“บมจ. จักรไพศาล เอสเตท” เข้าซื้อขายใน “เอ็ม เอ ไอ” 18 มกราคม

17 ม.ค. 2564 | 04:10 น.

“บมจ. จักรไพศาล เอสเตท” เข้าซื้อขายใน “เอ็ม เอ ไอ” 18 มกราคม มูลค่าหลักทรัพย์ราคา IP0 464 ล้านบาท

นายประพันธ์  เจริญประวัติ  ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. จักรไพศาล เอสเตท จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “JAK” ในวันที่ 18 มกราคม 2564

              ทั้งนี้ JAK เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม โดยโครงการแนวราบที่ผ่านมาของบริษัทอยู่ในเขตจังหวัดสระบุรี อยุธยา ชลบุรี และฉะเชิงเทรา มีโครงการที่ปิดการขายแล้วรวม 6 โครงการ ในส่วนคอนโดมิเนียม บริษัทพัฒนาในรูปแบบ Low Rise ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งปิดการขายแล้ว 2 โครงการ ณ 30 กันยายน 2563 บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาเพื่อขาย 2 โครงการ ได้แก่ โครงการจักรไพศาล 18 และโครงการเฟิร์น เฟส 1 รวมมูลค่า 663 ล้านบาท

และโครงการในอนาคตที่อยู่ระหว่างพัฒนาอีก 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,422 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทได้ร่วมลงทุนโดยถือหุ้น 40% ในบริษัท เอ็ม.ที.เอส. พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการไอดิลล์ ที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดชลบุรี มีมูลค่าโครงการรวม 1.26 พันล้านบาท โดยโครงการของบริษัทมีราคาบ้านขายหลังละ 1-5 ล้านบาท ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าได้แก่ กลุ่มวัยเริ่มทำงาน กลุ่มที่ต้องการมีบ้านหลังแรก และกลุ่มลูกค้าท้องถิ่น

นายประพันธ์  เจริญประวัติ  ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ

              อย่างไรก็ดี JAK มีทุนชำระแล้ว 320 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 237.29 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 82.71 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) โดยแบ่งเป็นเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และผู้ลงทุนสถาบัน จำนวนไม่เกิน 71.61 ล้านหุ้น เสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวนไม่เกิน 8.00 ล้านหุ้น

และเสนอขายต่อผู้มีอุปการะคุณของบริษัท จำนวนไม่เกิน 3.10 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 8, 11-12 มกราคม 2564 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.45 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 119.93 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 464 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 30.87 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 ตุลาคม 2562-30 กันยายน 2563) ซึ่งเท่ากับ 15.03 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.05 บาท โดยมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด เป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

              นายวีระพันธ์ จักรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บมจ. จักรไพศาล เอสเตท (JAK) กล่าวว่า บริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนาน และเลือกพัฒนาโครงการบนที่ดินแปลงที่มีศักยภาพ โดยโครงการต่างๆ ได้รับการยอมรับทั้งด้านคุณภาพและบริการที่ดีจากลูกค้า สำหรับเงินระดมทุนที่ได้จะนำไปพัฒนาโครงการหรือลงทุนในที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

              “JAK มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวจักรไพศาล ถือหุ้น 69.30% บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินของบริษัทหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท”