svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม thansettakij

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
thansettakij

PwC คาดอย่างน้อย 10 ปี ไทยก้าวเข้าสู่ Open Banking

31 มีนาคม 2564

PwC คาดธุรกิจการเงินของไทยจะเข้าสู่ Open Banking เต็มรูปแบบใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปี เหตุยังขาดความพร้อมเชิงโครงสร้าง ความเชื่อมั่นลูกค้า และแรงจูงใจระหว่างแบงก์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล

นางสาววิไลพร ทวีลาภพันทอง หุ้นส่วนสายงานธุรกิจที่ปรึกษา และหัวหน้ากลุ่มธุรกิจบริการทางการเงินบริษัท PwC ประเทศไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจบริการทางการเงินทั่วโลกกำลังพัฒนาไปสู่ Open Banking หรือการที่ผู้ให้บริการทางการเงินเปิดเผยข้อมูลการเงินของลูกค้าของตนให้กับบุคคลที่สาม (Third-party providers: TPPs) เช่น ฟินเทค บริษัทเทคโนโลยี และสถาบันการเงินอื่น ๆ ซึ่งต้องผ่านการยินยอมจากลูกค้าผู้เป็นเจ้าของบัญชีก่อน โดยช่องทางเชื่อมโยงข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับอยู่ในปัจจุบันคือ Open Application Programming Interfaces (Open APIs)

ทั้งนี้ ข้อดีของ Open Banking ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างสะดวก และเลือกใช้บริการที่ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคลได้ในรูปแบบเรียลไทม์ ขณะที่เปิดโอกาสให้ธนาคารสามารถสร้างรายได้มากขึ้นจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และรูปแบบการบริการใหม่ ๆ ผ่านการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่เกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรที่อาจเป็นนอนแบงก์ เช่น บริษัทเทคโนโลยี และฟินเทค ซึ่งจะช่วยเร่งการเปลี่ยนองค์กรไปสู่ดิจิทัล และทำให้ธนาคารมีต้นทุนที่ถูกลง แถมมีความยืดหยุ่นในการดำเนินงานมากขึ้น

อย่างไรก็ดี การพัฒนา Open Banking ของไทยยังคงมีความท้าทายอยู่มากเพราะขาดความพร้อมในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน กฎเกณฑ์ และข้อบังคับในการเชื่อมต่อและการแลกเปลี่ยนข้อมูลของลูกค้า รวมถึงการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของลูกค้า

“ภาคการเงินของไทยน่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปีถึงจะสามารถก้าวเข้าสู่ Open Banking ได้เต็มรูปแบบ เพราะยังต้องปูความพร้อมในโครงสร้างพื้นฐาน และความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน” 

ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ของไทยมีการเข้าสู่ Open Banking ในลักษณะของการเชื่อมต่อกับระบบของบริษัทภายในเครือ บริษัทร่วมทุน หรือคู่ค้า และสามารถเข้าถึงข้อมูลระหว่างกันผ่าน API ได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น หากต้องการที่จะก้าวเข้าสู่พัฒนา Open Banking อย่างเต็มรูปแบบไปอีกขั้น ภาครัฐและหน่วยงานกำกับจะต้องกำหนดมาตรฐานด้านการเชื่อมต่อ การใช้งาน และการดูแลความปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการสร้างกลไกและความตระหนักเรื่องความปลอดภัยของการแชร์ข้อมูลการเงินให้กับประชาชน

ทั้งนี้ แม้วิวัฒนาการของการทำ Open Banking ของภาคการเงินโลกจะเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ช่องโหว่สำคัญที่ทำให้ระดับของการพัฒนายังแตกต่างกัน คือการให้ความร่วมมือระหว่างธนาคารในการเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าให้บุคคลที่สามซึ่งอาจเป็นคู่แข่งนำไปใช้ ประกอบกับกฎเกณฑ์เพื่อบังคับให้เกิดความร่วมมืออย่างจริงจังที่ยังมีไม่มาก ทำให้ธนาคารของไทยหลายแห่งยังเลือกที่จะเก็บข้อมูลลูกค้าของตัวเองไว้