เปิดไทม์ไลน์ "ทหารเกาหลี" ติดโควิด-19

11 พ.ย. 2563 | 06:28 น.

เปิดไทม์ไลน์ ทหารเกาหลีใต้ ติดโควิด-19 หลังกลับจากไทย พบ เข้าประชุมวางแผนขั้นสุดท้ายฝึกคอบบร้าโกลด์ ในโรงแรมอ.บ้านฉาง-โรงแรมย่านสุขุมวิท

11 พฤศจิกายน 2563 จากกรณีพบ "ทหารเกาหลีใต้" ร่วมฝึกคอบบร้าโกลด์ ครั้งที่ 21 ที่จังหวัดระยอง ตรวจพบติดโควิด -19 หลังเดินทางกลับจากไทย โดย แพทย์หญิงวลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการสอบสวนโรคว่า เนื่องด้วยในการประชุมวางแผนขั้นสุดท้ายของการฝึกคอบบร้าโกลด์ ครั้งที่ 21 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3-5 พ.ย. 2563 มีผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ โดยรูปแบบการประชุมนั้น จะนั่งอยู่ในห้องประชุม และ แบ่งกลุ่มประชุม โดยแบ่งออกเป็น  5 กลุ่มย่อย กลุ่มละ 40 นาย มีทหารเข้าร่วมในครั้งนี้  202 นาย เป็นนายทหารจากต่างประเทศ  25 นาย ประกอบด้วย นายทหารจากสหรัฐ 12 นาย สาธารณรัฐเกาหลี  5  นาย  อินโดนีเซีย และ ออสเตรเลีย ประเทศละ 2  นาย จากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน และอินเดีย ประเทศละ 1 นาย  และนายทหารไทย จำนวน  177 นาย  โดยการประชุมดังกล่าว จัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอ.บ้านฉาง จ.ระยอง

 

นอกจากการประชุมแล้ว จะมีการรับประทานอาหารกลางวัน และอาหารเย็น ร่วมกันแบบบุฟเฟ่ต์ และทหารทุกนายที่เข้าร่วมการฝึกครั้งนี้ สำหรับทหารต่างชาติจะมีการดำเนินการตามข้อกำหนด คือ มีการตรวจเชื้อก่อนมีการเข้าประเทศ กักตัวอยู่ใน ASQ เป็นเวลา 14 วันและมีการตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้งทุกนาย ซึ่งไม่พบการติดเชื้อ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยอดโควิด 11 พ.ย.63 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย มาจากต่างประเทศ 

สธ.นัดแถลงด่วน 11.30 น.หลังพบทหารเกาหลีใต้ ร่วมฝึกที่จ.ระยองติดโควิด

Live สธ.แถลงกรณีพบ "ทหารเกาหลีใต้" ร่วมฝึกที่จ.ระยอง ติดโควิด 

ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 51.7 ล้านราย เพิ่มขึ้น 4.8 แสนราย

 

สำหรับนายทหารเกาหลีคนดังกล่าว ได้รับรายงานเมื่อวันที่  9  พ.ย.ที่ผ่านมา โดยทางสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย แจ้งมาว่า หลังจากกลับไปมีการตรวจหาเชื้อที่สนามบินอินชอนด้วยวิธี RTPCR ผลพบเชื้อ จึงได้แจ้งกลับมายังไทย

 

ทั้งนี้ นายทหารรายดังกล่าว เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 63 เพื่อเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เดินทางจากสนามบิน โดยสารรถของโรงแรมที่มารอรับ เข้าพักที่โรงแรมที่เป็น  ASQ

 

จากนั้นกักตัวตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.- 1 พ.ย. 63 รับการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RTPCR  จำนวน 2 ครั้ง คือ ในวันที่ 22 และวันที่ 29 ต.ค. ผลไม่พบเชื้อ โดยก่อนเดินทางเข้าไทยได้รับการตรวจที่เกาหลีมาแล้ว 1 ครั้ง ไม่พบเชื้อ

 

หลังจากครบกำหนดได้ย้ายเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านสุขุมวิท ซึ่งมีรถจากกองอำนวยการฝึกไปรับที่กักตัว ASQ และเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าว โดยปฏิบัติตัวตามมาตรการฐานทั่วไป อาทิ รับประทานอาหารเย็นในร้านอาหาร สวมหน้ากากอนามัย และ เว้นระยะห่าง เป็นต้น

 

จากนั้นในวันที่ 2 พ.ย.63 ได้เดินทางเข้าร่วมการฝึก โดยมีรถรับจ้างของสถานทูตไปรับที่โรงแรมก่อนเดินทางเข้าพักที่โรงแรมในอ.บ้านฉาง จ.ระยอง และไม่ได้ออกจากโรงแรมเลย ตั้งแต่วันที่ 3-5 พ.ย.63 โดยพักร่วมกับเพื่อนเกาหลีที่มาฝึกด้วยกัน 2 คน

หลังการฝึกเสร็จสิ้นลงได้เดินทางกลับ โดยมีรถรับจ้างของสถานทูตมารับเดินทาเข้าพักในวันที่ 6-7 พ.ย.ในโรงแรมย่านสุขุมวิท และไม่ได้ออกจากโรงแรม  กระทั่งในวันที่ 8 พ.ย.2563 ได้เดินทางโดยรถของสถานทูตเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางกลับประเทศ  

 

“ยืนยันว่า นายทหารทุกนายที่เข้าร่วมฝึกรวมถึงนายทหารเกาหลีที่ติดเชื้อ มีการปฏิบัติตามขั้นตอนการเข้าประเทศไทย มีการกักตัวและตรวจหาเชื้อโดยผลไม่พบเชื้อ หลังจากออกจากสถานที่กักกันก็ทำกิจกรรมต่างๆได้ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก และสร้างความเข้าใจกับประชาชนในจังหวัดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ขอยืนยันว่า นายทหารคนดังกล่าวได้รับการกักตัวแล้ว และจะไม่มีการแพร่เชื้อ และส่วนใหญ่ก็อยู่ในที่ประชุม”

 

ทั้งนี้ เบื้องต้นทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรคทั้งของกรมควบคุมโรคและส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับสำนักกรมอนามัย กทม. ได้ออกไปสอบสวนทั้งโรงแรม ASQ ที่นายทหารคนดังกล่าวเข้าพัก รวมถึงโรงแรมที่จัดประชุม รวมถึงติดตามนายทหารคนไทยที่เข้าประชุมร่วม ซึ่งอยู่ระหว่างส่งตรวจ อยู่ระหว่างรอรวบรวมจำนวน และผลการตรวจ โดยทุกนายได้เข้ารับการกักกันตัวแล้ว

 

สำหรับทหารต่างชาติ จะมีการประสานงานตามกฎอนามัยระหว่างประเทศโดยจะแจ้งไปยังประเทศเหล่านั้นต่อไป อย่างไรก็ดี นายทหารที่พักห้องเดียวกันนั้น ได้มีการตรวจผลแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด