกลางคืน ให้นำส่งแบบรายงานในวันรุ่งขึ้น

 

1.3 ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ทำการคัดกรองโรคของบุคคลตามข้อ 1.1 ทุกคน หากพบว่า เป็นผู้มีความเสี่ยงต่อการติดโรคโควิด19 แล้ว ให้ออกคำสั่งให้บุคคลตามข้อ 1.1 กักตัวเพื่อให้คำแนะนำ ติดตาม สังเกต และบันทึกอาการทุกวัน ทั้งนี้ตามแนวทาง (Flow Chart) แนบท้ายมาตรการนี้

 

1.4 กรณีบุคคลตามข้อ 1.1 ที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ทําการคัดกรองโรคแล้ว ไม่พบอาการหรือความเสี่ยงต่อการติดโรคโควิด 19 ให้สังเกตอาการตามแนวทางการเฝ้าระวังอยู่ที่บ้านหรือที่พัก โดยแยกพักอาศัยเป็นสัดส่วนจากบุคคลอื่น งดการอยู่ใกล้บุคคลอื่น สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 เมตร งดการไปที่สาธารณะ หรือสถานที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น

 

งดใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ช้อนส้อม ผ้าเช็ดหน้า ร่วมกับให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม เช่น หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ทั้งนี้หากพบอาการผิดปกติ เช่น มีใช้ ไอ เจ็บคอ หอบ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคโควิด 19 ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือโรงพยาบาลที่อยู่ในท้องที่ทันที

 

1.5 หากบุคคลที่ถูกสั่งให้กักตัวมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางไปยังพื้นที่อื่นนอกจังหวัดนครราชสีมา ก่อนครบกำหนดกักตัว ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการวัดไข้และประเมินก่อนที่จะให้เดินทาง หากพบว่ามีอาการใช้เป็น 37.5 องศาเซลเซียส ให้นำส่งโรงพยาบาลทันที

 

1.6 ให้ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ติดตาม ค้นหาว่ามีบุคคล ตามข้อ 1.1 เข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบหรือไม่โดยเคร่งครัด หากพบว่ามีบุคคลตามข้อ 1.1.ให้แจ้งเจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่เพื่อคัดกรองโรค แล้วบันทึกข้อมูลตามแบบรายงานแนบท้ายมาตรการนี้ทันที

 

1.7 ให้ผู้ใหญ่บ้านรายงานจำนวนบุคคลตามข้อ 1.1  และข้อ 1.6 ต่อนายอำเภอทุกวัน ก่อนเวลา 18.00 น.และให้นายอำเภอรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาทุกวัน เวลา 18.00 น.จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

 

1.8 ให้ผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์ให้คนในหมู่บ้านทราบว่า มีผู้เดินทางมาตามข้อ 1.1 หรือข้อ 1.6 พักอยู่กับครัวเรือนผู้ใด เพื่อให้บุคคลอื่นโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จะได้ถือปฏิบัติในการเว้นระยะห่าง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โควิดสมุทรสาคร ลามถึง "นครปฐม" พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 2 ราย 

สมุทรปราการ ติดโควิด 3 รายเชื่อมโยงกับ สมุทรสาคร

กทม.ประกาศ 10 มาตรการรับมือโควิด

สั่งด่วน 4 ข้อทุกโรงเรียนเตรียมรับมือ "โควิดสมุทรสาคร"

 

1.9 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหมู่บ้านประชาสัมพันธ์อย่างเข้มข้น เพื่อให้ประชาชน ในจังหวัดนครราชสีมาต้อง

-ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

-เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยให้อยู่ห่างอย่างน้อย 1 เมตร

 

1.10 หากพบว่ามีผู้ต้องกักตัว ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

2. กรณีผู้เดินทางมาที่จังหวัดนครราชสีมาแบบไป - กลับ ทั้งผู้มาติดต่อราชการหรือมาปฏิบัติ ภารกิจอื่นใดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

 

2.1 สำหรับผู้เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาครตามข้อ 1.1 กรณี ไป - กลับ ทั้งผู้ที่มาติดต่อราชการ หรือมาปฏิบัติภารกิจอื่นใดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ต้องบันทึกรายละเอียดการเดินทางตามแบบรายงานแนบท้าย มาตรการนี้ โดยให้หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กร ผู้ดูแลสถานที่ และชุมชนทุกแห่งที่มีบุคคลที่เดินทางมา จากจังหวัดสมุทรสาครตามข้อ 1.1 มาติดต่อราชการหรือเข้ามาในพื้นที่ เป็นผู้บันทึกข้อมูลและรวบรวมแบบรายงาน ส่งสำนักงานสาธารณสุขอำเภอที่เป็นที่ตั้งของหน่วยงานหรือชุมชนภายในวันที่บันทึกข้อมูล เพื่อรวบรวมไว้เป็นข้อมูล สำหรับตรวจติดตามโรคตามมาตรการควบคุมโรคติดต่อของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป

 

2.2 สำหรับผู้เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาครตามข้อ 1.1 ที่ได้เข้าพักที่โรงแรม คอนโดมิเนียม อะพาร์ตเมนต์ รีสอร์ต ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ต้องบันทึกรายละเอียดการเดินทางตามแบบรายงานแนบท้าย มาตรการนี้ โดยให้เจ้าหน้าที่ของโรงแรม คอนโดมิเนียม อะพาร์ตเมนต์ รีสอร์ต ที่เข้าพักเป็นผู้บันทึกข้อมูลและ รวบรวมแบบรายงานส่งสำนักงานสาธารณสุขอำเภอที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม อะพาร์ตเมนต์ รีสอร์ต ภายในวันที่บันทึกข้อมูล เพื่อรวบรวมไว้เป็นข้อมูลสำหรับตรวจติดตามโรคตามมาตรการควบคุมโรคติตต่อของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป

 

2.3 ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบพื้นที่ ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัว รวมทั้งการสังเกตอาการ โดยคำนึงถึงหลักการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทั้งนี้หากบุคคลตามข้อ 2.1 หรือข้อ 2.2 มาพัก ค้างคืนให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบพื้นที่ทำการคัดกรองบุคคลดังกล่าวทุกวัน หากมีความจำเป็นต้องให้กักตัว ให้ออกคำสั่งกักตัวโดยเร็ว

 

2.4 หากบุคคลที่ถูกสั่งให้กักตัวมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางกลับก่อนครบกำหนดกักตัว ให้เจ้าหน้าที่ สาธารณสุขทำการวัดไข้และประเมินก่อนที่จะให้เดินทาง หากพบว่ามีอาการใช้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ให้นำส่งโรงพยาบาลทันที

 

2.5 ระหว่างที่บุคคลตามข้อ 2.1 หรือข้อ 2.2 พักอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ต้อง

-ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

- เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) โดยให้อยู่ห่างจากบุคคลอื่นอย่างน้อย 1 เมตร

-ล้างมือบ่อยๆ โดยใช้สบู่และน้ำ หรือเจลล้างมือที่มีส่วนผสมหลักเป็นแอลกฮอล์

- ลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่ผ่าน QR-Code “ไทยชนะ” หรือบันทึกข้อมูลในแบบบันทึกข้อมูลที่สถานที่นั้น ๆ จัดไว้

 

2.6 หากพบว่า มีผู้ต้องกักตัว ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

 

3. ให้สถานประกอบการ โรงงาน ตลาด กิจการร้านค้าที่มีแรงงานต่างชาติอยู่ในสถานที่ เฝ้าระวัง ตรวจสอบ งดการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามจังหวัด ทั้งเข้า และออก ถ้าพบมีแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ ขอให้แจ้ง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบพื้นที่เพื่อดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดทันที

 

4.การจัดกิจกรรมปีใหม่ หรือกิจกรรมที่มีการรวมของประชาชนต่าง ๆ ขอให้พิจารณาลดจำนวน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเท่าที่จำเป็น และให้มีการลงทะเบียนผ่าน QR-Code "ไทยชนะ” หรือลงทะเบียนผู้เข้าร่วม กิจกรรมทุกราย