ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯออกแนวทางการฉีดวัคซีนโควิดผู้ใหญ่-ผู้ป่วยอายุรกรรม

25 พ.ค. 2564 | 13:05 น.

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยออกแนวทางการฉีดวัคซีนโควิดผู้ใหญ่และผู้ป่วยอายุรกรรมเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

รายงานข่าวระบุว่า พล.อ.ท.อนุตตร จิตตินันทน์ (หมออนุตตร) ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (Anutra Chittinandana) โดยมีข้อความว่า 
    บทสรุป....จากข้อมูลหลักฐานเท่าที่มีในปัจจุบัน และความเห็นร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญจากทุกสมาคมวิชาชีพทางอายุรศาสตร์เพื่อให้ได้ข้อตกลงร่วมเป็นแนวทางเดียวกัน ลดความสับสน   
    ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โดยคณะอนุกรรมการแนวทางเวชปฏิบัติและจัดการความรู้ ร่วมกับสมาคมวิชาชีพสาขาต่าง ๆ ทางอายุรศาสตร์ ประชุมจัดทำแนวทางเวชปฏิบัติการให้วัคซีนโควิด-19 แก่ผู้ใหญ่และผู้ป่วยอายุรกรรม จากหลักฐานเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ได้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการให้วัคซีนได้ถูกต้องและสอดคล้องกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 (Covid-19) ในปัจจุบัน
    ราชวิทยาสัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
    25 พฤษภาคม 2564
    แนวทางเวชปฏิบัติการให้วัคชีนโควิด 19 แก่ผู้ใหญ่และผู้ป่วยอายุรกรรม คณะอนุกรรมการแนวทางเวชปฏิบัติและจัดการความรู้ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ฉบับวันที่ 25 พฤษภาคม 2564
    1.ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยสนับสนุนให้บุคคลทุกคนที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่ได้รับอนุญาตให้ใข้ในประทศไทยในสถานการณ์ปัจจุบันโดยเร็วที่สุด รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด 19 ซึ่งมาตรวจติดตามรับการบริบาลที่สถานพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ได้รับวัคซีนโควิด 19 ใน
วันที่มารับบริการหรือก่อนจำหน่ายกลับบ้าน
    2. วัคซีนโควิด 19 มีชนิดต่างๆ ดังนี้
    2.1. Inactivated vaccines ได้ แก่ Sinopharm COMD-19 vaccine*(Sinopharm B8IBP-CorV&WBP-CorV), CoronaVac*(Sinovac Biotech, Ltd.),Covaxin·(Bharat Biotech),CoviVa*(Chumakov Cen-tre) และ QazCovid-inㆍ(Research Institute for Biological Safety Problems in Kazakhstan)
    2.2.Messenger RNA (mRNA) vaccines ได้แก่ Comimnaty* (Pfizer- BioNTech, BNT162h2) และCOVID-19 Vaccine Moderna* (ModernaTX, Inc. mRNA-1273)
    2.3. Protein subunit vaccines ไต้ แก่' Covovax" (Novavax, Inc.), EpiVacCorona* VECTORcenter of Virology) และ Zifivax* (Anhui Zhifel Longcom, RBD-Dimer)
    2.4.Viral vector vaccines ได้แก๋ Covshleld", Vaxzevria* และ COMD-19 Vaccine AstraZeneca (Oxford/AstraZeneca, ChAdOx1-S), Sputrik V และ Sputrik Light* (Garnaleya Research Inst.), Janssen COMID-19 Vaccine*Uohnson & Johnson; Janssen Inc, Ad26.COV2.S) และ Convidecia*(CanSino Biologkcs)
    ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนโควิด 19 ชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ (ive-attenuated vaccines) ณ ปัจจุบัน (25 พฤษภาคม 2564) วัคซีนโควิด 19 ที่ด้รับอนุญาตในประเทศไทย โดยมีข้อบ่งใช้สำหรับฉีดเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้าภูมิคุ้มกันในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) ภายใต้การอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์แบบมีเงื่อนไขในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีการระบาดใหญ่ของโรค ได้แก่ COMD-19 Vaccine AstraZeneca , CoronaVac*, Janssen COVID-19 Vaccine และ COMID-19 Vaccine Moderna
    3. ผู้ป่วย/บุคคลต่อไปนี้สามารถรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้อย่างปลอดภัย และแนะนำให้ได้รับการฉีดวัคชีนโควิด 19 ทันทีที่ทำได้
    3.1. ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวซึ่งอยู่ในภาวะคงที่ เช่น โรคความดันเลือดสูงหรือโรคเบาหวานซึ่งไม่มีภาวะวิกฤตแม้ยังควบคุมระดับความดันเลือดหรือระดับน้ำตาลในเลือไม่ใด้ตามเป้าหมาย โรคหัวโจและหลอดเลือดต่าง ๆ โรคระบบทางเดินอาหารและตับ โรคติดเชื้อเอชไอวี โรคข้ออักเสบ/โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคสะเก็ดเงิน โรคภูมิแพ้ ภาวะ
สมองเสื่อม อัมพาต อัมพฤกษ์ โรคไตเรื้อวัง ผู้สูงอายุที่มีภาวะเปราะบาง โรคหืด/ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคไขกระดูกฝ่อ (aplastc anemla) ไขกระดูกทำงานผิดปกติ (ADS หรือ MPN) โรคมะเร็งทางโลหิตวิทยา และโรคมะเร็งอื่น
    3.2 ผู้ป่วยที่ได้รับหรืออยู่ระหว่างได้รับการบำบัดด้วยยาและวิธีการต่ง ๆ เช่น เคมีบำบัด รังสีรักษา การบำบัดทดแทนไต ยากดภูมิคุ้มกันที่อาการของโรคสงบ เลือดหรือผลิตภัณฑ์จากเลือดทุกชนิด อิมมูโนโกลบูลินเข้าหลอดเลือดดำ ยาสูดสเตียรอยด์ ยาควบคุมอาการของโรคต่างๆ  (ยกเว้นผู้ป่วยในข้อ 4)
    3.3. ผู้ป่วยโรคเลือดออกง่าย มีเกล็ดเลือดต่ำหรือเกล็ดเลือดทำงานผิดปกติหรือได้รับยาต้านเกล็ดเลือด/ยาต้านการแข็งตัวของเลือดที่ไม่ใช่วาร์ฟาริน (เช่น asplrin, clopidogrel, ticagretor, prasugre!) รวมทั้งผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟารินต้านการแข็งตัวของเลือด กรณีมีผลตรวจระดับ INR ต่ำกว่า 4.0 ภายใน 1 สัปดาห์. หรือมีผลระดับ INR ก่อน
หน้านี้อยู่ในระดับต่ำกว่า 30 มาโดยตลอด (ไม่จำเป็นต้องหยุดหรือปรับขนาดยาและไม่จำเป็นต้องตรวจ INR ก่อนรับวัดซีน) รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้โดยใช้เข็มฉีดยาขนาดเล็ก 25G หรือ 27G ฉีดที่กล้ามเนื้อต้นแขน แล้วกดตำแหน่งที่ฉีดไว้นานประมาณ 5 นาที จากนั้นอาจประคบเย็นต่อด้วยน้ำแข็งหรือเจลเย็น
    3.4. บุคคลที่มีประวัติแพ้อาหารหรือแพ้ยาต่าง ๆ
    3.5. ผู้ป่วยที่ไม่อยู่ในฐานะที่จะรับทราบข้อมูลได้ (เช่น ผู้ป่วยสมองเสื่อม ผู้ป่วยติดเตียง) ควรให้บุคคลซึ่งเป็นทายาทโดยธรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์วับทราบข้อมูลและตัตสินใจแทน
    3.6. ผู้ดูแลหรือผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว
    4. บุคคล/ผู้ป่วยที่แนะนำให้รับการฉีดวัดซีนโควิด 19 ได้ โดยมีข้อพิจารณาเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
    4.1. บุคคลที่มีประวัติแอนาฟิแล็กซิสจากวัคซีนอื่นมาก่อน แนะนำให้ตรวจสอบส่วนประกอบของวัคซีนที่ผู้ป่วยเคยแพ้ และให้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ชนิดที่ไม่มีส่วนประกอบเดียวกันกับวัคซีนที่เคยแพ้ใด้ทันที (ดูตารางสรุป ส่วนประกอบของวัคซีนและชนิดวัคชีนโควิด 19 ที่เลือกใช้ใด้ในผนวกท้ายแนวทางเวชปฏิบัตินี้)
    4.2. ผู้ป่วยที่เพิ่งมีอาการหรืออาการยังไม่เสถียรหรือยังมีอาการที่เป็นอันตรายต่อชีวิต (Iife-threatening) เช่น ผู้ป่วยที่มีอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน (acute coronary syndrome) ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน (acute decompensated heart failure) โรคความดันเลือดสูงฉุกเฉิน (hypertensive emergency) โรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน (acute stroke) โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง/โรคหืดที่มีอาการกำเริบ (acute exacerbation of COPD/asthma) ผู้ป่วยหลังรับการผ่าตัด แนะนำให้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทันทีเมื่อควบคุมอาการได้คงที่แล้วหรือก่อนจำหน่ายกลับ
    4.3. ผู้ป่วยที่มีระดับเม็ดเลือดขาวต่ำรุนแรง แนะนำให้รอจนกระทั่งพ้นช่วงที่มีเม็ดเลือดขาวต่ำรุนแรง แล้วรีบจัดให้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทันทีที่จำนวนเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโทรฟิลเกิน 1,000 เซลล์ต่อไมโครลิตร
    4.4. ผู้ป่วยโรคเลือดซึ่งได้รับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (stem celts) หรือบำบัดด้วยภูมิคุ้มกัน CAR- cell แนะนำให้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้เมื่อพ้น 3 เดือนหลังปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดหรือบำบัดด้วยภูมิคุ้มกัน CAR-T cell ดังกล่าว
    4.5. ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ (เช่น ไต ตับ ปอด หัวใจ) แนะนำให้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้เมื่อพ้น 1 เดือนหลังผ่าตัดและมีอาการคงที่แล้ว หรือเมื่อพ้น 1 เดือนหลังได้รับการรักษาภาวะปฏิเสธอวัยวะ โดยให้ปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อน
    4.6. ผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดด้วยแอนติบอดี (antibody therapy) หรือได้รับยาแอนติบอดี (antibodydrugs: -mab) แนะนำให้รับการฉีดวัดซีนโควิด 19 ได้ดังนี้
    4.6.1. ผู้ป่วยโควิด 19 ที่เคยได้รับการบำบัดด้วยพลาสมาจากผู้ป่วยที่หายจากโควิด 19 (convalescentplasma containing anti-SARS-CoV-2 antilbodies) หรื e monoclonal antibodiies for treatment of COVID-19 (casirivimab & imdevimab) แนะนำให้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้เมื่อพ้น 3 เดือนหลังได้รับการบำบัดดังกล่าว
    4.6.2. ผู้ป่วยที่ได้รับยา #timab แนะนำให้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้เมื่อพ้น 1 เดือนหลังได้รับยาดังกล่าว หรือก่อนให้ยา rtudmab ครั้งแรกอย่างน้อย 14 วัน
    4.6.3. ผู้ป่วยที่ได้รับยาแอนติบอดีขนานอื่น (เช่น omalizumab, benralizumab, dupilumab)แนะนำให้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้เมื่อพ้น 7 วันก่อนหรือหลังได้รับยาดังกล่าว
    5. บุคคลผู้ใด้รับการดวัคซีนโควิด 19 ทั้งก่อนและหลังการฉีด สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ (เช่น การบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งชากาแฟ ยาต่าง ๆ ตลอดจนทำหน้าที่การงานที่เคยทำปกติได้ และไม่ควรออกกำลังกายหนักกว่าที่เคยทำปกติหรือพักผ่อนน้อยกว่าปกติในช่วง 1-2 วันก่อนและหลังการได้รับวัคซีนในกรณีที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนอื่น (เช่น วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า วัคซีนบาดทะยัก) ให้รับการฉีดวัคซีนโควิต 19 ได้โดยไม่จำเป็นต้องเว้นระยะเวลาแตให้กดที่ตำแหน่งต่างกัน ส่วนในกรณีต้องการสังเกตอาการ/ผลไม่พึงประสงค์จากการได้รับวัดชื่นแต่ละชนิด อาจเว้นระยะเวลาห่างกันประมาณ 1 สัปดาห์
    6. เอกสารเพิ่มเติม
    6.1. มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย, การฉีดวัคซีนป้องกันโควิคในผู้ป่วยมะเร็ง. https://hit.ly/3hoHl.INe
    6.2. สมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย, วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับประชาชน. https://it.ly/3vfhWps
    6.3. สมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย, แนวทางการควัคซีนโควิด 19 ในผู้ป่วยที่ใด้รับหรือรอรับการปลูกถ่ายอวัยวะ. https/hit ly/4velcf1
    6.4. สมาคมพฤณาวิทยาและเวชศาสตร์ผู้สูงอายุไทย, คำแนะนำเรื่องการดวัคซึนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับผู้สูงอายุ hitps:/hit lv/Aulhers
    6.5. สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชปถัมภ์. ข้อควรพิจารณาการฉีดวัดซีนป้องกันโรคโคโรนาไวรัส 2019 (COVID-19) ในผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด. hitp://xosuthaiheat.org/
    6.6. สมาคมรูมาดิสซั่มแห่งประเทศไทย, แนวทางในการให้วัคซีนป้องกันโควิด 19 สำหรับผู้ป่วยโรคข้ออักเสบและโรคแพ้ภูมิตัวเอง. http//hit.ly/COMID/axtheun
    6.7. สมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย. คำแนะนำเรื่องการฉีดวัคซีน COVID-19. https//it.ly/2Sptf8
    6.8. สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย. คำแนะนำในการรับวัคซีนในผู้ใหญ่ ในช่วงที่มีการระบาดของCOVID-19. httos//it.1v/3hsiht
    6.9. สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. คำแนะนำสำหรับวัคซีนป้องกันโควิด-19ในผู้เป็นเบาหวาน, hivs:/hitly/3148./47
    6.10. สมาคมโรคสมองเสื่อมแห่งประเทศไทย. คำแนะนำในการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 สำหรับผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อม.Jtps://haidamentia.com/puhickcoashim
    6.11. สมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย, คำแนะนำการรับวัคซีนโควิด 19 สำหรับผู้ติดเชื้อเอซไอวี.https://kit.ly/3412PNC
    6.12. สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย, คำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้ผู้ป่วยโรคเลือด (สำหรับแพทย์). htto://wwwtsh.onth/Artbity/hanai/277
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบวมข้อมูลการฉีดวัคซีนในประเทศไทศจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-24 พ.ค. 64 มีการฉีดวัคซีนแล้ว 3,024,313 โดส ประกอบด้วย เข็มที่ 1  สะสมจำนวน 2,044,123 ราย และเข็มที่ 2 สะสมจำนวน 980,190 ราย

แนวทางการฉีดวัคซีนแก้ผู้ใหญ่และผู้ป่วยอายุรกรรม

แนวทางการฉีดวัคซีนแก้ผู้ใหญ่และผู้ป่วยอายุรกรรม

แนวทางการฉีดวัคซีนแก้ผู้ใหญ่และผู้ป่วยอายุรกรรม

แนวทางการฉีดวัคซีนแก้ผู้ใหญ่และผู้ป่วยอายุรกรรม

แนวทางการฉีดวัคซีนแก้ผู้ใหญ่และผู้ป่วยอายุรกรรม

แนวทางการฉีดวัคซีนแก้ผู้ใหญ่และผู้ป่วยอายุรกรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :