ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 516.81 จุด หรือ -2.17% ยืนที่ 23,247.97 จุด ดัชนี S&P500 ปรับลดลง 50.12 จุด หรือ -1.75% ปิดที่ 2,820.00 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ลดลง 139.38 จุด หรือ -1.55% ปิดที่ 8,863.17 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากนายพาวเวลล์ กล่าวในการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศปีเตอร์สัน (PIIE) เมื่อวานนี้ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความไม่แน่นอน และมีความเสี่ยงในช่วงขาลง
ประธานเฟด ยังกล่าวด้วยว่า ไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้เกิดสถานการณ์ที่แตกต่างจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่สหรัฐเคยเผชิญในอดีต และสภาคองเกรสควรจะมีบทบาทมากขึ้นในการรับมือกับวิกฤตการณ์ดังกล่าวมากกว่าเฟด ด้วยการใช้มาตรการทางภาษี และการใช้จ่ายของรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นายเดวิด เทปเปอร์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปปาลูซา แมเนจเมนท์ กล่าวว่า "ตลาดหุ้นมีมูลค่าสูงเกินจริงมากเป็นอันดับสองเท่าที่ผมเคยเห็นมา ซึ่งเป็นรองเพียงในปี 1999 โดยตลาดมีมูลค่าสูงมาก ขณะที่เฟดได้อัดฉีดเงินจำนวนมากเข้าตลาด"
ทั้งนี้ Forward P/E ratio อิงตามการประเมินสำหรับช่วง 12 เดือนข้างหน้าพุ่งขึ้นเหนือระดับ 20 เท่า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2002
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือน เม.ย. ดิ่งลง 1.3% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนมี.ค. โดยการร่วงลงของดัชนี PPI ในเดือนเม.ย. ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสหรัฐจะเผชิญภาวะเงินฝืดในช่วงสั้นๆ ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบอุปสงค์