ออมสิน พร้อมดัน เงินสดทันใจ เข้าตลาด ถ้ากำไรดี

18 พ.ย. 2563 | 04:33 น.

ออมสิน เชื่อ ร่วมลงทุน บริษัทเงินสดทันใจ คืนทุนเร็ว มีกำไรแน่ หวังดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ใน 3 ปี มั่นใจช่วยดันดอกเบี้ยในระบบจำนำทะเบียนรถ ต่ำ 18% ได้ คาดปล่อยสินเชื่อได้ในไตรมาส 1 ปีหน้า

             นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงการร่วมทุนในบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ระหว่าง ธนาคารออมสิน กับ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารออมสินได้อนุมัติการร่วมลงทุนกับบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือ SAWAD เพื่อทำธุรกิจจำนำทะเบียนรถ โดยธนาคารจะเข้าลงทุนในหุ้นสามัญ สัดส่วนไม่เกิน 49% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ขณะที่ SAWAD ถือหุ้น 51% นั้น คาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กับลูกค้าได้ประมาณ 1 ล้านคน คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท

              ทั้งนี้เชื่อว่า จากศักยภาพของ SAWAD ด้วยการเข้าถึงลูกค้า และมีสาขากว่า 5,000 สาขา รวมกับสาขาของธนาคารอีกกว่า 1,000 สาขา จะทำให้บริษัท เงินสดทันใจ คืนทุนได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว และหากมีกำไรต่อเนื่องดีตามที่คาดการณ์ ก็จะผลักดันให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ได้ในอีก 3 ปี ข้างหน้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทเงินสดทันใจ มีรายได้อยู่ที่ 8,000 ล้านบาทต่อปี และมีกำไร 600 ล้านบาท ขณะที่หนี้เสีย มีเพียง 1-2% ต่ำกว่าเอ็นพีแอลในระบบที่อยู่ที่ 2.6%

 

            นายวิทัย กล่าวว่า การร่วมลงทุนครั้งนี้ จะสามารถช่วยกดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถให้ต่ำลง จากปัจจุบันที่ 24% เหลือ 18% ได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ด้วยการให้ประชาชนกลุ่มฐานรากสามารถเข้าถึงโอกาสทางการเงินได้มากขึ้น ซึ่งจากการประเมิน พบว่าการร่วมทุนครั้งนี้จะสามารถช่วยลูกค้าที่อยู่ในระบบจำนำทะเบียนรถให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงได้ประมาณ 3 ล้านคนทันที และจะช่วยให้อีก 3 ล้านคน ที่ยังเข้าไม่ถึงแหล่งทุน ขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

             “การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาที่ 18% นั้นไม่ได้กระทบอะไรเลย หรือทำให้การดำเนินงานขาดทุน เพราะมันมีกำไร แต่อาจจะลดลงมา แต่สิ่งที่ได้คือการช่วยเหลือประชาชนฐานรากที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่จะได้ถูกลงจากปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ในธุรกิจนี้สูงมาก อยู่ที่ 15-20%”นายวิทัย กล่าว

             นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร SAWAD กล่าวว่า บริษัทจะสามารถควบคุมหนี้เสีย หรือ เอ็นพีแอลไว้ไม่เกิน 4-6% จากปัจจุบันที่เอ็นพีแอลทั้งระบบอุตสาหกรรมในสินเชื่อจำนำทะเบียนอยู่ที่ระดับ 2.6% ด้วยการบริหารความเสี่ยงของการปล่อยสินเชื่อเหมือนที่ผ่านมา  โดยที่ผ่านมาบริษัทมีความใกล้ชิดกับลูกค้า และเน้นการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มชุมชน ขณะที่วงเงินสินเชื่อเบื้องต้นกำหนดไว้ไม่เกิน 200,000 ต่อรายซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำมาก ดังนั้นจึงคาดว่าจะไม่สูงไปกว่านี้แน่  ทั้งนี้จุดเด่นของบริษัทจะอยู่ที่การอนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็วในระยะเวลา 15-30 นาที หากลูกค้ามีเอกสารในการยื่นครบถ้วนจะสามารถอนุมัติรับเงินได้เลย

               สำหรับธุรกิจจำนำทะเบียนในตลาดรวมนั้น ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10-30% โดยการเติบโตนั้นจะขึ้นอยู่กับความต้องการใช้เงิน ดังนั้นจึงเชื่อว่าบริษัทจะสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตขึ้นได้แน่นอน จากการมีสาขาของธนาคารออมสิน และบริษัทรวมกันกว่า 6,000 สาขาทั่วประเทศ