เปิดหมดใจที่มาข้อเสนอ"ยาแรง"ฟื้นอันดามัน

02 พ.ย. 2563 | 08:27 น.

   “วัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ” แจงที่มาข้อเสนอเอกชนให้ครม.สัญจรภูเก็ต 3 พ.ย.นี้ ขอยาแรงอัดฉีด 6 จังหวัดอันดามันด่วน "พักหนี้-ซอฟท์โลน-กองทุนร่วมทุน" อัดมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ลงทุนศูนย์สุขภาพนานาชาติระดับโลก

 “วัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ” แจงแนวคิดข้อเสนอเอกชนให้ครม.สัญจรภูเก็ต 3 พ.ย.นี้ ขอยาแรงอัดฉีด 6 จังหวัดอันดามันด่วน "พักหนี้-ซอฟท์โลน-กองทุนร่วมทุน" ก่อนสูญเสียธุรกิจให้ต่างชาติแล้วไม่อาจเรียกคืน พร้อมกระตุ้นท่องเที่ยวพื้นที่ให้ข้าราชการมาสัมมนาในพื้นที่ ปูพรมมหกรรมอาหาร-กีฬา ดันเมืองอัจฉริยะ มารีนาชุมชน ลงทุนศูนย์สุขภาพระดับโลก 
เปิดหมดใจที่มาข้อเสนอ"ยาแรง"ฟื้นอันดามัน              

นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงข้อเสนอภาคเอกชนต่อที่ประชุมครม.สัญจร จ.ภูเก็ต วันที่ 2-3 พ.ย.2563 นี้ ว่า ในส่วนภาคเอกชนได้ข้อสรุปที่จะนำเสนอต่อครม.สัญจรครั้งนี้ หลัก ๆ ก็คือการเยียวยา ฟื้นฟู ผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019  ซึ่งมีอยู่ 2 ด้าน
               

ด้านหนึ่งก็คือการเยียวยาทางด้านการเงิน และอีกด้านหนึ่งก็คือมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ การเยียวยาทางด้านการเงินที่เราขอให้รัฐบาลดำเนินการคือ ขอพักการชำระเงินต้น 3 ปี แล้วให้คิดเฉพาะดอกเบี้ย โดยขอให้คิดดอกเบี้ยลดลงเหลือ 2 เปอร์เซ็นต์ 3 ปี  
           

เหตุผลก็คือวันนี้ต้องยอมรับว่ากระบี่ พังงา ภูเก็ต ขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยว 80-90 เปอร์เซ็นต์ ที่มาจากต่างประเทศ แล้ววันนี้ท่องเที่ยวภายในประเทศไม่สามารถช่วยเราได้จริง ๆ “ไม่ได้บอกว่าคนไทยไม่เที่ยวนะ คนไทยก็เที่ยว แต่ไม่เพียงพอกับการเยียวยาที่เขาลงทุนมาก่อนหน้านี้ ฉะนั้นใน 3 จังหวัดนี้มันต้องใช้ยาแรงเอาแค่อันดามันกระบี่ พังงา ภูเก็ต”
             

ซึ่งเราไม่ได้ขอทั่วประเทศ เพราะถ้าขอทั่วประเทศ ก็จะเป็นตามที่ว่ากระทบเรื่องวินัยทางการเงิน และบางคนยังสามารถจ่ายได้ อันนั้นเรายอมรับ แต่สำหรับ กระบี่ พังงา ภูเก็ต มันชัดเจนว่าธุรกิจท่องเที่ยวไปไม่ได้ และเมื่อไปไม่ได้มันก็จะล้ม คำว่าล้มไม่ได้หมายความว่าเราตาย เราไม่ตาย แต่ธุรกิจตาย เพราะจะต้องขายให้กับนักลงทุน กองทุนต่างประเทศ 
           

และเมื่อขายไปแล้วเราจะมีโอกาสขึ้นมาเป็นเจ้าของอีกหรือไม่ ไม่มีทางแล้ว ถ้าขายอาคาร ขายตึก ขายโรงแรมไป แล้วเจ้าตัวจะสามารถกลับมาซื้อคืนได้อีกมั๊ย?  ไม่มีทาง  ลูกหลานจะมาสร้างได้อีกมั๊ย? ไม่มีทาง
           

“พอไม่มีทางธุรกิจก็ตกไปอยู่ในมือต่างประเทศ เมื่อผ่านไป 3-5 ปีข้างหน้ามันฟื้นกลับมา ธุรกิจที่เติบโตในประเทศไทยแต่มีเจ้าของจากต่างประเทศนั่นเอง”
             

ฉะนั้น วันนี้ด้วยเหตุผลนี้ที่จะต้องใช้ยาแรงกับ 3 จังหวัดนี้ แต่เวลาขอเราจะขอทั้ง 6 จังหวัดอันดามัน โดย 3 จังหวัดที่เหลือคือ ระนอง สตูล ตรัง การท่องเที่ยวแค่ 10 กว่าหรือ 20 เปอร์เซ็นต์ของ 3 จังหวัด (กระบี่ พังงา ภูเก็ต) ซึ่ง 3 จังหวัดนี้มันคือ 80 เปอร์เซ็นต์ของ 6 จังหวัดอันดามัน  ซึ่งเขาจะได้อานิสงค์จากตรงนี้ก็ควรจะให้เขาเหมือนกัน
           

อันที่สอง ในขณะที่พักชำเงินต้นแล้วลดดอกเบี้ย แสดงว่าธุรกิจนี้เขายังพอกระท่อนกะแท่นไปได้  แต่ธุรกิจที่มันไม่ได้เลย เพราะเขาไม่มีเงินเลย อันนี้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจะต้องเข้ามาช่วยเขา โดยให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธทป.) ผ่อนปรนหลักเกณฑ์ที่ธนาคารพาณิชย์ใช้พิจารณา เช่น ไม่มีรายได้ รายได้ไม่มี โปรไฟล์ไม่สวย คุณจะจ่ายคืนภายใน 6 เดือน 8 เดือน มันไม่มี ก็ต้องยืดไป
           

“หลักเกณฑ์ตรงนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องผ่อนปรน  จะด้วยแก้กฎระเบียบหรืออะไรก็ไปว่ากัน”
           

อันที่สามก็คือ ขอให้พิจารณาจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่องจากการท่องเที่ยว กองทุนลงทุนจากเงินของรัฐแต่จะเป็นเงินจากไหนไม่รู้ โดยเงินนี้ก็ไม่ได้เป็นเงินให้เปล่า เป็นกองทุนปล่อยกู้เพื่อมาร่วมลงทุนกับเขา  มาซื้อหุ้นเขา เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการที่ยังไปได้ในแต่ประเภทของธุรกิจ เดินต่อไปได้
             

ซึ่งธุรกิจที่ไปได้หรือไม่ได้ก็ดูจากอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปี 2562  ที่ผ่านมา แล้วมองไปถึง ปี 2565 ว่าจะไปได้มั๊ย ซึ่งกองทุนนี้จะเป็นกองทุนพิเศษเลยเพื่อช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่องจากการท่องเที่ยว
             

“ธุรกิจต่อเนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยว เช่น รถเช่าต่าง ๆ ทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์  รถตู้ ที่กำลังมีปัญหารถถูกยึด อย่าให้ทรัพย์สินเขาถูก เมื่อรถถูกยึดก็ไม่มีอาชีพ และเมื่อธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาก็ไม่เหลือธุรกิจเหล่านี้ไว้รองรับได้”
             

โดยการดำเนินการของกองทุนนี้ก็จะไม่ถึงกับขาดทุน 100 เอปร์เซ็นต์ อย่างน้อยก็มีหุ้น มีทรัพย์สินอยู่ในมือ และเมื่อธุรกิจมันไปได้เงินกู้ เงินร่วมทุน มันก็กลับคืนกองทุน
             

“มันฟังเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง แต่วันนี้เราไม่ได้ขอทั้งประเทศ โอกาสที่ครม.สัญจรมาลงที่จ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา และเกาะสมุย เขาจะมาเห็นเลยว่าเขาไม่มีรายได้จริง และมันต้องใช้ยาแรงช่วย”
               

เพราะหากปล่อยให้ธุรกิจตายไป จะกลับมาฟื้นใหม่มันยากมาก  แต่สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวอนาคตไม่ตายแน่นอน แต่คนที่เป็นเจ้าของไม่ใช่คนไทยเสียแล้ว 
               

ด้วยเหตุผลนี้รัฐบาละต้องใช้มาตรการทั้งหลายทั้งปวงที่มีอยู่ โดยมติครม. โดยแก้กฎหมาย โดยแก้กฎกระทรวงอะไรก็แล้วแต่ ทำให้มันสามารถช่วยได้จริง ๆ 
               

“ในที่ประชุมพูดบอกว่าอันไม่ได้ อันนี้ผิดระเบียบ ผมก็บอกว่าอย่างนี้ก็ไม่ต้องมาเสนอ เพราะเสนอแล้วอันนี้ก็ไม่ได้ อันโน้นก็ไม่ได้ ในเมื่อระบบธรรมดามันไม่ได้ มันก็ต้องมติครม. หรือแก้กฎหมาย หรือแก้กฎกระทรวง หรืออะไรก็ว่าไป อันนั้นประเด็นที่หนึ่งเรื่องการเยียวยาด้านการเงิน”
  เปิดหมดใจที่มาข้อเสนอ"ยาแรง"ฟื้นอันดามัน              

เปิดหมดใจที่มาข้อเสนอ"ยาแรง"ฟื้นอันดามัน

นายวัฒนา กล่าวว่า สำหรับประเด็นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจก็มีอยู่ 2 เรื่อง ใหญ่  เรื่องที่หนึ่ง ให้รัฐมีนโยบายเชิญชวน หรือจะประกาศ หรือจะใช้ระเบียบก็ตาม ขอให้ราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นปกครองส่วนท้องถิ่นหรือราชการ มาจัดอบรมสัมมนาในพื้นที่  ซึ่งจริง ๆ มันก็มีอยู่ แต่ เขาใช้คำว่าพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ มันกระจาย แต่ถ้ากำหนดให้มาในพื้นที่ 3 จังหวัด กระบี่ พังงงา ภูเก็ต มาแบบเนื้อ ๆ ก็จะทำให้เห็นเป็นรูปธรรมชัด  เพราะหากหยุดยาวสัก 3 วัน 4 วัน ตรงนี้ก็อยากให้ภาครัฐมีนโยบายเฉพาะเจาะจงพื้นที่ลงมา ซึ่งไม่ต้องให้ต่างชาติมาก่อน มันจะช่วยได้ เ
    

มิเช่นนั้นต้องรอให้ต่างชาติเข้ามา พอจะเปิดให้ต่างชาติเข้า เราก็กลัว ว่าจะมีเรื่องผลกระทบระบาดระลอกที่สองตามมา  เพราะฉะนั้นถ้าหากภายในประเทศมันเดินได้เราก็ไม่ต้องร้องขอต่างประเทศหรอก  ถ้าทำให้เรามีรายได้ มีเงินจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ จ่ายดอกเบี้ยได้ 
             

เรื่องที่สองเราขอสนับสนุนการจัดโครงการมหกรรมอาหารและมหกรรมกีฬา มหกรรมอาหารเกี่ยวกับการท่องเที่ยวก็คือ มากินมาเที่ยวในชุมชนในพื้นที่ หรือการแสดงสินค้าท่องเที่ยว มหกรรมการท่องเที่ยว
             

“แต่ทั้งหมดเชื่อมกับการท่องเที่ยว มหกรรมอาหารก็เชื่อมกับการท่องเที่ยว  มหกรรมการกีฬาก็เชื่อมกับการท่องเที่ยว เราของบประมาณสำหรับงานกิจกรรรม ฟู้ดแอนด์สปอร์ตเฟสติวัล จำนวน 174 ครั้งใน 6 จังหวัดอันดามัน”
               

จัดในจ.สตูล-ระนอง-พังงา จังหวัดละ 20 ครั้ง  จัดในจ.ตรัง-กระบี่ จังหวัดละ 30 ครั้ง จัดในจ..ภูเก็ต 54 ครั้ง ในช่วงระยะเวลา 1 ปี ซึ่งทั้งหมด 174 ครั้ง ซึ่งในจำนวน 174 ครั้ง ถ้าจัดมหกรรมของอาหารชุดหนึ่ง มหกรรมของกีฬาชุดหนึ่ง
               

จะทำให้เรามีกิจกรรมทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 348 ครั้ง  มันสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่ง 1,000 ล้านนั้นอยู่ในพื้นที่อยู่ในท้องถิ่น  ซึ่งทุกจังหวัดพร้อมหมดแล้วในขณะนี้
                 

“การจัดก็มีการสลับกันแต่ละหมู่บ้าน แต่ละตำบล ไม่ตรงกัน ตรงนี้จะเป็นการปูพรม ไม่ใช่จัดแค่ 7 วันแล้วหาย แต่อันนี้สามารถจัดได้ตลอดทั้งปีและวิ่งรอกในพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน 1 ปี 52 สัปดาห์จัดได้แทบทุกสัปดาห์”
                 

ประเด็นที่สามเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจก็คือ ส่งเสริมการจ้างงานของหน่วยงานภาครัฐ จ้างทำความสะอาด จ้างสำรวจสำมะโนครัว จ้างเพาะพันธุ์กล้าไม้  เป็นต้น ซึ่งหากรัฐสามารถจ้างได้ก็จะทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ได้หลายหมื่นตำแหน่ง  ตรงนี้ก็สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ นอกเหนือจากการอบรมสัมนา มหกรรมอาหาร มหกรรมกีฬา
             

“ตรงนี้ถ้าทำได้พร้อม ๆ กันต่างประเทศเราไม่ต้องเรียกหาเลย”
    เปิดหมดใจที่มาข้อเสนอ"ยาแรง"ฟื้นอันดามัน          

เปิดหมดใจที่มาข้อเสนอ"ยาแรง"ฟื้นอันดามัน

ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว เรื่องที่หนึ่งก็คือ โครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอันดามันเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 เรื่องสำหรับเมืองอัจริยะอันดามัน

1.เรื่องฐานข้อมูล เพื่อการบริหารแบบบูรณาการ 3 จังหวัด
   “คำว่าเมืองอัจฉริยะอันดามันเราพูดแค่ 3 จังหวัด (กระบี่ พังงงา ภูเก็ต) เนื่องจากมีการประกาศเป็นสมาร์ทซิตี้ไปแล้วส่วนอีก 3 จังหวัด ( ตรัง  สตูล ระนอง) ยังไม่ได้ประกาศ”              

2.ระบบบริหารจัดการด้านความปลอดภัยสาธารณสุข

3.ระบบวิเคราะห์และติดตามข้อมูลสาธารณสุขของประชาชนเหมือนกับโควิด-19 ที่เราอยู่ และ

4.ระบบอินเทอร์เน็ตสาธารณะความเร็วสูง ต่อยอดจากอินเทอร์เน็ตประชารัฐ ซึ่งอินเทอร์เน็ตประชารัฐต้องยอมรับว่าความเร็วยังต่ำ และไม่ครอบคลุมพื้นที่ ฉะนั้นถ้าเราต้องการให้เป็นเมืองอัจฉริยะแล้วเป็นเมืองสปอร์ตซิตี้อันดามันแล้ว ระบบมันก็ต้องดี ความเร็วต้องสูง
           

“ความเร็วสูงเพื่ออะไร ก็เพื่อเวิร์คฟรอมอันดามัน ก่อนหน้านี้เรามีเวิร์คฟรอมโฮม ซึ่งเวิร์คฟรอมโฮมเราไม่ได้เงินเขานะเพราะเขาอยู่บ้าน แต่ถ้าเวิร์คฟรอมอันดามัน คุณอยู่ที่ไหนก็สามารรถทำงานได้ เพราะอินเทอร์เน็ตดีเราได้เงินนะ”
             

ตรงนี้ก็จะต่อเนื่องจากที่เราให้คนเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ แล้วสามารถทำงานในพื้นที่ได้ด้วย เราก็สามารถกระตุ้นให้เขาเข้ามา แต่ถ้าเขาเข้ามาอยู่เกาะพีพีแล้วทำงานไม่ได้เขาก็ไม่มา
             

และเรื่องที่สำคัญก็คือ การยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก ซึ่งจะมี 2 โครงการ คือ มีที่ดินที่หาดไม้ขาว จ.ภูเก็ต จำนวน 141 ไร่ ที่ก่อนหน้านี้จะสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ แต่งบประมาณจัดสรรให้กับจ.เชียงใหม่แทน ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขขอใช้พื้นที่เพื่อสร้างศูนย์สุขภาพระดับโลก ก็คือการจัดตั้งศูนย์บริการทางการแพทย์  ศูนย์อภิบาลสุขภาพผู้สูงอายุ  ศูนย์ใจรัก ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูครบวงจร 
             

อีกโครงการเป็นของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ม.อ.) วิทยาเขตภูเก็ต มีพื้นที่ 40 ไร่ เป็นศูนย์ผลิตบุคลากรทางการแพทย์ทางด้านสุขภาพ และศูนย์วิจัยและพัฒนา 
         

“ทั้งสองโครงการจะเป็นโครงการที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ไม่ต้องกลัวเจ็บไข้ ไม่สบาย ไม่ต้องกลัวเรื่องติดโรค เพราะหากติดโรคสามารถรักษาได้เลย”
           

อันที่สามก็ขอรัฐบาลสนับสนุนทำโครงการมารีน่าชุมชน ก็คือมารีน่าฟอร์ออล หมายความว่าในขณะนี้เรามีท่าเรือชุมชนใน 6 จังหวัดอันดามันกว่า 90 ท่าเรือ เป็นท่าเรือเล็ก ๆ ท่าเรืออบต. ท่าเรือชุมชน  ซึ่งเป็นท่าเรือเล็ก ๆ แต่ท่าเรือนี้มันก็จะเป็นแท่งปูน หรือสะพานปูน แล้วมีบันไดเล็ก ๆ 20-30 ขั้น แล้วแต่ระดับน้ำ เวลาเทียบท่าก็ต้องปีน ซึ่งความปลอดภัยไม่มี  เราก็ต่อยอดการทำโป๊ะ ทำปีกในการจอดเรือหางยาว จอดเรือมารีน่า เรือท่องเที่ยว 
           

“ตรงนี้เราจะขอนำร่อง 6 จังหวัด 6 ท่าเรือก่อน ถ้าทำได้แล้วค่อยขยายไปอีก 96 และ 98 ท่าเรือในอันดามัน จะทำให้ชุมชนมีรายได้จากการท่องเที่ยว และการเทียบท่าซื้อสินค้า อาหารของชุมชน สินค้าชุมชนลงเรือกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน”
         

สุดท้ายด้านโครงสร้างพื้นฐานก็คือ ขอขยายทางวิ่งสนามบินตรังจาก 2,100 เมตร เป็น 2,900 เมตร  ซึ่งสนามบินได้รับงบประมาณแล้ว 1,800 ล้านบาท แต่ว่าเราขอชดเชยอสังหาริมทรัพย์ 648 ไร่ วงเงิน 500 ล้านบาท

 

โดยสรุปคือสิ่งที่จะนำเสนอต่อครม.สัญจร 2-3 พ.ย. 2563 นี้ที่จ.ภูเก็ต

เปิดหมดใจที่มาข้อเสนอ"ยาแรง"ฟื้นอันดามัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกาะติด "ครม.สัญจรภูเก็ต" ฟื้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวภาคใต้ฝั่งอันดามัน

กลุ่มอันดามันชงครม.สัญจรยกฐานะภูเก็ต ‘ท้องถิ่นพิเศษ- เขตศก.ท่องเที่ยว’

"บิ๊กป้อม" แนะ โปรโมท "บรอดแบนด์สาธารณะภูเก็ต" หนุน แผนปั้นสมาร์ทซิตี้

“แรมโบ้”ถกเตรียมพร้อมรับครม.สัญจรภูเก็ต-สมุย