โดยระหว่างนี้ทุกฝ่ายจับตาท่าทีของรัฐบาล! ภายหลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การฟื้นฟูการบินไทยนั้นเป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) ที่จะเสนอ เพราะอยู่ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลต้องฟื้นฟูอยู่แล้ว
ต่อประเด็นการฟื้นฟูกิจการ ภายใต้กระบวนการของศาลล้มละลายกลางนั้น แหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการฟื้นฟูกิจการเปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ถ้าบมจ.การบินไทยจะเลือกแนวทางฟื้นฟูกิจการนั้น ในหลักการของศาลล้มละลายกลาง เบื้องต้นแนวทางการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการจะต้องอยู่บน 2เงื่อนไข คือ
หนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน(หนี้สินล้นพ้นตัว) หรือ กรณีไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนด(ขาดสภาพคล่อง) ซึ่งสามารถจะร้องขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ ซึ่งสามารถจะยื่นคำร้องขอโดยการบินไทยเอง หรือบรรดาเจ้าหนี้ของการบินไทย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างการบินไทยกับเจ้าหนี้ เพื่อให้ศาลพิจารณาถึงเหตุผลความจำเป็น หรือมีช่องทางในการฟื้นฟูกิจการเพียงไร
“คำร้องขอฟื้นฟูกิจการจะต้องพิสูจน์ได้ว่า การบินไทยมีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือชำระหนี้ไม่ได้ หรือมี ความจำเป็น และเป็นปัญหาจากสภาพเศรษฐกิจ หรือบริหารขาดทุน แต่ไม่ได้เกิดจากการทุจริต โดยต้องแสดงให้เห็นถึงโอกาสของการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ นอกจากนี้ในคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต้องเสนอด้วยว่าจะให้ใครจะเป็นผู้ทำแผน”
อย่างไรก็ตาม หากคำร้องขอเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการสามารถแสดงความจำเป็นและเห็นโอกาสของการฟื้นฟูกิจการได้อย่างครบถ้วน บริษัทการบินไทยในฐานะลูกหนี้ก็จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอัตโนมัติ ( Automatic stay )จากบรรดาเจ้าหนี้ทุกประเภท โดยไม่สามารถฟ้องร้องหรือดำเนินคดีในระหว่างบริษัทลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ซึ่งถือเป็นสิทธิประโยชน์เบื้องต้น แต่ประเด็นคณะผู้บริหาร(บอร์ด)และเจ้าหนี้การบินไทยต้องหารือกันเพื่อหาทางออก เพราะเท่าที่ติดตามจากสื่อ ยังปรากฎทั้งแรงต้าน และแรงหนุน
ที่สำคัญ หากมีการยื่นคำร้องขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้ศาลล้มละลายกลาง ในทางปฎิบัติศาลต้องดูในรายละเอียดหรือไส้ในของการบินไทย ซึ่งปัจจุบันศาลล้มละลายกลางจะมองหลักการฟื้นฟูกิจการค่อนข้างจริงจัง ไม่ใช่มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการได้เรื่อยๆ
โดยศาลจะพิจารณาถึงเหตุผลของการฟื้นฟูกิจการ เพราะต้องพิจารณาตั้งแต่การเข้ามาฟื้นฟูกิจการ รวมถึงพฤติกรรมทุจริต หรือบริหารงานผิดพลาด โกงกันเอง และสร้างหนี้เทียม เหล่านี้เป็นประเด็นศาลล้มละลายกลางจะดูรายละเอียดเพื่อประกอบการพิจารณาคำร้องว่าจะรับหรือไม่รับเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการหรือไม่ อย่างไร
อนึ่ง ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุ (เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2563) ว่า กระทรวงฯได้สั่งการให้ฝ่ายบริหารการบินไทย ทำงานร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดทำรายละเอียดของแผนฟื้นฟูให้สมบูรณ์ เพราะแผนฟื้นฟูควรจะมีแผนบริหารหนี้ แผนหารายได้ แผนรายจ่ายระบุให้ชัดว่าใครทำอะไร ทำอย่างไรและที่สำคัญต้องนำเงื่อนไขโควิด-19เข้าไปพิจารณาด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากแผนฟื้นฟูที่การบินไทยเสนอเมื่อวันที่ 7พฤษภาคมที่ผ่านมาระบุถึงความเสี่ยง 23ด้านซึ่งยังไม่สมบูรณ์ควรจะต้องมีรายละเอียดทุกด้าน โดยกระทรวงฯต้องการพิจารณารายละเอียดของแผนฯอย่างรอบคอบก่อนจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา
“กรณีของการยื่นเป็นบริษัทล้มละลายเพื่อมีผลต่อการชำระหนี้สินนั้น ส่วนตัวมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นกรณีที่จะต้องดู หากว่าการบินไทยทำแผนต่อไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ตนไม่อยากให้เรื่องไปถึงขั้นตอนศาล เพราะหากเป็นเช่นนั้น ศาลจะต้องลงมากำกับดูแล อีกทั้งปัจจุบันการบินไทยก็ยังยืนยันเดินหน้าแผนฟื้นฟูได้ ดังนั้นต้องรอให้เกิดกรณีที่การบินไทยทำแผนฟื้นฟูไม่ได้ก่อน”