"หมอยง"ชี้ โควิด 19 ข้อจำกัดการพัฒนาวัคซีนของไทย "ไม่ได้อยู่ที่เงิน"

11 ก.ย. 2563 | 00:27 น.

 "หมอยง"ชี้ โควิด 19 ข้อจำกัดการพัฒนา วัคซีนของไทย"ไม่ได้อยู่ที่เงิน" แต่อยู่ที่การสร้างบุคลากรที่มีความสามารถ และยังแยกส่วน ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างพัฒนา

วันที่ 11 กันยายน 2563 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า โควิด 19 ข้อจำกัดในการพัฒนาวัคซีนในประเทศไทย

สิ่งที่สำคัญของการพัฒนาวัคซีนในประเทศไทย ที่ไปได้ช้า ไม่ได้อยู่ที่เงิน ขอยกตัวอย่างเช่นเมื่อไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาด องค์การอนามัยโลกให้เงินประเทศไทยและบราซิลมาเพื่อใช้ในการพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และรัฐบาลลงทุนสมทบอีก วัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่ได้ซับซ้อน ตรงไปตรงมาไม่ได้มีเทคโนโลยีมากมาย เรามีการสร้างโรงงานวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และโรงงานก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว มากกว่าพันล้านบาท แต่ใช้ระยะเวลามาถึง 10 ปี การพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ของไทย เพิ่งเข้าสู่การทดลองในมนุษย์ระยะที่ 3

ปัญหาอุปสรรคสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตัวเงิน ปัญหาใหญ่อยู่ที่การสร้างบุคลากรที่มีความสามารถของเรา นักวิจัยมีจำนวนจำกัดมาก และยังแยกส่วน ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างพัฒนา ทำให้เจือจาง ไม่รวมกันเข้ามาให้เข้มข้นขึ้นการพัฒนาวัคซีนป้องกัน โควิด 19 ในประเทศไทยจึงมีหลากหลายตำรับมาก แต่ละตำรับต้องใช้ทรัพยากร ที่มีจำนวนจำกัด ทั้งทางด้านบุคลากรและสถานที่ และการจัดสรรเรื่องของเงิน ก็จะทำให้ถูกเจือจังลง ประเทศไทยดีมากที่มีผู้บริจาคสมทบเป็นจำนวนมาก การพัฒนาวัคซีนตั้งแต่เริ่มต้น จะต้องใช้ห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานสูง GLP การทำทุกอย่างมีกฎระเบียบตามมาตรฐานสากล GMP และจริยธรรมในการศึกษาวิจัยไม่ว่าจะเป็นในสัตว์ทดลองและในมนุษย์ สถานที่ จึงอยู่กระจัดกระจาย ไม่ได้รวมกันหรือประสานงานกัน ต่างคนต่างทำ ในทรัพยากรที่จำกัด

ในช่วงไข้หวัดใหญ่ระบาด ทุกคนก็คิดที่จะทำวัคซีน แต่ขณะนี้เลยมาถึง 10 ปี ก็ยังอยู่ในระยะที่ 3 ในการศึกษาวิจัยในมนุษย์ ถ้ามองย้อนไปในอดีต ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ ตัวเงิน แต่ขาดการร่วมแรงร่วมใจให้เป็นหนึ่งเดียว ในการช่วยพัฒนาให้ประสบความสำเร็จ ในระยะแรกมีวัคซีนหลายตำรับเช่นกัน มีทั้งเชื้อเป็น และเชื้อตาย เราเดินผิดทางตอนต้นที่พัฒนาเชื้อเป็น แล้วจึงค่อยเปลี่ยนมาเป็นเชื้อตาย ที่ใช้ไข่ เมื่อมาจนถึงปัจจุบัน เราพัฒนาวัคซีนเป็นแบบ 3 สายพันธุ์ แต่ทั่วโลกใช้แบบ 4 สายพันธุ์ เราพัฒนาวัคซีนที่ใช้ไข่ที่ทำมาในอดีตมากกว่า 30 ปี ทั่วโลกกำลังจะเปลี่ยนจากไข่ มาเป็นเซลล์ culture เซลล์ที่ทำได้ง่ายกว่าในการเลี้ยงไก่ ทำให้เราตามไม่ทันเราขาดความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียว ทำนองเดียวกัน วัคซีนโควิด 19 น่าจะใช้บทเรียนจากการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 และอุปสรรคในการพัฒนาวัคซีนในอดีต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 28.3 ล้านราย ติดเชื้อเพิ่ม 2.8 แสนราย

โควิดพ่นพิษ "สิงคโปร์ แอร์ไลน์"ประกาศเลิกจ้าง 4,300 ตำแหน่ง

“แอสตร้าเซนเนก้า” ระงับทดลองวัคซีนโควิดชั่วคราว หลังพบผลข้างเคียง

"หมอธีระ"ชี้ สงครามโรคระบาดครั้งนี้ หัวใจสำคัญ ต้องไม่นำความเสี่ยงมาสู่ประเทศ