ยาไมเกรน-คุมกำเนิดกินได้ก่อนฉีดวัคซีนโควิด "หมอยง" แนะให้ทำตัวเหมือนปกติ

14 มิ.ย. 2564 | 14:30 น.

หมอยงเผยก่อนฉีดวัคซีนไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ ระบุยาคุมกำเนิด ยาปวดศีรษะไมเกรน ไม่ได้เป็นข้อห้าม

รายงานข่าวระบุว่า ศ.นพ.ยง  ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊ก (Yong Poovorawan) โดยมีข้อความว่า
    โควิด-19 วัคซีน
    ยง ภู่วรวรรณ
    มีการพูดไปมาเกี่ยวกับการเตรียมตัวไปฉีดวัคซีน covid 19 
    แทบจะไม่ต้องมีการเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษเลย ทุกอย่างเคยอยู่อย่างไร ให้ปฏิบัติตนเช่นนั้น ถ้าทุกวันออกกำลังกาย ก็ออกกำลังกายทุกวันไป ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ วันก่อนจะไปฉีดวัคซีนก็ไม่ต้องไปหักโหมให้ร่างกายอ่อนเพลีย
    การกินน้ำเยอะๆ ก็ไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าร่างกายไม่ขาดน้ำ ดูอย่าให้ร่างกายขาดน้ำ เช่น เสียเหงื่อมาก อากาศร้อน ก็กินน้ำให้เต็มที่ รับประทานอาหารให้ปกติ อย่าปล่อยให้หิว หรือท้องว่าง เดี๋ยวจะเป็นลมง่าย

ศ.นพ.ยง  ภู่วรวรรณ
กาแฟเคยทานทุกวัน ก็ทานเป็นปกติ แต่ถ้าไม่ได้ทาน ก็อย่าไปทานในวันฉีดวัคซีน
    ยาทุกชนิดที่ทานอยู่ก็ให้ทานปกติ ไม่ว่าจะเป็นยาความดัน เบาหวาน ยาละลายลิ่มเลือด ลดไขมัน สารพัดยาที่กินอยู่ ก็ให้กินต่อไป ถ้าทานยาละลายลิ่มเลือด เวลาฉีดยา กดรอยฉีดให้นานหน่อย อย่าไปขยี้เดี๋ยวเลือดออกง่าย 
    ยากดภูมิต้านทาน ที่กินอยู่ ไม่ควรหยุดเอง ควรปรึกษาแพทย์ ถ้าหยุดแล้วโรคกำเริบ ก็ไม่ควรหยุด แต่ต้องยอมรับว่าฉีดแล้วภูมิต้านทานจะขึ้นไม่ดี แล้วค่อยไปเพิ่มจำนวนฉีดทีหลัง 
    ยาคุมกำเนิด ยาปวดศีรษะไมเกรน ไม่ได้เป็นข้อห้ามแต่อย่างใด
    การไปฉีดวัคซีนนี้ ทำใจให้สบาย ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่าการฉีดวัคซีนในภาวะปกติ เช่นไข้หวัดใหญ่ 
    การฟังข่าวที่ทำให้เครียด เวลาไปฉีดยา บางคนยังไม่ทันไรเลย ความดันขึ้นสูงมาก ทั้งที่ไม่เคยมีประวัติความดันมาก่อน
    ขอให้ปฏิบัติตนแบบปกติ ในกิจวัตรประจำวัน 
    เมื่อฉีดยากลับมาแล้ว ถ้ารู้สึกมีไข้ ไม่สบายเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ทานยาพาราเซตามอลได้เลย 
    ถ้ามีอาการผิดปกติมากเช่น ไข้สูงมาก หลายวัน ปวดศีรษะมาก เจ็บหน้าอก จุกแน่น หายใจลำบาก หรือรู้สึกไม่สบายมากก็ขอให้พบแพทย์ 
    #หมอยง
     ส่วนตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิด-19 (Covid-19) ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-13 มิ.ย.64 จากศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีการฉีดวัคซีนสะสมแล้วทั้งหมด 6,188,124 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 4,531,914 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 1,656,210 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :