ท่ามกลางความวิตกกังวลและความหนักใจของประชาชนที่มีในบ้านเมือง ณ วันนี้ ทั้งในเรื่องของการเมือง เศรษฐกิจ สังคมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัญหารุมเร้าอีกหลากหลายรูปแบบที่นับวันยิ่งจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ความคิดเห็นของประชาชนจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่มีผลกระทบและควรเร่งแก้ไข เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “ความวิตกกังวลของประชาชน ต่อการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ณ วันนี้” กลุ่มตัวอย่าง 1,727 คน สำรวจวันที่ 25 - 28 ส.ค. 2563 สรุปผลได้ ดังนี้
1. “5 อันดับ” ความวิตกกังวลของประชาชนที่มีต่อ “การเมือง” ณ วันนี้
อันดับ 1 การสร้างความขัดแย้งแตกแยกทางการเมือง 75.80%
อันดับ 2 การซื้อเรือดำน้ำ 66.24%
อันดับ 3 การคุกคามต่อประชาชน 59.81%
อันดับ 4 การชุมนุมประท้วง 58.89%
อันดับ 5 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 54.37%
2. “5 อันดับ” ความวิตกกังวลของประชาชนที่มีต่อ “เศรษฐกิจ” ณ วันนี้
อันดับ 1 หนี้สินของประชาชน 80.78%
อันดับ 2 สินค้าแพง 76.78%
อันดับ 3 การว่างงาน 74.64%
อันดับ 4 การส่งออกติดลบ 67.52%
อันดับ 5 การกินอยู่ยุคโควิด-19 67.34%
ข่าวเกี่ยวข้อง
ชูสามนิ้ว ผูกโบว์ โพลสะท้อนสังคมไทยกำลังเผชิญความขัดแย้งทางอุดมการณ์การเมือง
กสิกรไทยมองศก.ปี 63 เสี่ยงหดตัว -10% ธุรกิจอาหาร-โรงแรม ยังน่าห่วง
3. “5 อันดับ” ความวิตกกังวลของประชาชนที่มีต่อ “สังคม” ณ วันนี้
อันดับ 1 การทุจริตคอร์รัปชั่น 83.56%
อันดับ 2 สุขภาพอนามัย (โควิด-19) 64.16%
อันดับ 3 การบูลลี่ (เหยียด/กลั่นแกล้ง/ข่มเหงรังแก) 62.02%
อันดับ 4 กระบวนการยุติธรรม (คดีบอส ) 61.96%
อันดับ 5 น้ำท่วม 55.88%
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “ความวิตกกังวลของประชาชน ต่อการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ณ วันนี้” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,727 คน พบว่า “ด้านการเมือง” วิตกกังวลเรื่องความขัดแย้งแตกแยก ร้อยละ 75.80 การซื้อเรือดำน้ำ ร้อยละ 66.24 “ด้านเศรษฐกิจ” วิตกกังวลเรื่องหนี้สิน ร้อยละ 80.78 สินค้าแพง ร้อยละ 76.78 และ “ด้านสังคม” วิตกกังวลเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ร้อยละ 83.56 สุขภาพอนามัย (โควิด-19)ร้อยละ 64.16
จากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองทั้งในและนอกสภา ส่งผลให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลเรื่องการเมืองถึงร้อยละ 75.80 ยิ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากระแสการอนุมัติซื้อเรือดำน้ำท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่ GDP ติดลบจนกระทบต่อปากท้องของประชาชน ยิ่งทำให้ประชาชนกังวลมากขึ้น ต้องการให้รัฐบาลรับฟังและแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนก่อน เพราะคนกังวลเรื่องหนี้สิน ร้อยละ 80.78 สินค้าแพง ร้อยละ 76.78 การว่างงานร้อยละ 74.64 และในด้านสังคมประชาชนกังวลเรื่องการทุจริตถึงร้อยละ 83.56 ซึ่งกังวลมากกว่าเรื่องโควิด-19 เกือบร้อยละ 20 เลยทีเดียว (กังวลเรื่องโควิด-19 ร้อยละ 64.16)
จากผลการสำรวจของสวนดุสิตโพลในเรื่องความวิตกกังวลของประชาชนต่อการเมือง เศรษฐกิจ สังคม แสดงให้เห็นถึง “อาการน่าเป็นห่วง” และ “ปัญหารุมเร้า” ของรัฐบาล ข้อกังวลของประชาชนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะส่งผลต่อความกังวลในอีกเรื่องหนึ่งเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความกังวลในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน ข้อขัดแย้งทางการเมือง การซื้อเรือดำน้ำ ฯลฯ
ยิ่งหันมามองตัวเลขความกังวลในด้านเศรษฐกิจยิ่งตอกย้ำความเป็นเรื่องเดียวกันในความรู้สึกของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นความกังวลในด้านหนี้สิน สินค้าราคาแพง และปัญหาการว่างงาน กล่าวโดยง่ายคือ ที่บ้านปากท้องยังไม่อิ่ม เจ้าหนี้ทวงหนี้อยู่หน้าบ้านแต่ผู้นำครอบครัวยังเอาเงินไปใช้จ่ายเพื่อการอื่น ความรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง และตำหนิถึงความไม่มีประสิทธิภาพของผู้นำยิ่งตามมา
ตัวเลขจากผลสำรวจย้ำเตือนให้รัฐบาลควรออกมายอมรับความจริงเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม ผลสำรวจสะท้อนเสียงของประชาชนว่า “ต้องการการเปลี่ยนแปลง” ทั้งนี้ปัญหาต่างๆ ไม่เคยอยู่นิ่ง มีแต่จะพอกพูนทับทวีขึ้นเรื่อยๆ และความรู้สึกของประชาชนก็เป็นเสียงสะท้อนของ “วิกฤตศรัทธาต่อรัฐบาล” อย่ารอให้ความวิตกกังวลก่อตัวและสะสมเป็นเชื้อเพลิงรอวันให้จุดติดอย่างทุกวันนี้
หากรัฐบาล “ไวต่อความรู้สึกวิตกกังวลของประชาชน” ขยับให้เห็นอย่างรวดเร็วและชัดเจนถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาต่างๆ สื่อสารด้วยความจริงใจ เพื่อให้ประชาชนได้มีความหวังในการเห็นการชำระสะสางข้อวิตกกังวล เชื่อแน่ว่าประชาชนจะเข้าใจและยังไม่ถึงทางตันในอนาคตของรัฐบาลอย่างแน่นอน