OR กำไรปี 63 ลดลง 2.1 พันล้าน

17 ก.พ. 2564 | 15:22 น.

OR แจ้งปี 63 กำไรสุทธิ 8,791 ล้านบาท ลดลง 2,104 ล้านบาท รายได้ลดลง 148,330 ล้านบาท หลังค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายสูงขึ้น และจัดประเภทค่าใช้จ่ายตามมาตรฐานบัญชีใหม่ เตรียมจ่ายปันผลหุ้นละ 0.10 บาท

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีกจำกัด (มหาชน) (OR) แจ้งต่อตลท.ว่า ผลดำเนินงานงวดปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 8,791 ล้านบาทลดลง 2,104 ล้านบาท หรือ 19.31% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่อยู่ที่ 10,896 ล้านบาท จากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่สูงขึ้นจากการขยายสถานีบริการและร้านคาเฟ่ อเมซอน รวมถึงการจัดประเภทค่าใช้จ่ายตามมาตรฐานบัญชีใหม่ นอกจากนี้ ยังมีผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงินเพิ่มขึ้น จากการเริ่มใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 เครื่องมือทางการเงินตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2563 โดยรวมแล้วส่งผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 0.98 บาท ปรับลดลง 19%

 

ขณะที่ รายได้และบริการของบริษัทในปี 2563 อยู่ที่ 428,804 ล้านบาท ลดลง 148,330 ล้านบาท หรือ25.7% จากปีก่อนที่ 577,134 ล้านบาท มาจากรายได้กลุ่มธุรกิจน้ำมันเป็นหลัก โดยราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์นํ้ามันปรับตัวลดลงตามราคานํ้ามันในตลาดโลก ซึ่งเป็นผลจากสงครามราคา ระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (OPEC) และประเทศรัสเซีย ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของอุปทานน้ำมันทั่วโลก รวมทั้งอุปสงค์ของน้ำมันทั่วโลกก็ลดลงจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และปริมาณขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักปรับลดลง ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันอากาศยาน ดีเซล และเบนซิน จากผลกระทบของการระบาดของไวรัสโควิด-19 

สําหรับในประเทศไทยเพื่อระงับและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลไทยจึงได้ออกมาตรการจํากัดการเดินทาง และเวลาในการเปิด-ปิด ร้านค้า ส่งผลกระทบต่อปริมาณการขาย ในช่วงเดือนเมษายน 2563 อย่างไรก็ตามปริมาณการขายก็เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามลําดับ เมื่อรัฐบาลไทยเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ในเดือนพฤษภาคม 2563 โดยไตรมาส 4 ปี 2563 ปริมาณการขายปรับตัวเพิ่มเกือบเทียบเท่าสถานการณ์ปกติก่อนภาวะไวรัสโควิด-19 ยกเว้นผลิตภัณฑ์น้ำมันอากาศยาน ที่ยังได้รับผลกระทบจากข้อจํากัดการเดินทางระหว่างประเทศ และปริมาณเที่ยวบินทั่วโลกที่ลดลง และ LPG ภาคครัวเรือนจาก สภาพเศรษฐกิจไทยที่ยังชะลอตัว 

 

ขณะเดียวกัน รายได้กลุ่มธุรกิจ Non-Oil ลดลงจากรายได้ของร้านค้าสะดวกซื้อ ส่วนรายได้กลุ่มธุรกิจต่างประเทศลดลงเช่นกัน สาเหตุจากผลกระทบของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อราคาขายผลิตภัณฑ์และปริมาณขายที่ลดลง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมันอากาศยาน

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) ในวันที่ 17 มีนาคม 2564 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 16 มีนาคม 2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 เมษายน 2564 รวมถึงเตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 เมษายน 2564