การหาจุดสมดุลระหว่างการควบคุมโรคโควิด -19 ให้เบ็ดเสร็จและอยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่แพร่กระจายในวงกว้างกระทบกับชีวิตประชาชนจำนวนมากกับการประคับประคองเศรษฐกิจที่เพิ่งผงกหัว จากผลกระทบการระบาดรอบแรก เป็นเรื่องที่หนักใจที่สุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเลือกตัดสินใจ
การหารือถกเถียงในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ความเห็นก็ยังคงเป็น 2 ฝักฝ่ายอย่างเด่นชัด
ฝ่ายสาธารณสุข หมอ บรรดาคุณหมออาวุโสทั้งหลาย เสนอให้ “ล็อกดาวน์” ทันที เพื่อสกัดยับยั้งไม่ให้กระจายตัวออกไป ด้วยการประเมินความรุนแรงของโรคที่จะถึงขั้นเอาไม่อยู่ หากยังคงทำแบบปิดๆ เปิดๆ ล็อกเป็นโซนๆ และท่าทียืนอยู่ตรงนี้
ข้างฝ่ายผู้รับผิดชอบในการดูแลเศรษฐกิจ รวมทั้งความเห็นจากภาคเอกชนบางส่วน บอก “ล็อกดาวน์” หยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเที่ยวนี้ จะหาทางฟื้นไม่เจอ และส่งผลกระเทือนการทำมาหากิน การประกอบอาชีพและคนจำนวนมากที่ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ท่าทียืนชัดเจนในฝั่งไม่ล็อก
ข้างฝ่ายความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย ที่ส่วนใหญ่มีบุคลากรจำนวนมากที่ต้องปะหน้างานในฐานะผู้ปฏิบัติงานทั้งกลไกควบคุม กำกับ บังคับใช้ พร้อมรับปฏิบัติ “ยังไงก็ได้ให้ว่ามา”
พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำสูงสุดต้องตัดสินใจ ออกซ้ายก็เจ็บ ออกขวาก็จบ จึงกลายเป็นรีๆ รอๆ ทำไปแบบเข้มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสุ่มเสี่ยงไม่ทันต่อเวลาและอาการ ทั้งทางการควบคุมโรคและทางเศรษฐกิจ
“พูดง่ายๆ อาจเสี่ยงที่จะล้มเหลวทั้ง 2 ด้าน จึงไม่ฟันธง”
ผลที่ออกมา จึงเป็นศูนย์ปฏิบัติการมหาดไทย สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินมาตรการเข้มตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด จัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจในเส้นทางคมนาคมที่เป็นเส้นทางหลักในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด และบูรณาการทุกภาคส่วน จัดตั้งจุดตรวจคัดกรองในเส้นทางรองตามความจำเป็นและเหมาะสม พร้อมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนงด หรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็น ต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และเข้ารับการตรวจคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค
การตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด ออกนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จังหวัด (จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง และสมุทรสาคร) เน้นการตรวจคัดกรอง
- ตรวจวัดอุณหภูมิและสังเกตอาการผู้เดินทาง
- สอบถามเหตุผลความจำเป็นและสถานที่ปลายทางจากผู้เดินทางให้ชัดเจน
- ตรวจสอบการติดตั้งและใช้ระบบแอพพลิเคชัน “หมอชนะ”
- ตรวจสอบเอกสารการรับรองความจำเป็น การปฏิบัติหน้าที่ การติดต่อราชการ
- บันทึกข้อมูลผู้เดินทาง
กรณีเดินทางออกนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุด 23 จังหวัด เน้นการตรวจคัดกรองใน 4 ประเด็น
- ตรวจวัดอุณหภูมิและสังเกตอาการผู้เดินทาง
- สอบถามเหตุผลความจำเป็นและสถานที่ปลายทางจากผู้เดินทางให้ชัดเจน
- ตรวจสอบการติดตั้งและใช้ระบบแอพพลิเคชัน “หมอชนะ” ของผู้เดินทาง
- บันทึกข้อมูลผู้เดินทาง
กรณีเดินทางออกนอกพื้นที่ควบคุมและเฝ้าระวังสูง 49 จังหวัด
- ตรวจวัดอุณหภูมิและสังเกตอาการผู้เดินทาง
- สอบถามเหตุผลความจำเป็น
แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ในการดูแลประชาชนในการเดินทาง แต่ความเข้มใน 5 จังหวัด ก่อให้เกิดความอลหม่านขึ้นหน้างาน ดังภาพที่เห็นเมื่อมีการเข้าคิวต่อแถวขอใบอนุญาตยาวเหยียด
ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยว ข้องทุกระดับให้ปฏิบัติงานด้วยความถูกต้อง โปร่งใส
ดูเหมือนมาตรการที่ออกมายังมีเพียงแค่นี้ เป็นมาตรการในแบบห่วงหน้าพะวงหลัง
แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นแล้วเมื่อประกอบเข้ากับการล็อกดาวน์ตัวเองของประชาชน
ไหนๆ ก็เจ็บแล้ว ไม่ทำเสียทีเดียว ให้มันเจ็บแต่จบไม่ดีกว่าหรือ...