10 เมืองเจ๋งสุด ในแดนมังกร (จบ)

07 มี.ค. 2564 | 05:00 น.

10 เมืองเจ๋งสุด ในแดนมังกร (จบ) : คอลัมน์มังกรกระพือปีก โดย...ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน หน้า 4 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,659 วันที่ 7 - 10 มีนาคม พ.ศ. 2564 

และอันดับ 1 ที่ครองแชมป์เมืองมั่งคั่งของจีนในปี 2020 ก็ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ มีประชากรรวมมากกว่า 25 ล้านคน ซึ่งหากรวมคนที่อยู่ตามแนวตะเข็บและเข้ามาทำงานในเมืองด้วยแล้ว เซี่ยงไฮ้ก็มีผู้คนกว่า 30 ล้านคนใช้ชีวิตอยู่ในช่วงกลางวัน

มหานครแห่งนี้มีจีดีพี 602,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ใหญ่กว่าจีดีพีของ 80 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กสุดของโลกรวมกัน และคาดว่าจะสามารถรักษาตำแหน่งแชมป์ได้อีกนาน

เซี่ยงไฮ้ยังได้กำหนดวิสัยทัศน์ที่จะเป็นศูนย์กลางในด้านการเงิน ลอจิสติกส์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนวัตกรรม 

นับแต่ปี 2010 เซี่ยงไฮ้ได้ถูกยกระดับจากห้องรับแขกใหญ่เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างประเทศในยุคแรกให้เป็นหัวมังกรของต้นแบบการพัฒนากลุ่มเมืองคุณภาพสูง และการปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงลึกผ่านระเบียงเศรษฐกิจพื้นที่ปากแม่น้ำแยงซีเกียง (Yangtze River Delta)


พื้นที่บริเวณอกไก่นี้ถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใหญ่ที่สำคัญที่สุดของจีน 

การพัฒนาอุตสาหกรรมหลักและสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ ส่งผลให้เซี่ยงไฮ้เป็นแหล่งรวมคลัสเตอร์อุตสาหกรรมชั้นนำของจีน อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ ยา วัสดุใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ และตู้จำหน่ายสินค้าระบบดิจิตัล รวมทั้งอีคอมเมิร์ซ ลอจิสติกส์ ระบบการจดจำใบหน้า และปัญญาประดิษฐ์ 

เซี่ยงไฮ้มักถูกเลือกใช้เป็นพื้นที่นำร่องในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจยุคใหม่ เช่น เขตเสรีทางการค้า (Free Trade Zone) ที่จัดตั้งขึ้นเป็นแห่งแรกในจีนเมื่อเดือนกันยายน 2013 ก่อนทยอยขยายโครงการไปยังแหล่งอื่น และการเปิดตลาด STAR ตลาดทุนใหม่สำหรับธุรกิจนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปีที่ผ่านมา เพื่อเสริมเข้ากับตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ที่เปิดมาก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ในความพยายามที่จะพัฒนาเป็นเมืองต้นแบบของโลก เซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองหลวงของธุรกิจเศรษฐกิจแบ่งปัน (Shared Economy) ที่ทันสมัย และนำร่องระบบการแยกขยะนับแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2019 รวมทั้งยังเป็นต้นแบบเมืองอัจฉริยะของจีน

 

แม้กระทั่งในปี 2020 ที่จีนประสบวิกฤติโควิด-19 เซี่ยงไฮ้ก็ยังเป็นหนึ่งในเมืองนำร่องในการเริ่มใช้นวัตกรรมของจีนมากมาย อาทิ เงินหยวนดิจิตัล และรถยนต์ไร้คนขับ รวมทั้งจุดทดสอบระบบ 6G ในอนาคตอันใกล้ โดยมุ่งเป้าที่จะพัฒนาเป็นฐานการผลิตสินค้านวัตกรรมและบริการสมัยใหม่ชั้นนำของโลกภายในปี 2030 

เซี่ยงไฮ้ยังเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง และงานมหกรรมโลก (World Expo) รวมทั้งงานแสดงสินค้านำเข้าชั้นนำมากมาย อาทิ China International Import Expo ที่สี จิ้นผิง ผู้นำของจีนเป็นประธานการเปิดงานมาอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ มหานครแห่งนี้ยังผสมผสานเอาวัฒนธรรมตะวันออกที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและกลิ่นอายความเป็นตะวันตกยุคใหม่เข้าไว้ด้วยกันจนสุดบรรยาย สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นปารีสตะวันออกอย่างแท้จริง

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเซี่ยงไฮ้มีมากมาย ในด้านศิลปะวัฒนธรรม ก็มี 3 วัดสำคัญ ได้แก่ วัดพระหยกขาว วัดจิ้งอัน และวัดหลงหวา พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ และสำนักวางแผนผังเมือง แต่ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ได้แก่ สวนอวี้หยวน

เดอะบันด์ ที่คนจีนเรียกว่า ไว่ทัน หรือ ที่คนไทยนิยมเรียกขานว่า หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ บริเวณนี้เคยเป็นแหล่งขึ้นลงสินค้าในอดีต แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ 2 ระดับ ด้านบนเป็นจุดชมวิวหมู่อาคารสูงในย่านผู่ตงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ ส่วนด้านล่างเป็นที่นั่งเล่น สวนดอกไม้ และมีรูปปั้นบุคคลสำคัญ เช่น นายพลเฉิน อี้ นายกเทศมนตรีเซี่ยงไฮ้คนแรก

ปัจจุบันอาคารย่านนี้สูงประมาณ 5-10 ชั้นในสถาปัตยกรรมแบบยุโรปตะวันตก และถูกใช้เป็นสถานที่ตั้งของหน่วยงานราชการจีน อาทิ กรมศุลกากร ตลาดซื้อขายทองคำ และสถานกงสุล รวมทั้งสำนักงานและโชว์รูมของกิจการต่างชาติ ที่น่าปลื้มใจก็คือ ธนาคารกรุงเทพประจำประเทศจีนที่มีธงไทยโบกไสวคู่กับธงชาติจีนอยู่ในย่านนั้นด้วย พอมองถัดไปก็จะเห็น Peace Hotel โรงแรมสไตล์ตะวันตกแห่งแรกของจีน ซึ่งท่านสามารถเดินต่อยาวไปถึงปลายสุดของ “หนานจิงลู่” ถนนคนเดินที่โด่งดังของเซี่ยงไฮ้

ซินเทียนตี้ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่มีระดับนิยมไปเดินเล่น ช็อปปิ้ง และใช้เวลาในช่วงเย็นและค่ำ เพราะมีร้านอาหาร บาร์ โรงหนัง และร้านจำหน่ายสินค้าชื่อดังทั้งของจีนและต่างชาติเป็นจำนวนมาก รวมทั้งห้องประชุมพรรคคอมมิวนิสต์แห่งแรก ซึ่งถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์สำคัญของจีนยุคใหม่

ถ้าท่านชอบอาคารสูง ผมก็แนะนำให้ไปย่านผู่ตง หรือที่เรียกว่า “ลู่เจียจุ่ย” ที่จีนต้องการพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ พื่นที่แถบนี้เต็มไปด้วยอาคารสูงที่ออกแบบในสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ อาทิ หอคอยไข่มุก จินเม่าทาวเวอร์ เวิร์ลไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์ และเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ อาคารที่สูงสุดของจีนและเป็นอันดับที่ 2 ของโลกในปัจจุบัน

บริเวณใกล้กับหอคอยไข่มุกก็มีโชว์รูมจำหน่ายสินค้าของดีสนีย์แลนด์ และซุปเปอร์แบรนด์มอลล์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำของกลุ่มธุรกิจเครือซีพีที่มีพระพรหมสี่หน้าและธงชาติไทยพริ้วไสวอยู่เช่นกัน  

เซี่ยงไฮ้มีโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในระดับมาตรฐานโลกที่พร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นโครงข่ายถนน รถไฟใต้ดิน และรถไฟความเร็วสูง ตลอดจนท่าเรือ สะพาน และอุโมงค์เชื่อมพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียงและสายแม่น้ำอื่น รวมถึงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมสู่ระดับ 5G ซึ่งสอดรับกับวิสัยทัศน์ของเมืองที่ต้องการเป็นเมืองต้นแบบของโลกในระยะยาว 

นอกจากนี้ เซี่ยงไฮ้ก็ลงทุนก่อสร้างท่าเรือหยางซาน ท่าเรือกลางทะเลที่พัฒนาจนกลายเป็นท่าเรือที่ใหญ่สุดในโลก สนามบินนานาชาติผู่ตงที่เปิดอาคารเชื่อมต่อที่ใหญ่สุดในโลก และศูนย์ลอจิสติกส์ครบวงจรหงเฉียวที่ผนวก 6 รูปแบบการขนส่งเข้าไว้ด้วยกันในแห่งเดียวอย่างเป็นระบบ เพื่อสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางลอจิสติกส์ภูมิภาค 

นอกจากนี้ จากการจัดอันดับเมืองวัฒนธรรมโลกครั้งล่าสุด มหานครแห่งนี้ยังโดดเด่นในเรื่องจำนวนร้านกาแฟและร้านชา และติดอันดับที่ 2 ในหมวดจำนวนร้านอาหาร และการพัฒนาด้านอินเตอร์เน็ตและจุดกระจายสัญญาณ 4G/5G รวมทั้งทำคะแนนได้ดีในหมวดความยืนยาวของอายุที่คนเซี่ยงไฮ้มีอายุเฉลี่ยถึง 83.66 ปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ก้าวไปติดอันดับ 8 ของเมืองวัฒนธรรมโลกในปี 2020

10 เมืองเจ๋งสุด  ในแดนมังกร (จบ)

ด้วยมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีและทันสมัย เซี่ยงไฮ้กลายเป็นเมืองในฝันของคนทำงานและนักท่องเที่ยว โดยแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปเยือนหลายสิบล้านคน-ครั้ง คนไทยจำนวนมากที่เคยเดินทางไปเยือนแล้วก็มักติดใจกลับไปเยี่ยมเยียนอีกหลายครั้ง ส่วนใครที่ยังไม่เคยไปก็ห้ามพลาดนะครับ

จีนเต็มไปด้วยเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่และเติบโตเร็ว จะยกระดับเป็นเมืองอัจฉริยะในอนาคต หมดโควิดเมื่อไหร่ก็ขอเชิญชวนให้ท่านผู้อ่านไปร่วมค้นหากันนะครับ ...

 

เกี่ยวกับผู้เขียน : ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ผู้เชี่ยวชาญที่สั่งสมความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดจีน มุ่งหวังนำข้อมูลและมุมมอง ความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การตลาดและอื่น ๆ  ที่อยู่ในกระแสของจีนมาแลกเปลี่ยนกับผู้อ่าน เพื่อเราจะไม่ตกขบวน “รถไฟความเร็วสูง” ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :