บ.แม่ลุยเอง"ขายรถออนไลน์"ลดบทบาทดีลเลอร์

18 พ.ย. 2562 | 03:30 น.

ธุรกิจค้าปลีกรถยนต์เตรียมพลิกโฉมครั้งใหญ่ตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภค บริษัทแม่หันเปิดเว็บไซต์ให้จองรถออนไลน์ มาสด้า- บีเอ็มดับเบิลยูนำร่อง คาดในอนาคตดีลเลอร์ลดบทบาทเป็นแค่ผู้ปล่อยรถให้ ส่วน “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ลุยขายรถมือสองต่อท่อตรงถึงลูกค้าเอง

 

เทรนด์การขายออนไลน์ เริ่มนำมาปรับใช้กับธุรกิจยานยนต์ หลายค่ายผู้ผลิต-ดีลเลอร์-ผู้ประกอบการรายย่อย เห็นความสำคัญของรูปแบบดังกล่าวจนนำมาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่จะเจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมาย

แต่ที่เริ่มมีความชัดเจนคือแผนงานของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ที่เตรียมทดลองให้ลูกค้าจองรถยนต์ผ่านเว็บไซต์ของตนเอง (แต่ลูกค้ายังต้องเลือกดีลเลอร์ที่จะดูแลในขั้นตอนปล่อยรถต่อไป) ทั้งมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เริ่มทำกับ มาสด้า 3 โฉมใหม่ และเอสยูวี ซีเอ็กซ์ - 5, ซีเอ็กซ์-8 รวมถึง บีเอ็มดับเบิลยู เปิดให้จองรถพลังงานไฟฟ้า i3s และเอสยูวีตัวแรง X3 M และ X4 M ผ่านเว็บไซต์ shop.bmw.co.th ล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ประเทศไทย นำรถผู้บริหารเลขไมล์น้อยมาขายตรงให้ลูกค้าผ่านเว็บไซต์www.mercedesbenzcertified.com

เริ่มจากมาสด้า ชิมลางขายรถออนไลน์ตั้งแต่การเปิดตัว “มาสด้า 3 โฉมใหม่” เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในรุ่นแฮตช์แบ็ก สีพิเศษ Polymetal Gray ซึ่งผ่านไปเดือนครึ่งมียอดเข้ามา 300 คัน หรือคิดเป็น 30% ของยอดขายมาสด้า 3 ทั้งหมด จากนั้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาซีเอ็กซ์- 5 ไมเนอร์เชนจ์ เปิดจองออนไลน์ในรุ่น 2.5 Turbo SP เช่นเดียวกับ ซีเอ็กซ์-8 รุ่นท็อปเครื่องยนต์ดีเซล ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุด

บ.แม่ลุยเอง"ขายรถออนไลน์"ลดบทบาทดีลเลอร์ บ.แม่ลุยเอง"ขายรถออนไลน์"ลดบทบาทดีลเลอร์

“สาเหตุที่เราขายรถออนไลน์ เป็นเพราะเราอยากรู้ทิศทางตลาดและเทรนด์ของการขายออนไลน์ว่าเป็นอย่างไร-ดีไหม รวมไปถึงดูว่าระบบการขายออนไลน์มันมีจุดอ่อน-จุดแข็งอย่างไร ซึ่งหลังจากที่เราเปิดให้จองออนไลน์ในรุ่น มาสด้า 3สีพิเศษก็พบว่ายอดจองดี ส่วน ซีเอ็กซ์-5 และซีเอ็กซ์-8 นั้นเพิ่งจะเปิดตัวคงต้องรอดูก่อน โดยเราคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนเพื่อดูผลการตอบรับของลูกค้าและการศึกษาถึงข้อดีข้อเสียของช่องทางนี้” นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าว

ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มาสด้าพยายามนำมาปรับใช้ให้เข้ากับยุคปัจจุบัน ที่ออนไลน์, โซเชียลต่างๆเข้ามามีบทบาทกับผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ช่องทางหลักก็ไม่ได้ละเลย แต่ยังเพิ่มความเข้มข้น โดยเฉพาะกิจกรรมที่จัดถี่ขึ้น เฉลี่ยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง จัดขึ้นในทุกจังหวัด และหากดีลเลอร์ไหนที่มีความพร้อมสามารถเข้าไปจัดแบบ โลคัล อีเวนต์ หรือกิจกรรมนอกสถานที่ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการสร้างโอกาสในการขาย อีกทั้งยังได้ใกล้ชิดและเข้าถึงลูกค้า

ส่วนโปรเจ็กต์ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) คือธุรกิจรถมือสองระดับพรีเมียมภายใต้ชื่อ “Mercedes-Benz Certified” (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เซอร์ทิฟายด์) ขายรถผู้บริหารเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้กับลูกค้าโดยตรงผ่านออนไลน์ www.mercedesbenzcertified.com

เจ้าพ่อรถหรูเมืองไทยเริ่มทำ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เซอร์ทิฟายด์ ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม​ที่ผ่านมา และได้การตอบรับดีด้วยยอดคนเข้ามาเยี่ยม​ชม​เว็บไซต์​ถึง 2 หมื่นคน หรือเฉลี่ยวันละ 1,200 คน โดยขั้นตอนจะเริ่มจาก เลือกรถ-เลือกดีลเลอร์ที่จะปล่อยรถให้-โอนเงินจองเข้าบัญชีเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)-ทำลีสซิ่ง สุดท้ายหากซื้อรถไปแล้วไม่พอใจ บริษัทยินดีคืนเงินภายใน 3 วัน

สำหรับรถทั้งหมดเป็นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ที่นำรถผู้บริหารและรถเดโม เลขไมล์น้อยออกมาขาย ปัจจุบันมีรถอยู่ในสต๊อกประมาณ 30 คัน และมีพันธมิตรที่เป็นดีลเลอร์ 6 รายช่วยปล่อยรถให้

บ.แม่ลุยเอง"ขายรถออนไลน์"ลดบทบาทดีลเลอร์

“เฟสแรกของธุรกิจยูสคาร์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ภายใต้โปรแกรมนี้จะนำร่องด้วยการจำหน่ายรถผู้บริหารจากบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีจุดแข็ง คือรถทุกคันมีอายุการใช้งานเฉลี่ยเพียง 6 เดือนถึง 1 ปี พร้อมจัดอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง เพื่อให้สามารถเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น ทั้งยังเพิ่มระยะเวลาการรับประกัน 2 ปี จากระยะเวลารับประกันมาตรฐาน โดยไม่จำกัดระยะทาง บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง” นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า

พฤติกรรมการเลือกซื้อรถหรูมือสองของผู้บริโภคในปัจจุบันจะให้ความสำคัญเรื่องความน่าเชื่อถือ ความคุ้มค่า และนิยมมองหาช่องทางที่สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย และปลอดภัยในการซื้อ เช่น การซื้อผ่าน e-marketplace ต่างๆ ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ เซอร์ทิฟายด์ จะเข้ามาเป็นทางเลือก นอกเหนือไปจากรถที่มีอยู่ในมือของผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ

สำหรับธุรกิจยูสคาร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 ยอดขายภายใต้โปรแกรม Mercedes-Benz Certified โต 57% เมื่อเทียบกับปี 2560 

 

หน้า 28 - 29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 วันที่ 17 - 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562