รู้จัก“มะเร็งโคนลิ้น”ที่คร่าชีวิต"ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ "

12 มิ.ย. 2563 | 09:29 น.

แพทย์เผย "มะเร็งโคนลิ้น"ที่พรากชีวิต"ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ "พบในไทยน้อย แต่แนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

การเสียชีวิตของ"ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ" เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2563  ด้วยวัย 72 ปี จากโรคมะเร็งโคนลิ้น ที่ได้ตรวจพบและเข้ารักษาอาการมาเป็นเวลากว่า 4 ปี  โดยอาการของโรคมะเร็งโคนลิ้นนั้นทางการแพทย์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของมะเร็งคอหอยส่วนปาก หรือที่เรียกว่ามะเร็งคอหอยหลังช่องปาก


นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในขณะนี้พบมะเร็งดังกล่าวได้น้อยในคนไทย โดยในปี 2558 พบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งคอหอยส่วนปากรายใหม่ 674 ราย ซึ่งถือว่าน้อยถ้าเทียบกับจำนวนผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ทั้งหมด ซึ่งมีปีละ 122,757 ราย แต่ก็พบว่ามีแนวโน้มที่จะพบมากขึ้นเรื่อย ๆ 


โดยชนิดของมะเร็งคอหอยส่วนปากที่พบบ่อยที่สุด คือ มะเร็งชนิด Squamous cell carcinoma ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับมะเร็งศีรษะและลำคอที่พบมากที่สุด ส่วนสาเหตุของการเกิดมะเร็งคอหอยส่วนปากนั้น เกิดจากการสูบบุหรี่ การดื่มสุรา และการติดเชื้อไวรัส Human papilloma virus (HPV) ซึ่งเป็นไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้น การมีคู่นอนหลายคนและการมีเพศสัมพันธ์ทางปากจึงอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงโรคนี้ด้วย

รู้จัก“มะเร็งโคนลิ้น”ที่คร่าชีวิต"ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ "
 

นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเกี่ยวกับอาการของมะเร็งคอหอยส่วนปากว่า ผู้ป่วยมักมีอาการกลืนลำบาก เจ็บคอเวลากลืนอาหาร มีเลือดออกทางช่องปาก ปวดหู พูดเสียงเปลี่ยน มีก้อนที่คอ 


หากมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ส่องกล้องทางหูคอจมูกเพื่อตรวจในลำคอ หากจำเป็นแพทย์จะสั่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กเพิ่มเติม


สำหรับการรักษามะเร็งคอหอยส่วนปากระยะเริ่มต้นเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนควรตระหนัก เพราะหากพบระยะเริ่มต้นจะสามารถรักษาอย่างทันท่วงทีและมีโอกาสหายสูง วิธีการรักษา ได้แก่ การให้รังสีรักษา และการผ่าตัด ส่วนการรักษากรณีเป็นมะเร็งระยะลุกลามที่ผ่าตัดไม่ได้ คือการให้รังสีรักษาควบคู่กับเคมีบำบัด  ซึ่งทั้งหมดจำเป็นต้องประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เนื่องจากมีปัจจัยที่ต้องคำนึงหลายประการ
 

ขณะที่การป้องกันโรคทำได้โดยการงดสูบบุหรี่ งดดื่มสุรา รวมถึงมีการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ที่สำคัญหากมีอาการหรือสงสัยว่ามีความเสี่ยงต่อมะเร็งคอหอยส่วนปาก ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย ซึ่งจะช่วยให้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงทีและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งคอหอยส่วนปากได้