บิ๊กไบค์ยอดร่วง 10% “ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน” ลด 1.51 แสน

13 มิ.ย. 2563 | 10:00 น.

บิ๊กไบค์พรีเมียม แบรนด์ยุโรป-อเมริกัน อัดแคมเปญแรงสู้โควิด-19 หลังผ่าน 5 เดือนแรกของปีเซกเมนต์นี้ร่วง 10% ด้าน “ฮาร์ลีย์ -เดวิดสัน” ปรับราคาขายใหม่ทุกรุ่น หรือลดสูงสุด 1.51 แสนบาท

ภาพรวมตลาดบิ๊กไบค์พรีเมียม 5 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม - พฤษภาคม 2563 ) ทำได้ 2,611 คัน ลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (2,889 คัน) โดย “ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน” เป็นเบอร์ 1 ด้วยยอด 854 คัน โต 4.3 % (ปี 2562 ทำได้ 819 คัน) ตามด้วย “บีเอ็มดับเบิลยู” 701 คัน ลดลง 18.6% (ปี 2562 ทำได้ 861 คัน) “ไทรอัมพ์” 684 คัน ลดลง 26.7% (ปี 2562 ทำได้ 933 คัน) และดูคาติ 372 คัน โต 34.8% (ปี 2562 ทำได้ 276 คัน)

สำหรับกลุ่มบิ๊กไบค์พรีเมียม หากเทียบกับเซกเมนต์อื่นๆถือว่ากระทบน้อยกว่า ทั้งนี้ ช่วงโควิด - 19 โรงงานของผู้ผลิตหลายแห่งปิดชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็น บีเอ็มดับเบิลยู,ดูคาติ,ฮาร์ลีย์- เดวิดสัน ซึ่งการหยุดสายการผลิตดังกล่าวมาจากทั้ง นโยบายของบริษัทแม่ทั่วโลก รวมไปถึงนโยบายของภาครัฐฯในแต่ละประเทศ ที่มีเป้าหมายหยุดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด -19

อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์เริ่มกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทย ที่จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตไม่ได้พุ่งสูง ทำให้โรงงานผู้ผลิตเริ่มกลับมาเดินหน้าตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการขาย การทำแคมเปญต่างๆ ยังเดินหน้าออกมาอย่างต่อเนื่อง

“การช่วยเหลือของบริษัทแม่ในช่วงที่ผ่านมาเบื้องต้นคือการสั่งหยุดโรงงานทั่วโลก เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน แต่เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมาก็เริ่มกลับมาผลิตกันแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะตอนนี้รถบางรุ่นขาดสต๊อก ส่วนการช่วยเหลือของเรากับดีลเลอร์มีทั้ง ชะลอการส่งรถเพื่อให้ดีลเลอร์ ได้เคลียร์สต๊อกเก่าก่อน รวมไปถึงยืดระยะเวลาในการจ่ายเงินต่างๆออกไป” นายธนบดี
กุลทล ผู้จัดการประจำประเทศ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ประเทศไทย กล่าว

ฮาร์ลีย์ -เดวิดสัน ยังเป็นค่ายที่ขยับแนวรุกแรงและเร็ว เพราะหลังจากมีมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์เฟส 3 ก็จัดหนักด้วยการประกาศปรับราคาขายใหม่ พร้อมทั้งแคมเปญส่วนลดของแถมที่ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่าย โดยทำราคาใหม่สำหรับมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2020 ทั้งตระกูล สปอร์ตสเตอร์, ซอฟเทล และ ทัวร์ริ่ง

 

บิ๊กไบค์ยอดร่วง 10% “ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน” ลด 1.51 แสน

พร้อมกันนั้นได้ส่งแคมเปญ Passport to Freedom เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับขี่จักรยานยนต์ในปีนี้ จะได้รับเวาเชอร์ มูลค่า 1.5 หมื่นบาท เมื่อซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน

นายธนบดี กล่าวว่า การประกาศราคาใหม่ในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจ เป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้นแล้วฮาร์ลีย์ -เดวิดสัน ยังคงคาดหวังว่าจะเป็นการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจให้มีการขับเคลื่อนได้ดียิ่งขึ้น

“การปรับราคาครั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าเอื้อมถึงได้ง่าย ส่วนลูกค้าเดิมที่ใช้อยู่แล้วอาจจะมาเปลี่ยนรุ่นใหม่ โดยราคาเฉลี่ยที่เราปรับลดจะอยู่ที่ 9 % หรือหากคิดเป็นมูลค่าที่ปรับลดสูงสุด 1.51 แสนบาท ส่วนฟีดแบคของลูกค้าหลังประกาศราคาใหม่ออกไป ก็สอบถามเข้ามาทางเฟซบุ๊ก มีคอมเมนต์ต่างๆและแชร์ข้อมูลออกไปเป็นจำนวนมาก”

ขณะที่กิจกรรมทางการตลาด ฮาร์ลีย์ -เดวิดสัน กำลังรอมาตรการต่างๆจากภาครัฐฯว่าจะสามารถทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง เพราะเดิมมีแผนจัดโรดโชว์ รวมไปถึงกิจกรรมขับขี่กับลูกค้า ซึ่งตามปกติดีลเลอร์จะจัดทริป 2 เดือนครั้ง หรือทริปย่อยๆกรุ๊ปเล็กๆก็จะมีต่อเนื่อง

ส่วนแผนงานด้านเครือข่ายนั้น ปัจจุบันมีโชว์รูมและศูนย์บริการ 11 แห่ง โดยสาขาล่าสุดคือ พิษณุโลก ส่วนจะขยายเพิ่มหรือไม่นั้นต้องดูความต้องการของตลาดอีกที แต่ยืนยันว่าให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายเพราะยิ่งขายรถเยอะต้องดูแลให้ดีที่สุด ปัจจุบันประชากรฮาร์ลีย์-เดวิดสันที่จดทะเบียนในประเทศไทยมีประมาณ 1.5 หมื่นคัน

“ครึ่งปีหลังคาดการณ์ว่าทุกอย่างน่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติ แต่มีปัจจัยที่จะกระทบเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะเรื่องท่องเที่ยว เมื่อไม่มีรายได้จากการท่องเที่ยวก็ไม่มีเงินไหลเข้ามา หรือเข้ามาแต่ก็อาจจะน้อยลง อย่างไรก็ตามฮาร์ลีย์-เดวิดสันจะพยายามบริหารจัดการ เพราะเราเชื่อว่าในทุกวิกฤติมันมีโอกาส ”

จากแผนรุกแรงในครั้งนี้ของค่ายฮาร์ลีย์- เดวิดสัน ทำให้พวกเขามั่นใจว่ายอดขายในปีนี้ไม่น่าตํ่ากว่าปีที่ผ่านมาที่ทำได้ประมาณ 2,200 คัน ซึ่งยอดขายรวมถึงอัตราการเติบโตของฮาร์ลีย์- เดวิดสันในประเทศไทยนั้นถือว่าเป็นเบอร์ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับ 2 รองจากเกาหลีใต้

ขณะที่แผนงานเกี่ยวกับรถไฟฟ้าของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ในรุ่น Livewire ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นรถที่ดี แรง ขับขี่สนุกแต่การทำตลาดในประเทศ ไทยนั้นต้องศึกษาเรื่องโครงสร้างภาษีต่างๆเพราะมีผลด้านราคา กลุ่มลูกค้า และส่วนที่สำคัญคือโครงสร้างพื้นฐาน สถานีชาร์จไฟที่ต้องมีรองรับผู้ใช้งาน

“ประเทศไทยเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ซึ่งรถไฟฟ้าจะนำเข้ามาทำตลาดหรือไม่นั้นต้องศึกษารายละเอียดกันก่อน ปัจจุบันโรงงานในประเทศไทยผลิตรถครบทุกเซกเมนต์ มีมากกว่า 21 รุ่น และส่งออกไปยังตลาดประเทศจีน ยุโรป และอาเซียน”นายธนบดี กล่าว

อีกหนึ่งแบรนด์ที่ปล่อยแคมเปญแรงตั้งแต่ช่วงโควิด-19 คือดูคาติ ซึ่งตัวเลขการเติบโต สะท้อนให้เห็นความสำเร็จของแคมเปญที่ปล่อยออกมา แถมล่าสุดส่ง” PROMOTIONSUPER DEAL” สาย CAFE’ RACER ในรุ่น Scrambler Ducati ที่มาพร้อมข้อเสนอไม่ต้องมีคนคํ้าก็ออกรถ 0 บาทได้เลย (ฟรีดาวน์ 25%) ฟรีประกันภัยชั้น 1 ฟรีจดทะเบียนและ พ.ร.บ. หรือเลือกซื้อสดในราคาพิเศษ 309,000 บาทโดยใช้เพียงบัตรประชาชนก็ซื้อ Scrambler ได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้-30 มิถุนายน 2563 

หน้า 15  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,582 วันที่ 11 - 13 มิถุนายน พ.ศ. 2563