TQM เดินหน้าแผน M&A

24 มี.ค. 2564 | 05:44 น.

ทีคิวเอ็ม เดินหน้าแผนควบรวมกิจการ เผยเริ่มธุรกิจในกัมพูชา ส่วนในประเทศเล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่รายเดือนตอบโจทย์ทุกไลฟสไตล์ลูกค้า

การวางยุทธศาสตร์ควบคู่ทั้ง Organic Growth และ Inorganic Growth สะท้อนทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ของบริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์โบรคเกอร์ หรือ TQM และแผน 5ปีที่คาดหวัง จะเห็นการเติบโต 15% ต่อปี เพื่อให้ปี 2569 จะมีเบี้ยรับประกันภัยแตะ 5 หมื่นล้านบาท หากบรรลุเป้าทำยอดขายได้ 2.5 หมื่นล้านบาทในปี 2564 

นายอัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (TQM)เปิดเผยว่าตลาดประกันภัยรถยนต์ในปัจจุบันอยู่ในภาวะการแข่งขันในด้านราคาสูง ซึ่งประกันภัยเป็น โปรดักส์ที่ีความคุ้มครองมีรายละเอียดมากและสัมพันธ์กับราคาที่เป็นตัวเลือกสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ซึ่งเป็นการทำการตลาดแบบเดิมๆ TQM จึงนำข้อมูลจากพฤติกรรมของผู้บริโภคมาปรับกลยุทธ์ เพื่อพัฒนาให้โปรดักต์เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคให้ลงตัวมากที่สุด 

TQM เดินหน้าแผน M&A

ทั้งนี้ได้แบ่งตามความต้องการใช้งานของกลุ่มลูกค้า (Customers Segmentation) ทำให้เกิดโปรดักต์ประกันภัยรถยนต์ที่หลากหลาย มีทางเลือกใหม่ๆที่แตกต่างและที่สำคัญครบครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้ามากที่สุด จึงออกมาเป็นยุทธศาสตร์ “สบายใจ 3F”  ซึ่ง 3F ได้แก่ Fair: เสี่ยงน้อย จ่ายน้อย และเหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละกลุ่มลูกค้า Fulfill: เติมเต็มความสบายใจด้วยโปรดักต์ ประกันที่มีความคุ้มครองครบตามความต้องการ และFriend:ให้บริการด้วยใจเสมือนเพื่อนที่จะอยู่เคียงข้างไม่ทิ้งกัน 

นางนภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัดกล่าวว่า ยุทธศาสตร์ 3F นั้นได้แก่ 3โปรดักต์ คือ “ประกันรถสีขาว”ทำให้ลูกค้าจ่ายค่าเบี้ยถูกกว่าด้วยส่วนลดสูงสุด 5% “ประกันรถต่างจังหวัด” ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยจะได้รับส่วนลดสูงสุด 3,000 บาทและประกันรถขับน้อย เป็นการกำหนดราคาและความคุ้มครองตามระยะทางการใช้งาน โดย AIS ใช้เทคโนโลยี IOTจับวัดระยะทาง 

ส่วนแผนธุรกิจในต่างประเทศ (บริษัท BIC Insurance จำกัด เพื่อเปิดตลาดประกันภัยในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว) นางนภัสนันท์ระบุว่า ธุรกิจยังคงเดินหน้าทำตลาดในกัมพูชา โดยแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผ่านการขออนุญาตออก
โปรดักส์สามารถดำเนินธุรกิจแล้ว เบื้องต้นธนาคารพันธมิตรเริ่มทำตลาดจากฐานลูกค้าของธนาคารแบบค่อยเป็นค่อยไปก่อน เพราะปีนี้ตั้งเป้า 4-5 ล้านบาท (1.5ล้านดอลลาร์) ส่วนแผนควบรวมกิจการ (M&A)ในประเทศ ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการดำเนินการ 

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,664 วันที่ 25 - 27 มีนาคม พ.ศ. 2564