ตลาดรถยนต์ 10 เดือน (มกราคม - ตุลาคม 2563) มีปริมาณการขาย 608,880 คัน ลดลง 27.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 36.8% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 20.9% สำหรับยอดขายที่ลดลงเป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ที่มีมาตั้งแต่ต้นปี
โดยค่ายรถที่ทำยอดขาย 5 อันดับแรกของปี 2563 (ม.ค. -ต.ค.)ประกอบไปด้วย 1. โตโยต้า 182,840 คัน ส่วนแบ่งตลาด 30.0 % 2. อีซูซู 140,700 คัน ส่วนแบ่งตลาด 23.1 % 3. ฮฮนด้า 74,058 คัน ส่วนแบ่งตลาด 12.2 % 4.มิตซูบิชิ 45,336 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.4 % และ 5. นิสสัน 37,061 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.1 %
ขณะที่เดือนตุลาคม 2563 มีปริมาณการขาย 74,115 คัน ลดลง 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 20.7% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่าแม้ตัวเลขการขายยังลดลง แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ภาพรวม โดยเฉพาะโควิด -19 ในประเทศกำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการ อย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ,โครงการ “คนละครึ่ง” และมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ซึ่งถือว่ามีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค อีกทั้งราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น ทำให้เกษตรกรเริ่มมีรายได้สูงขึ้นและกำลังซื้อมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลในเชิงบวกให้กับตลาดรถยนต์
"สัญญาณบวกในตอนนี้คือ มาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชน และเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และผู้บริโภคให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้เช่นกัน"
นายสุรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ค่ายรถยนต์ยังพยายามอย่างเต็มที่ในช่วงปลายปี ที่จะดึงดูดความสนใจและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ทั้งแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การออกกลยุทธ์ต่างๆ การบริการหลังการขาย เพื่อมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้า ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนมีทิศทางที่ดีขึ้น