‘ไซมิส แอสเสท’ เข้าเทรดวันแรก ราคาทะยานเหนือจอง 37.27%

25 ธ.ค. 2563 | 10:22 น.

‘ไซมิส แอสเสท’เดินหน้าระดมทุนเสริมความแกร่ง สวนตลาดอสังหาฯ เทรดวันแรก ราคาทะยานเหนือจอง 37.27% โชว์ Backlog 9,446 ล้านบาท หนุนรายได้ หวังขึ้นแท่นอสังหาฯชั้นนำระดับประเทศ

นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด ‘Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต’ เปิดเผยว่า ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายเป็นวันแรก (25 ธันวาคม 2563) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อ ‘SA’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ และนับเป็นหุ้นไทยตัวสุดท้ายของปี 2563 ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งมั่นใจว่าด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ที่แตกต่างเหนือคู่แข่ง จะช่วยสนับสนุนให้ SA เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน  

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ในทำเลที่ดีที่สุดและในราคาที่คนไทยเอื้อมถึงได้  โดยใช้ประสบการณ์จากการรับเหมาก่อสร้างโครงการมากมาย ทำให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ อาทิ ต้นทุนค่าที่ดิน ต้นทุนการบริหารงาน และต้นทุนค่าก่อสร้าง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ สามารถกำหนดราคาขายได้ต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น และควบคุมมาตรฐานการก่อสร้างในระดับ International Standard

‘ไซมิส แอสเสท’ เข้าเทรดวันแรก  ราคาทะยานเหนือจอง 37.27%

ปัจจุบัน SA พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวสูงครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกระดับ อาทิคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ฯลฯ โดยเน้นการพัฒนาโครงการประเภทคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ บนทำเลที่มีศักยภาพ แบ่งการดำเนินธุรกิจเป็น 3 ประเภท  ได้แก่ 1. ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่าย 2. ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า และ 3. ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการบริการ นอกจากนี้ ยังมีบริการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น การบริหารนิติบุคคลอาคารชุด, นายหน้าจัดหาผู้เช่าห้องชุด เป็นต้น ทำให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อลงทุนในระยะยาว

ทั้งนี้ หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เบื้องต้นจะนำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งไปใช้ชำระคืนสถาบันการเงินเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน โดยจะทำให้อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) ลดลงเหลือประมาณ 1.5 – 1.7 เท่า จากปัจจุบัน (ณ วันที่ 30 ก.ย. 63) อยู่ที่ประมาณ 2.1 เท่า และส่วนที่เหลือจะนำไปพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ขยายการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ 1) โครงการ Blossom Condo @ Fashion 3 ซึ่งมีแผนพัฒนาเป็น Mixed-use Real Estate  มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท 2) โครงการ Above 39 มีแผนปรับปรุงเป็นโรงแรมหรือห้องชุดให้เช่าพร้อมบริการภายใต้มาตรฐานโรงแรม มูลค่าโครงการประมาณ 1,900 ล้านบาท และ 3) โครงการ Blossom Condo @ TSH Station มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายโอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศและต่างประเทศ และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ  

ปัจจุบัน SA  มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ในมือประมาณ 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 32,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในทำเล CBD และ New CBD กว่า 80% ขณะที่มียอดขายรอโอนกรรมสิทธ์ (Backlog)  กว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/63 เป็นต้นไป นอกจากนี้บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักสำรองต่างๆ ของบริษัทฯ 

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-กันยายน) SA มีรายได้รวม 2,060.6 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้หลักจากการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าแล้ว และมีกำไรสุทธิ  283.9 ล้านบาท จากการที่บริษัทฯ สามารถปรับราคาขายห้องชุดในบางโครงการให้สูงขึ้นได้ และบริหารจัดการต้นทุนก่อสร้างของโครงการใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ