โตโยต้า ส่งซอฟต์แวร์ THUMS ยกระดับความปลอดภัยยานยนต์

20 มิ.ย. 2563 | 10:01 น.

โตโยต้า เปิดซอฟต์แวร์ THUMS เทคโนโลยีจำลองร่างกายมนุษย์แบบเสมือนจริงให้ใช้ได้ฟรี ส่งเสริมการใช้ซอฟต์แวร์ THUMS เพื่อวิเคราะห์อาการบาดเจ็บจากรถชน ยกระดับความปลอดภัยอีกขั้นให้กับยานยนต์

รายงานข่าวจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (โตโยต้า) ได้ประกาศเปิดซอฟต์แวร์ Total Human Model for Safety หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า THUMS ให้ใช้ได้ฟรีตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เป็นต้นไป โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของบริษัทที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์สังคมแห่งการขับเคลื่อนที่ปลอดภัย ทั้งนี้ THUMS คือโปรแกรมซอฟต์แวร์เทคโนโลยีจำลองร่างกายมนุษย์แบบเสมือนจริงเพื่อความปลอดภัยที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถวิเคราะห์อาการบาดเจ็บของร่างกายมนุษย์ที่เกิดจากอุบัติเหตุรถชนได้ โดยโตโยต้าคาดหวังว่าการเปิดให้ประชาชนสามารถใช้ซอฟต์แวร์ THUMS ได้ฟรีในครั้งนี้จะมีผู้สนใจเข้าใช้งานอย่างกว้างขวางและนำไปสู่การยกระดับความปลอดภัยให้กับยานยนต์ได้ในท้ายที่สุด

โตโยต้า ส่งซอฟต์แวร์ THUMS ยกระดับความปลอดภัยยานยนต์

นายเซอิโก คุซุมากิ สมาชิกของบริษัท แอดวานซ์ อาร์แอนด์ดี แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง เปิดเผยว่า นับตั้งแต่การเปิดตัวTHUMS ในปี 2543 โตโยต้าพยายามทุ่มเทในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเดินหน้าทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ในเชิงกายวิภาคศาสตร์ของมนุษย์ รวมถึงเพิ่มความหลากหลายของโมเดลต่างๆ จนตอนนี้กล่าวได้ว่าซอฟต์แวร์ THUMS ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับโตโยต้าในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและพัฒนายานยนต์ของโตโยต้าให้ดียิ่งๆ ขึ้น

โตโยต้าตัดสินใจที่จะเปิดให้ผู้คนสามารถใช้ซอฟต์แวร์นี้ได้ฟรี เพื่อที่จะได้มีผู้คนเข้ามาใช้งานมากขึ้น และเพื่อยกระดับความปลอดภัยของยานยนต์ให้ก้าวหน้าทั่วทั้งแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ ตลอดจนเพื่อช่วยลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ทั้งนี้เพื่อสร้างสังคมของเราให้เป็นสังคมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น เราหวังว่าซอฟต์แวร์นี้จะถูกนำไปปรับใช้งานอย่างกว้าง ขวางในพื้นที่ต่างๆ อันจะเป็นการปูทางสู่สังคมแห่งการขับเคลื่อนที่เพียบพร้อมไปด้วยยานพาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติและเทคโนโลยีอื่นๆ ในอนาคต"

 

สำหรับการขายลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์ดังกล่าวผ่านเจเอสโอแอล คอร์ปอเรชั่น (โตเกียว) และ อีเอสไอ กรุ๊ป (ปารีส) จะสิ้นสุดลงในปี 2563 และหลังจากนั้น THUMS ก็จะเปิดให้สามารถเข้าใช้งานได้ฟรี    

 

ซอฟต์แวร์ THUMS ได้รับการออกแบบเพื่อช่วยสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยในยานยนต์โดยความร่วมมือกับบริษัท โตโยต้า เซ็นทรัล อาร์แอนด์ดี แล็บส์ ซึ่ง THUMS ถือได้ว่าเป็นซอฟต์แวร์เทคโนโลยีจำลองร่างกายมนุษย์แบบเสมือนจริงตัวแรกของโลก เมื่อทำการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2543 โดย THUMS จะจำลองและวิเคราะห์อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากกรณีรถชน นับตั้งแต่การเปิดตัวในครั้งนั้น จนกระทั่งการออกซอฟต์แวร์THUMS ในเวอร์ชั่นที่ 6 ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด จะเห็นได้ว่าซอฟต์แวร์ดังกล่าวมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มความหลากหลายของโมเดลจำลอง ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของเพศ อายุ และรูปร่างทางกายภาพได้แก่ โครงสร้างกระดูก สมอง อวัยวะภายใน ตลอดจนกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการทดสอบการชนโดยใช้หุ่นจำลองร่างกายคนตามปกติแล้ว จะพบว่าการใช้ซอฟต์แวร์ THUMS มีข้อดีคือสามารถวิเคราะห์อาการบาดเจ็บที่เกิดจากรถชนได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนมากกว่า เพราะ THUMS สามารถออกแบบรูปร่างและความแข็งแกร่งของร่างกายมนุษย์ได้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงกว่า 

โตโยต้า ส่งซอฟต์แวร์ THUMS ยกระดับความปลอดภัยยานยนต์

นอกจากนี้ การสร้างสถานการณ์จำลองในคอมพิวเตอร์ยังอำนวยความสะดวกให้สามารถทำการวิเคราะห์ซ้ำได้ในรูปแบบการชนที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังช่วยย่นระยะเวลาและลดต้นทุนที่ใช้ในการพัฒนายานยนต์ในขั้นตอนของการทดสอบการชนได้อย่างมาก

ปัจจุบัน ซอฟต์แวร์ THUMS ได้ถูกนำมาใช้สำหรับการวิจัยยานยนต์โดยองค์กรต่างๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 100 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ ผู้ผลิตชิ้นส่วน มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และอื่นๆ ในญี่ปุ่นเละต่างประเทศ โดย THUMS ถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ในการวิจัยและพัฒนาหลากหลายเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย เช่น เข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัย และการออกแบบโครงสร้างยานยนต์เพื่อลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนผู้คนบนท้องถนนทั้งนี้ องค์กรที่ทำหน้าที่ประเมินความปลอดภัยของยานพาหนะต่างก็กำลังพิจารณาการใช้ซอฟต์แวร์ THUMS เพื่อการทดสอบแบบเสมือนจริงในแผนงานการประเมินสมรรถนะของยานพาหนะต่างๆ ในอนาคต

โตโยต้า ส่งซอฟต์แวร์ THUMS ยกระดับความปลอดภัยยานยนต์

การเปิดซอฟต์แวร์ THUMS ให้ใช้ได้ฟรีนั้น นอกจากจะช่วยให้ผู้คนในวงกว้างสามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ประโยชน์ในการวิจัยด้านความปลอดภัยของยานพาหนะแล้ว ยังช่วยผลักดันการพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งานของซอฟต์แวร์ให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถพัฒนาโมเดลในซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้ด้วยตนเองและแบ่งปันผลลัพธ์ให้กับคนอื่นๆ ได้ด้วย