ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม ขอเพิ่มโควตาวัคซีนโควิดแล้ว (มีคลิป)

วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 สืบเนื่องจากกรณีภาคีเครือข่ายเพื่อชาวสมุทรสงคราม พร้อมด้วยองค์กรภาคเอกชน ในจังหวัดสมุทรสงครามพร้อมใจกันนัดยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม หน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสงครามในเรื่องการจัดสรรวัคซีน จากส่วนกลางมาให้กับจังหวัดสมุทรสงครามน้อยเกินไป นั้น

นายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า  ทางจังหวัดได้ทำหนังสือไปเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 ถึง กระทรวงมหาดไทย และ อธิบดีกรมควบคุมโรค แล้ว ว่าได้รับการยื่นข้อเรียกร้องกับทางมวลชนในพื้นที่ พร้อมกับได้ชี้แจงให้กับทางคณะที่มาได้มาในวันนี้ว่า ผมได้ทำหนังสือไปก่อนหน้านั้นแล้วว่าทางจังหวัดสมุทรสงคราม โดยสถานการณ์ก็ดี และสภาพพื้นที่ที่เป็นไข่แดงถูกล้อมด้วยพื้นที่สีแดง และสภาพที่เป็นเมืองท่องเที่ยวรองที่มีรายได้ทางเศรษฐกิจสูงก็ดีก็สมควรที่จะได้รับการปรับการจัดสรรวัคซีนให้มาเพิ่มในเดือนมิถุนายน และ กรกฎาคม ให้มากขึ้น ซึ่งก็สอดคล้องกับคณะที่มาเรียกร้องในวันนี้ ซึ่งได้ทำหนังสือไปก่อนหน้านั้นแล้ว อย่างไรก็ดีจะนำเรื่องที่ทางกลุ่มมาในวันนี้ส่งต่อไปให้ทางกรมควบคุมโรคกับทางกระทรวงมหาดไทยได้รับทราบ

“การแพร่ระบาดมาจากคลัสเตอร์ใหญ่โรงงานแคลคอมพ์ อำเภอเขายัอย จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งอยู่ติดกับจังหวัดสมุทรสงครามยังคงแพร่ระบาดรุนแรงอย่างต่อเนื่องและเริ่มแพร่กระจายข้ามเขตเข้าสูโรงงานอุตสาหกรรมและหมู่บ้าน/ชุมชนในจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นสถานการณ์เร่งด่วนที่มีความจำเป็นต้องได้รับการกระจายวัคซีนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่าที่เป็นอยู่

กลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยเร็ว เช่น ผู้ประกอบการและแรงงานในตลาดปลาสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด พนักงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ใหญ่ โรงงานแคลคอมพ์ อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี กลุ่มแรงงานที่ไปทำงานโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดข้างเคียง และกลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์แพร่ระบาดในปัจจุบัน

นายชรัส กล่าวย้ำว่า จังหวัดสมุทรสงครามแม้เป็นจังหวัดเล็กแต่ก็เป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศและสามารถฟื้นตัวได้เร็วที่จะมีส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้ เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว(เมืองรองที่ได้รับความนิยมสูง) สะดวกในการเดินทาง หากได้รับการจัดสรรวัคนได้ครบตามเป้าหมายภายในเดือนกรกฎาคม 2564 จะสามารถเปิดเมืองเพื่อรับการท่องเที่ยวได้ทันที ซึ่งปกติจะมีนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวปีละกว่า 2 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้กว่าปีละ 3,000 ล้านบาท

จังหวัดสมุทรสงครามโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสงครามได้ปรับระบบการบริการฉีตวัคซีนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นพร้อมจะรองรับการฉีดวัคซีนตามจำนวนเป้าหมายให้เสร็จได้ภายในเวลา 2 เดือน (เดิมสามารถให้บริการได้  1,900 ราย/วัน เพิ่มเป็น 5,300  ราย/วัน) ด้วยเหตุผลความจำเป็นดังกล่าว จังหวัดสมุทรสงครามโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ โรคติดต่อจังหวัดสมุทรสงคราม

ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงขอปรับแผนการจัดสรรวัคนให้จังหวัดสมุทรสงครามให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสงคราม โดยสมควรปรับยอดจำนวนวัคซีนในเดือนสิงหาคม - กันยายน 2564 มาเพิ่มในเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2564 ให้สูงขึ้น

ด้านนายมงคล สุขเจริญคณา แกนนำภาคคีฯ ชาวสมุทรสงคราม กล่าวว่า วันนี้ได้เห็นการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสงครามที่ได้ให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสงครามเป็นอย่างมาก ซึ่งท่านได้มีการประชุมทำงานล่วงหน้า ก็คือ วันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้มีการขออนุมัติทำหนังสือถึงอธิบดีกรมควบคุมโรคในการขอให้มีการจัดสรรโควตาวัคซีนเพิ่มเติมเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์

ทางคณะที่มายื่นหนังสือพร้อมกับขอขอบคุณผู้ว่าฯ และคณะกรรมการโรคติดต่อ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้เห็นสถานการณ์อย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ดี ก็อยากจะขอความอนุเคราะห์จากทางส่วนกลางช่วยจัดสรรวัคซีนมาให้กับทางจังหวัดสมุทรสงครามเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ที่จะมีการระบาดในรอบใหม่ของจังหวัดด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ลุกฮือ ขอโควตาวัคซีนโควิดเพิ่ม (มีคลิป)
• "สมุทรสงคราม" ร้องจัดสรรวัคซีนโควิดไม่เป็นธรรม