ฮอนด้า ป้องแชมป์เก๋งเมืองไทย เสริมทัพ Honda City Hatcback - Honda City Hybrid

22 ต.ค. 2563 | 06:12 น.

ฮอนด้า พร้อมรักษาแชมป์ตลาดรถยนต์นั่งเมืองไทย ปลายปีนี้เล็งเสริมทัพ "Honda City Hatchback" และเตรียมวางขุมพลัง "Honda City Hybrid" ด้วย

ผ่านไตรมาส 3 ของปี 2563 “ฮอนด้า” กรุยทางสู่การเป็นแชมป์รถยนต์นั่งเมืองไทยอีกสมัย หลังยอดขายเซ็กเมนต์หลักกินเรียบโตโยต้า ทั้ง ซิตี้ ซีวิค และแอคคอร์ด ส่วนปลายปีนี้เตรียมเสริมทัพ Honda City Hatchback ทำตลาดแทน “แจ๊ซ” และยังวางแผนเพิ่มขุมพลังไฮบริด Honda City Hybrid เป็นทางเลือก

โตโยต้า โดนศึกหนักทั้งโควิด-19 และคู่แข่งที่แข็งโป๊ก โดยผ่านไป 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.2563) กลุ่มปิกอัพ ยอดขายตามหลังอีซูซุ 2.5 หมื่นคัน และมีโอกาสเสียแชมป์ในรอบกว่า 10 ปี ส่วนตลาดเก๋งโดนฮอนด้ากระหน่ำ โดยเฉพาะความสดใหม่ของ “ซิตี้” รวม 3 ไตรมาสขายได้ 25,724 คัน มากกว่า ยาริส เอทีฟ ที่ทำได้ 12,850 คัน

ในกลุ่มอีโคคาร์ โตโยต้าเพิ่งเปิดตัว ยาริส แฮตช์แบ็ก และยาริส เอทีฟ โมเดลปี 2020 ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยเพิ่มออพชัน ปรับสีสัน ขยับราคาขึ้น 1-3 หมื่นบาทแล้วแต่รุ่น

ขณะเดียวกัน โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ตัวถังซีดาน จะไม่มีคำว่า ยาริส นำหน้าอีกต่อไป หรือจะใช้ชื่อ โตโยต้า เอทีฟ ในการทำตลาดเท่านั้น

สำหรับฟังก์ชันใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในโตโยต้า ยาริส และโตโยต้า เอทีฟ (รุ่น Sport Premium) ไล่ตั้งแต่ ที่ปัดนํ้าฝนแบบอัตโนมัติ กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน

โตโยต้า ยาริส รุ่น Entry ราคา 5.49 แสนบาท รุ่น Sport 6.09 แสนบาท และ Sport Premium 6.79 แสนบาท

โตโยต้า เอทีฟ รุ่น Entry ราคา 5.39 แสนบาท รุ่น Sport5.99 แสนบาท และ Sport Premium 6.74 แสนบาท

ฮอนด้า ป้องแชมป์เก๋งเมืองไทย เสริมทัพ Honda City Hatcback - Honda City Hybrid

ในส่วน Honda City  ตัวถังซีดาน ที่ทำยอดขายเฉลี่ย 2,800 คันต่อดือน แต่ปลายปีนี้ยังมีทีเด็ดกับ Honda City Hatcback  ที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกัน พร้อมขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ คาดว่าจะเปิดตัวภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ จากนั้นนำเข้าไปที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2020 เดือนธันวาคม

สำหรับอีโคคาร์ Honda City Sedan Honda City Hatchback  ทั้งสองตัวถัง ฮอนด้ายังวางแผนเพิ่มทางเลือกด้วยขุมพลังไฮบริด ซึ่งอยู่ภายใต้แพ็กเกจส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ พร้อมรับภาษีสรรพสามิตเพียง 4% (รุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เสียภาษีสรรพสามิต 12%) โดยยอดผลิต ซิตี้ ไฮบริด สามารถนำไปรวมกับรุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรได้ เพื่อให้ผ่านกฎเหล็กผลิตอีโคคาร์ เฟส 2 ให้ได้ 1 แสนคันต่อปี ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคลแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในเซ็กเมนต์อื่นๆ ของตลาดรถยนต์นั่งพบว่า ฮอนด้ายังอยู่ในเส้นทางที่ดี ทั้ง ฮอนด้า ซีวิค แม้ทำตลาดมาหลายปี แต่ยังแรงไม่ตก ขายได้ 13,439 คัน ทิ้งห่าง อัลติส ด้วยจำนวน 6,944 คัน ขณะที่ฮอนด้า แอคคอร์ด เฉือน คัมรี่ ด้วยตัวเลข 3,919 กับ 3,729 ตามลำดับ

เมื่อรวมยอดขายรถยนต์นั่งของทั้งสองค่าย ฮอนด้า ทำได้ 65,034 คัน โตโยต้า 53,494 คัน ห่างกันอยู่ 11,540 คัน ดังนั้นต้องรอลุ้น 3 เดือนสุดท้ายของปี ว่าโตโยต้าจะพลิกสถานการณ์กลับมาแย่งแชมป์ในปีนี้ได้หรือไม่ 

ขณะเดียวกัน ต้องรอลุ้น Honda City Sedan และ Honda City Hatchback ที่จะมีขุมพลังไฮบริดเป็นทางเลือก จะได้การตอบรับดีเหมือนรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ หรือไม่

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,620 วันที่ 22 - 24 ตุลาคม พ.ศ. 2563