"อินฟินิธัส บาย  กรุงไทย" จ่อเปิด 4บริการปีหน้า

05 พ.ย. 2563 | 10:15 น.

อินฟินิธัส บาย กรุงไทยเตรียมปล่อยกู้ดิจิทัลผ่านแอพ"เป๋าตังและถุงเงิน"พร้อมเปิดรับสตาร์ทอัพพัฒนานวัตกรรมเสริมร่วมต่อยอด

วันนี้ (5 พฤศจิกายน 2563) ธนาคารกรุงไทย โดย บริษัท กรุงไทย แอดไวซ์เซอรี่ จำกัด (KTBA) จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท เป็นบริษัทวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินดิจิทัลรูปแบบใหม่ มุ่งเน้นการให้บริการด้านการพัฒนา Innovations & Digital Platforms ต่างๆ เพื่อเข้าสู่ Open Banking, Digital Banking Service, Data as a Services รวมถึง Digital Solutions อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ให้กับองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกรุงไทยและบริษัทในเครือ ลูกค้าของธนาคารทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน รวมถึงการเชื่อมต่อกับ partner ทางธุรกิจต่างๆ
 

\"อินฟินิธัส บาย  กรุงไทย\" จ่อเปิด 4บริการปีหน้า
 

นายผยง ศรีวณิช  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทยกล่าวว่า   ที่ผ่านมาธนาคารได้ขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์คู่ขนาน 2 Banking Model แบ่งเป็น แบบเรือบรรทุกเครื่องบิน (Carrier) ซึ่งเป็นการดำเนินธุรกิจแบบดั้งเดิม เช่น การดูแลธุรกิจคุณภาพสินเชื่อ การเร่งปรับกระบวนการทำงานโดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการ โดยเน้นการต่อยอดธุรกิจจากลูกค้าของคู่ค้าในทุกภาคส่วน และ แบบเรือเร็ว (Speed Boat) ซึ่งเป็นที่มาของการจัดตั้ง บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด (Infinitas by Krungthai) ที่จะเป็นเรือเร็วออกหาโอกาสดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ มีลักษณะการทำงานแบบ Resilient & Agile ที่ยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน โดยมุ่งเน้นการคิดค้นนวัตกรรมที่เชื่อมโยง 5 Ecosystems ของธนาคาร ต่อยอดความสำเร็จจากฐานข้อมูลจำนวนมาก
 

"StrategyของเราสามารถเติบโตจากPositioningของพันนธกิจตั้งแต่ต้น ด้วยการพัฒนาเป๋าตังเป็นแพลตฟอร์มซึ่งออกแบบเป็นThailand Open Digital Platformของประเทศโดยมีการต่อยอดมาเรื่อยๆบนตัวตนของกรุงไทยในฐานะแบงก์พาณิชย์ที่มีรัฐถือหุ้นใหญ่ปัจจุบันเป๋าตังมีUserเกือบ40ล้านคนในการร่วมมือกับรัฐซึ่งเป็นพันธมิตรหลักจาก5ecosystemและต่อไปจะช่วยผู้ประกอบการตัวเล็กและคนไทยทุกภาคส่วน"
 

\"อินฟินิธัส บาย  กรุงไทย\" จ่อเปิด 4บริการปีหน้า

นางประราลี รัตน์ประสาทพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงาน Digital Solutions และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัดระบุว่า  ด้วยจุดแข็งทั้งฐานลูกค้า ทีมงาน300คนที่รับโอนจากธนาคารกรุงไทยพร้อมทีมData Analyticsที่แข็งแกร่งของบริษัท อินฟินิธัส เราเตรียมจะให้บริการผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกช่วงชีวิตของลูกค้าในปีหน้า เช่น การยืนยันตัวตัน (Visual ID) บริการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล (digital asset) ดิจิทัลคอมเมิร์ซ (Digital Commerce)และ สินเชื่อออนไลน์ (digital lending) ไม่ว่า แอพพลิเคชั่นเป๋าตัง  ,ถุงเงินและแพลตฟอร์มต่าง ที่มีในทุกภาคส่วน
 

"นอกจากสิ่งที่ เราสร้างขึ้นเองแล้วในอนาคตเราต้องการมีพาร์ทเนอร์ซึ่งจะเปิดรับทรัพย์ให้นำนวัตกรรมมาเสริมและร่วมกันต่อยอด"
 

\"อินฟินิธัส บาย  กรุงไทย\" จ่อเปิด 4บริการปีหน้า
 

นายสมคิด จิรานันตรัตน์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า   “เป๋าตัง” ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นแพลตฟอร์มที่หลากหลาย มีศักยภาพสูงสุดในการต่อยอดให้เป็นแพลตฟอร์มระดับสากลได้ 
ทั้งนี้ หากดูตัวเลขโมบายแบงกิ้งของระบบธนาคาร ที่มียอดใช้สูงสุดจะอยู่ที่ 14 ล้านบัญชี ดังนั้นมองว่าหากธนาคารยังทำธุรกิจในรูปแบบเดิม มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะมีคู่แข่งจากสารพัดบริษัทเทคโนโลยี ที่มีข้อมูลค่อนข้างมาก 

\"อินฟินิธัส บาย  กรุงไทย\" จ่อเปิด 4บริการปีหน้า
 

ดังนั้น บริษัท อินฟินิธัส จะเป็นบริษัทที่สร้าง ดิจิทัลเทคโนโลยีให้ประเทศไทย ที่จะทำให้เกิดการสร้างแพลตฟอร์ม สร้างโครงสร้างพื้นฐานและเชื่อมต่อให้กับนะบบนิเวศ (Ecosystem) ต่างๆได้ โดยโครงสร้างพื้นฐานจะมี 3 ด้านหลัก ทั้งการทำเรื่อง Digital ID ที่หนุนให้เกิดการเปิดบัญชี การทำธุรกรรมข้ามธนาคารได้รวดเร็ว และ Digital Currency ที่จะช่วยควบคุมและสร้างเสถียรภาพทางการเงินให้กับประเทศในระยะข้างหน้า และ Digital Paper ที่จะเข้าไปลดการใช้เอกสาร กระดาษในอนาคต โดยเป้าหมาย อินฟินิธัส มี 3 อย่าง ต้องการขยายไปสู่ภูมิภาค การช่วยคนตัวเล็ก และการผลักดันให้เกิดสตาร์ตอัพยูนิคอร์ทในประเทศไทย 
 

นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของอินฟินิธัส บาย กรุงไทย มุ่งเน้นการมีส่วนช่วยประเทศในการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชน รวมถึงป้องกันการคอร์รัปชั่น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในทุกขั้นตอน ซึ่งที่ผ่านมา แอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย ได้มีส่วนในการสร้างความโปร่งใสในระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ผ่านโครงการต่างๆ ของภาครัฐที่เน้นการการกระจายรายได้ และความช่วยเหลือ ต่างๆสู่ภาคประชาชนอย่างถูกต้อง ตั้งแต่ระบบการยืนยันตัวตนผู้เข้ารับบริการ เช่น Health ID ในแอปพลิชั่นเป๋าตัง และระบบชำระค่าบริการทั้งตามสิทธิตาม G-Wallet รวมถึงส่วนเพิ่มที่อยู่นอกเหนือสิทธิ์ได้ทันที ซึ่งช่วยเน้นทั้งความสะดวกและความโปร่งใสอย่างต่อเนื่อง