นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ได้โพสต์ข้อความว่า กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย และ ตำรวจร่วมแถลงผลการดำเนินนครีดผู้ทุจริตโครงการ “คนละครึ่ง” โดยรายแรกนี้ มีความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” ตามกฎหมายอาญา มาตรา 342(1) โทษจำคุกไม่เกิน 5ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุน “คนละครึ่ง”เดินหน้าต่อ หวังช่วยอัดฉีดเงินในระบบ
"คลัง"แจงข้อวิจารณ์“คนละครึ่ง” ยันดูแลประชาชนทั่วถึงทุกกลุ่ม
ได้สิทธิคนละครึ่งเฟส 2 ไม่ต้องรีบ กรุงไทย แจงรอรับ sms ยืนยันรับสิทธิก่อน
"บิ๊กกรุงไทย" แจงปม OTP ค่ายมือถือล่ม ต้นตอปัญหาคอขวด
สำหรับรูปแบบการกระทำความผิดอยู่ 2 แบบคือ 1.ร้านรับแลกเงินสด มีการโอนเงินให้กับผู้ได้สิทธิคนละครึ่งโดยตรง 2.มีเจ้ามือดำเนินการให้กับประชาชนที่ต้องการแลกเป็นเงินสด โดยให้ข้อมูลการเข้าใช้งานแอปฯ เป๋าตังค์ แก่ร้านค้าเพื่อใช้สิทธิคนละครึ่งแทน
จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกับการชักชวนให้ทำผิดเงื่อนไขของโครงการ นอกจากร้านค้าและประชาชนจะถูกตัดสิทธิโครงการแล้ว ยังจะถูกดำเนินคดีทุกราย ซึ่งมีอายุความในการดำเนินคดีถึง 10 ปี
หากพบพฤติกรรมที่เข้าข่ายทุจริตโครงการคนละครึ่ง สามารถแจ้งเบาะแสมาที่ [email protected] หรือส่งไปรษณีย์ลงทะเบียน ถึงสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ ที่เว็บไซต์ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) http://pct.police.go.th/form.php