ญาติมอบศพ “จารุชาต มาดทอง” พยานคดี “บอสอยู่ วิทยา” ให้ชันสูตร

02 ส.ค. 2563 | 10:10 น.

ญาติของ “จารุชาต มาดทอง” พยานคนสำคัญคดี “บอสอยู่ วิทยา” ให้นำไปชันสูตร หลังตำรวเข้าไปเจรจาสำเร็จ ก่อนที่จะมีการฌาปนกิจช่วงบ่ายวันนี้

วันที่ 2 สิงหาคม ขณะที่ญาติของ นายจารุชาต มาดทอง อายุ 40 ปี พยานสำคัญในคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อยู่วิทยา กำลังจะดำเนินการฌาปนกิจศพ นายจารุชาติตามประเพณี หลังจากได้จัดให้มีบำเพ็ญกุศลมาตั้งแต่คืนวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมานับตั้งแต่นายจารุชาติเสียชีวิตเพราะรถจักรยานยนต์ชนกันที่ จ.เชียงใหม่ 

 

ปรากฏว่ามี พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ธาตรี กุลวัฒน์ ผกก.สภ.พาน พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าไปเจรจาเพื่อขอรับศพไปทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด ตามคำสั่งของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯสั่งอายัดศพ"จารุชาติ"ชันสูตรหาสาเหตุเสียชีวิตใหม่  

" วิชา'รับขอนายกฯเองอายัดศพ'พยานคดีบอส" ไขปมเสียชีวิต

คดี “บอส อยู่วิทยา” ดร.ปริญญา ยังมึน จี้ต้องทำให้ขึ้นศาล - ผบ.ตร.อย่าลอยตัว

"หมอแท้จริง" โชว์หลักฐานชัด พบ “โคเคน”ในร่าง “บอส อยู่วิทยา”

 

หลังจากได้มีการหารือกับทางญาติแล้วก็ได้รับการยินยอมแม้ว่าจะมีการแจ้งอย่างเร่งด่วนในช่วงเช้าวันนี้ก่อนถึงเวลาพิธีฌาปนกิจศพในช่วงบ่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่และญาติตกลงจะให้มีการประกอบพิธีโดยเคลื่อนศพไปยังฌาปนสถานและประกอบพิธีถวายผ้าบังสุกุลแด่พระสงฆ์ตามขั้นตอน จากนั้นจึงค่อยขอนำศพไปทำการชันสูตรพลิกศพต่อไป 

ญาติมอบศพ “จารุชาต มาดทอง” พยานคดี “บอสอยู่ วิทยา” ให้ชันสูตร

ทั้งนี้ในพิธีทาง พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ได้นำถวายและนำวางดอกไม้จันทน์ตามขั้นตอน และหลังประกอบพิธีแล้วเสร็จแล้วทางโรงพยาบาลพานได้เข้ารับศพเพื่อนำส่งโรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ โดยทาง พล.ต.ต.พิเชษฐ์ และคณะนำไปส่งในทันที

 

พล.ต.ต.พิเชษฐ เปิดเผยว่า เนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจและพนักงานต้องมีความละเอียดรอบคอบรวมทั้งทำให้หมดความน่าสงสัยในคดี โดยที่ผ่านมามีการดำเนินการร่วมกับทางแพทย์ไปแล้วแต่เป็นคดีเกี่ยวกับอุบัติเหตุ แต่หลังจากนั้นมีข้อสงสัยว่าอาจเกิดสาเหตุอื่นจึงได้ขออนุญาต ผบช.ภ.5 มาขอรับศพไปชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง

 

โดยได้หารือกับบิดาและมารดาของผู้ตายซึ่งไม่ได้รู้เรื่องการไปเป็นพยานในคดีใดๆ ของบุตรมาตั้งแต่ต้น เพราะออกจากบ้านไปนับ 10 ปี โดยพึ่งทราบว่าบุตรชายเสียชีวิตที่ จ.เชียงใหม่ หลังหารือด้วยเหตุและผลแล้วก็ทราบว่าญาติก็อยากทราบสาเหตุการตายที่แท้จริงจึงอนุญาตให้นำศพไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ให้ละเอียดดังกล่าว ซึ่งผลการตรวจเป็นอย่างไรก็จะได้แจ้งผลต่อสาธารณชน 

 

ส่วนวันและเวลาแล้วเสร็จก็ขึ้นอยู่กับทางทีมแพทย์ต่อไป ขณะเดียวกันก็จะไปตรวจสอบกรณีมีผู้เก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของนายจารุชาติให้กับญาติเรียบร้อยโดยไม่มีผู้ใดทราบว่าใครเก็บนั้นตนจะไปตรวจสอบให้อีกครั้ง รวมทั้งยืนยันว่าข้าวของเครื่องใช้โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือของผู้ตายนั้นทางโรงพยาบาลและหน่วยกู้ภัยได้เก็บเอาไว้ให้ครบถ้วนทุกอย่าง

พล.ต.ต.พิเชษฐ กล่าวอีกว่ากรณีนายสมชาย ตาวิโน คู่กรณีของนายจารุชาตินั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบปากคำมาแล้ว 2 ครั้ง พบคำให้การไม่ตรงกันโดยวันแรกให้การว่าไปดื่มสุราที่ร้านแห่งหนึ่งแต่เมื่อสอบถามทางพนักงานเสริฟในร้านก็พบว่าเป็นการดื่มเบียร์มากกว่า กระนั้นก็พบว่าวันที่สอบปากคำยังเมาสุราซึ่งอาจทำให้ให้การไม่ตรงกันก็ได้ 

 

เบื้องต้นจึงตั้งข้อหาขับขี่โดยประมาทจนทำให้มีผู้เสียชีวิตส่วนข้อหาเมาสุราแล้วขับขี่กำลังรอผลจากทางแพทย์ซึ่งสามารถเรียกตัวมาทราบข้อกล่าวหาต่อไปได้ ขณะที่กรณีมีภาพปรากฏว่านายสมชายนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะอาจไปพบกันที่ร้านโดยนั่งคนละโต๊ะแต่เมื่อร้านปิดก็ออกมาคุยกันได้ กระนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ตรวจสอบเพื่อให้สิ้นความสงสัยในคดีนี้ต่อไป