ฉีดวัคซีนคนละบริษัทภูมิคุ้มกันสูง "หมอเฉลิมชัย" เตือนระวังผลข้างเคียงที่มากขึ้น

25 พ.ค. 2564 | 06:40 น.

หมอเฉลิมชัยเผยผบวิจัยฉีดวัคซีนคนละบริษัทภูมิคุ้มกันสูงจริง แต่ต้องระมัดระวังผลข้างเคียงที่มีมากขึ้น

รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยระบุข้อความว่า 
    ได้คำตอบเบื้องต้นแล้ว !! ฉีดวัคซีนโควิดคนละบริษัท พบว่าภูมิคุ้มกันขึ้นได้สูงดี แต่ผลข้างเคียงก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
    มีรายงานการศึกษาเบื้องต้นจากประเทศสเปน ในอาสาสมัคร 663 คน ทำการทดลองเมื่อเมษายน 2564
    เข็มหนึ่ง ฉีดวัคซีนของบริษัท AstraZeneca เข็มสองฉีดวัคซีนของบริษัท Pfizer ห่างกันแปดสัปดาห์ โดยอาสาสมัครจำนวนสองในสาม ฉีดวัคซีนเข็มสอง แต่อีกหนึ่งในสามของอาสาสมัครยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มสอง
    เมื่อตรวจดูระดับภูมิคุ้มกันพบว่า กลุ่มที่ฉีดเข็มสองด้วยวัคซีน Pfizer มีระดับภูมิคุ้มกันขึ้นได้สูงเป็นที่น่าพอใจ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ฉีดเข็มสอง ไม่มีระดับภูมิคุ้มกันที่เปลี่ยนแปลงจากเข็มหนึ่ง
    อย่างไรก็ตาม คงจะต้องศึกษาเปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกัน ของการฉีดเข็มสองด้วยวัคซีนของ AstraZeneca เหมือนกันด้วย แต่ในทางวิชาการ ก็คาดว่า การฉีดวัคซีนเข็มสองต่างบริษัทต่างเทคโนโลยีกัน น่าจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูง
    ในห้วงเวลาเดียวกัน ได้มีการศึกษาทดลองในประเทศอังกฤษ โดยการฉีดวัคซีนสองชนิดเช่นกัน ในอาสาสมัครจำนวน 830 ราย เพื่อดูเรื่องผลข้างเคียง ว่าจะมีความแตกต่างกับการฉีดวัคซีนบริษัทเดียวกันอย่างไรบ้าง
    จากการศึกษาพบว่า ผลข้างเคียง เช่น ไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และอาการหนาวสั่น จะพบมากขึ้นในการฉีดวัคซีนสองชนิดที่แตกต่างกันคนละบริษัท โดยมีผลข้างเคียงมากกว่าการฉีดวัคซีนของบริษัทเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญ
    โดยตัวอย่างจะเห็นได้ว่า กรณีเป็นไข้ ฉีดเข็มหนึ่งและเข็มสองด้วยวัคซีนบริษัท AstraZeneca จะมีจำนวน อาสาสมัครมีไข้น้อยที่สุด
    ถ้าฉีดของไฟเซอร์ทั้งสองเข็ม จะมีไข้เพิ่มขึ้นเป็นอันดับสอง แต่ถ้าฉีด AstraZeneca แล้วตามด้วย Pfizer จะมีไข้สูงขึ้นเป็นลำดับสาม ถ้าฉีดด้วย Pfizer ก่อน แล้วตามด้วย AstraZeneca ก็จะมีไข้สูงเพิ่มขึ้นอีก
    ก็ถือว่าเป็นข่าวดี และต้องระมัดระวังด้วยคือ ฉีดวัคซีนสองเข็มคนละบริษัทกันจะมีระดับภูมิคุ้มกันขึ้นเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็จะมีผลข้างเคียงเพิ่มขึ้นด้วย

ฉีดวัคซีนคนบริษัทภูมิคุ้มกันสูง-ผลข้างเคียงมากขึ้น
    แต่เนื่องจากรายงานการศึกษานี้ จำนวนอาสาสมัครยังมีจำนวนน้อย และเป็นผลการรายงานเบื้องต้น คงต้องรอให้การศึกษาวิจัย มีอาสาสมัครจำนวนครบถ้วน และตีพิมพ์ในวารสารที่เชื่อถือได้เสียก่อน คงจะถูกนำมาใช้ในทางปฏิบัติต่อไป
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบครวมข้อมูลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ เกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันโรคโควิด-19 (Covid-19)พบว่า
    1.Pfizer มีประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ที่ 95% เมื่อฉีดครบ 2 เข็ม
    2.Moderna มีประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ที่ 94.1% เมื่อฉีดครบ 2 เข็ม 
    3.AstraZeneca มีประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ที่ 79% เมื่อฉีดครบ 2 เข็ม  
    4.Johnson & Johnson มีประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ที่ 64-72% เมื่อฉีด 1 เข็ม  
    5.Sputnik V มีประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ที่ 92% เมื่อฉีดครบ 2 เข็ม
    6.Sinovac มีประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ที่ 51% (เบา-กลาง-หนัก) ,84% (กลาง-หนัก) เมื่อฉีดครบ 2 เข็ม 
    7.Sinopharm  มีประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ที่ 79-86% เมื่อฉีดครบ 2 เข็ม 
    8.Novavax    มีประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ที่ 89.3% เมื่อฉีดครบ 2 เข็ม 
    อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันอาการหนัก และเสียชีวิตสูงระดับ 100% เท่ากันหมดทุกยี่ห้อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :