‘ประกันสังคม’เร่งปฏิรูปตัวเอง ยกชั้นเป็นลีดเดอร์ของอาเซียน

27 เม.ย. 2559 | 10:00 น.
รมว.แรงงาน ชี้ 2 โจทย์ท้าทาย ดันประกันสังคม ก้าวสู่องค์กรประกันชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน 1 .การสร้างความคุ้มครองให้ครอบคลุม –ลดความเหลื่อมล้ำสิทธิในแต่ละกลุ่ม และ 2 ปัญหาไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ กระทบเงินกองทุน นักวิชาการจี้เร่งพัฒนา 4 ด้าน 1.ระบบดิจิตอล 2.บริการ 3.สิทธิประโยชน์ และ 4.ยกระดับระบบประกันกลุ่มประเทศ CLMV เสมอกับไทย

พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวในโอกาสปาฐกถา ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ "ก้าวสู่องค์กรประกันสังคมชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน" (SSO Summit) ( 21 เมษายน 2559 ) ว่าในเรื่องประกันสังคม เป็นเรื่องที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลได้ให้ความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องที่มีผลต่อลูกจ้างและผู้ประกันตนมากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งในประเด็นการคุ้มครอง ที่ผ่านมาต้องถือว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จ ในการขยายความคุ้มครองทางสังคม ผ่านโครงการหลักประกันสุขภาพทั่วหน้า และเบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุ นอกจากนี้กระทรวงแรงงานและประกันสังคมก็มีนโยบายจะขยายความคุ้มครองไปสู่แรงงานนอกระบบ ตามมาตรา 40 ซึ่งขยายความคุ้มครองไปถึงกรณีการเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต บำเหน็จผู้สูงอายุ โดยปัจจุบันมีผู้ประกันตนกว่า 2 ล้านคน

อย่างไรก็ดี สำนักงานประกันสังคมฯ มีการเก็บเงินสมทบเพียง 10% แต่สามารถจ่ายสิทธิประโยชน์ได้ถึง 9 รูปแบบ คือ เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ ว่างงาน กรณีบาดเจ็บเนื่องจากการทำงาน และกรณีสูญหายหรือเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ซึ่งเป็นไปตามข้อปฏิบัติมาตรฐานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ILO เทียบกับประเทศในอาเซียน ไม่ว่าเวียดนามเก็บเงินสมทบ 28.5% แต่จ่ายสิทธิประโยชน์ได้ 8 รูปแบบ(ไม่คุ้มครองกรณีสงเคราะห์บุตร ) ,ฟิลิปปินส์ เก็บเงินสมทบใกล้เคียงกับไทย คือ 12.9% แต่ให้สิทธิประโยชน์เพียง 7 รูปแบบเท่านั้น ( ไม่คุ้มครองกรณีสงเคราะห์บุตร/ว่างงาน)

ด้านนายวรโชค ไชยวงศ์ หนึ่งในวิทยากรจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การจะผลักดันประกันสังคมไทย ให้พร้อมสู่อาเซียนแบบก้าวกระโดด จำเป็นต้องพัฒนาใน 4 ด้าน คือ 1.เรื่องของระบบดิจิตอลเพื่อรองรับฐานข้อมูลและการให้บริการ 2. พัฒนาด้านบริการ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้กำหนดให้สถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ( จากเดิม 10 คน ) ต้องขึ้นทะเบียนลูกจ้างกับสำนักงานประกันสังคม ทำให้โตขึ้นถึง 4 เท่า โดยมีผู้ประกันตนที่ต้องดูแลในปัจจุบันกว่า 13 ล้านคน และมีแรงงานต่างด้าวอีก 2 ล้านคน 3.พัฒนาในเรื่องสิทธิประโยชน์ และ 4. ยกระดับความเป็นผู้นำในอาเซียน ในกลุ่มประเทศ "CLMV " ให้มีระบบประกันสังคมเสมอหรือเท่าเทียมกับไทย

อนึ่งการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20-22 เมษายน 2559 เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แนวคิด ประสบการณ์ระหว่างผู้เข้าร่วมประชุม เพื่อตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และนำมาใช้เป็นแนวทางพัฒนาการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคม โดยมีผู้เข้าร่วม 350 คน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,151 วันที่ 24 - 27 เมษายน พ.ศ. 2559