นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) “TEAMG” เปิดเผยว่า พายุโซนร้อนฮากูปิด (#04:Hagupit) ก่อตัวขึ้นในมหามุทรแปซฟิกเป็นลูกที่ 4 ของปีนี้ ต่อหลังพายุโซนร้อนซินลากู มาติดๆ แต่หันกลับ ลดความแรงลงเป็นพายุดีเปรสชั่น
ในวันที่ 3 สิงหาคม 2563 เคลื่อนผ่านทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ตอนบนของไต้หวัน แล้วไปขึ้นฝั่งไปทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ตอนใต้เซี้ยงไฮ้ ในวันที่ 4 สิงหาคม 2560 และ วันที่ 5 สิงหาคม 2563 เพิ่มความแรงเป็นพายุโซนร้อนอีกครั้ง แล้วไปขึ้นฝั่งทำให้ฝนตกหนักมาก ที่กรุงโซล ในเช้ามืด วันที่ 6 สิงหาคม 2563 และ ไปสลายตัวในทะเลญี่ปุ่น ในวันที่ 7 สิงหาคม 2563
ส่วนในไทยนั้น ขอให้ระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วม ดินถล่ม ในพื้นที่เสี่ยงด้วย
ส่วนผลกระทบจากพายุโซนร้อนซินลากู (#3:Sinlaku) เป็นพายุจรลูกที่ 3 ของปีนี้
วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม 2563 ฝนตกหนักถึงหนักมากที่ น่าน แพร่ เชียงราย พะเยา ตอนบนของลำปาง เชียงใหม่ และภาคตะวันตกติดกับชายแดนพม่าตั้งแต่แม่ฮ่องสอน แม่สอด กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก (และ กรุงเนปิดอว์และเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า)
วันอังคารที่ 4 สิงหาคม 2563 ฝนตกหนัก ในพื้นที่ตอนบนของเชียงราย และน่าน และภาคตะวันตกติดกับชายแดนพม่า ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ฝนตกหนักที่กรุงดักการ์ บังคลาเทศ)
วันพุธที่ 5 สิงหาคม 2563 จะมีฝนตกปานกลางกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย (พายุจะสลายตัวไปในประเทศบังคลาเทศ)