ดาวโจนส์ปิดลบ 69.55 จุด วิตกข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐชะลอตัว

10 ธ.ค. 2563 | 23:39 น.

ดาวโจนส์ปิดลบ 69.55 จุด โดยมีแรงฉุดจากตลาดแรงงานที่ชะลอตัวของสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับตลาดแรงงานที่ชะลอตัวของสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดดีดตัวขึ้นพ้นจุดต่ำสุดของวัน และดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวกได้ หลังจากนักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,999.26 จุด ลดลง 69.55 จุด หรือ -0.23% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,668.10 จุด ลดลง 4.72 จุด หรือ -0.13% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,405.81 จุด เพิ่มขึ้น 66.86 จุด หรือ +0.54%

 

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ 853,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. เพิ่มขึ้น 137,000 ราย จากระดับ 716,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 725,000 ราย เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายรัฐต้องกลับมาคุมเข้มหรือล็อกดาวน์ และทำให้ภาคธุรกิจที่กำลังเริ่มจะฟื้นต้องกลับมาหยุดชะงักอีกครั้ง

 

ตลาดถูกกดดันจากการที่ตลาดแรงงานสหรัฐชะลอการฟื้นตัว และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความช่วยเหลือด้านการเงินของรัฐบาลส่วนใหญ่ที่ให้กับชาวอเมริกันและภาคธุรกิจนั้นได้สิ้นสุดแล้วเป็นส่วนใหญ่

 

วุฒิสภาสหรัฐจะทำการลงมติมาตรการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้รัฐบาลสามารถดำเนินงานต่อไปได้เมื่อกฎหมายงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุลงในวันศุกร์นี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวฉบับใหม่ดังกล่าวจะทำให้สมาชิกสภามีเวลามากขึ้นในการหารือเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อบรรเทาผลกระทบของโรคโควิด-19 แต่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐระบุว่า การเจรจามาตรการเยียวยาเศรษฐกิจดังกล่าวอาจจะยืดเยื้อไปจนถึงช่วงคริสต์มาส

        

จุดสนใจของตลาดอยู่ที่การประชุมของคณะที่ปรึกษาภายนอกขององค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เพื่อแนะนำว่า FDA ควรให้การอนุมัติใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์เป็นกรณีฉุกเฉินหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่บางคนคาดว่า การฉีดวัคซีนอาจเริ่มขึ้นอย่างเร็วที่สุดในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หาก FDA ให้การอนุมัติ

 

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดลบ โดยกลุ่มอุตสาหกรรม ปรับตัวลง 0.93% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงาน พุ่งขึ้นมากที่สุด 2.93%

 

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดแตะระดับสูงในรอบ 6 เดือน หลังราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นมากกว่า 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค.

 

หุ้น Airbnb ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจองที่พักออนไลน์ ปิดตลาดในการซื้อขายวันแรก พุ่ง 112.81% ที่ 144.71 ดอลลาร์ สูงกว่าราคา IPO ที่ระดับ 68 ดอลลาร์ต่อหุ้น

 

แต่หุ้นเฟซบุ๊ก ลบ 0.29% หลังถูกรัฐบาลสหรัฐฟ้องร้องกรณีละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

 

หุ้นกูเกิล ลบ 0.57%  และหุ้นแอมะซอน ลดลง 0.09% หลังสองบริษัทนี้ถูกหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของฝรั่งเศสสั่งปรับในข้อหาละเมิดกฎเกณฑ์ของฝรั่งเศสเกี่ยวกับเครื่องมือติดตามการวัดผลโฆษณาออนไลน์