กทม.คลอด 4 ข้อกำหนดคุม“โควิด”ระบาดห้ามรวมตัวเกิน 50 คน เซเว่นฯ ปิด 5 ทุ่ม

16 เม.ย. 2564 | 14:32 น.

กทม.รับลูกศบค.คลอด 4 ข้อกำหนดคุม “โควิด-19” ระบาด ห้ามรวมตัวเกิน 50 คน นั่งทานอาหารได้ไม่เกิน 3 ทุ่ม งานเลี้ยงจัดเกิน 50 คน ต้องขออนุญาต ผับ บาร์ อาบอบนวดต้องปิด ร้านสะดวกซื้อเปิดได้ 04.00-23.00 น. 

วันนี้(16 เม.ย.64) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร แถลงผลกประชุมกรรมการ ว่า หลังจากที่ ศบค. ประกาศให้กรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และปฏิบัติมาตรการต่างๆ ไม่น้อยกว่า 14 วันนับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนนี้  คณะกรรมการจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติให้สอดคล้องกัน ดังนี้ 

1.ร้านอาหารเปิดให้นั่งทานอาหารไม่เกิน 21.00 น. งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน  กรณีจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อให้กลับไปบริโภคที่อื่น ทำได้จนถึงเวลา 23.00 น. ส่วนสถานบันเทิงผับ บาร์คาราโอเกะ อาบอบนวดปิดให้บริการ

2.ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าเปิดให้บริการถึง 21.00 น. โดยงดให้บริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุก

3. ร้านสะดวกซื้อเปิดได้เวลา 04.00-23.00 น. 

4.สถานศึกษาทุกระดับและสถาบันกวดวิชางดการเรียนการสอนในห้องเรียน สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ฟิตเนสและยิมเปิดให้บริการถึง 21.00 น.

สำหรับการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มเกิน 50 คน ห้ามดำเนินการ  ส่วนกิจกรรมที่เป็นงานเลี้ยง งานสังสรรค์ ที่มีคนรวมกลุ่มเกิน 50 คน ให้ขออนุญาตสำนักงานเขตพื้นที่  และจะได้เร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้สถานประกอบการ บริษัทสลับวันทำงาน เหลื่อมเวลาทำงานหรือใช้มาตรการ work from home ให้ได้มากที่สุด

 

ขณะที่ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าต่อการจัดสถานที่พยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ว่า กทม.สามารถรับผู้ป่วยโควิดได้ 9,183 คน ทั้งนี้ มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาแล้ว 4,939 คน และสามารถรับได้อีก 4,244 คน ทั้งนี้มีแผนการรับผู้ป่วยออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 

ระดับที่ 1 การเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครให้รองรับผู้ป่วยโควิดให้มากขึ้น ทั้งในโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครและนอกสังกัด

ระดับที่ 2 การเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังอาการ (Hospitel) สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ให้รักษาตัวในโรงแรมที่จัดหาไว้ให้

ระดับที่ 3 จัดทำโรงพยาบาลสนามเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับผู้ป่วย โดยขณะนี้กรุงเทพมหานครได้พร้อมรองรับ ณ โรงพยาบาลเอราวัณ 1 (ศูนย์เฉลิมพระเกียรติฯบางบอน) สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 200เตียง และโรงพยาบาลเอราวัณ 2 (ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนาหนองจอก) สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 350 เตียง
 

นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลกองทัพและโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยที่ยังสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก ในส่วนของความล่าช้าในการรับ-ส่งผู้ป่วย ได้เร่งเพิ่มศักยภาพการทำงานโดยให้ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์บูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักเทศกิจและ 50 สำนักงานเขตจัดรถร่วมให้บริการรับส่งผู้ป่วยที่ตกค้างเพื่อให้ได้รับการรักษาที่รวดเร็วและปลอดภัย
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :