เมื่อมังกร ออกเที่ยวช่วยชาติ (จบ)

08 พ.ย. 2563 | 11:10 น.

เมื่อมังกร ออกเที่ยวช่วยชาติ (จบ) : ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน หน้า 4 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3622 วันที่ 29-31 ตุลาคม 2563

 

หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์สุดฮิตในช่วงหยุดยาววันชาติก็คือ กรุงปักกิ่ง (Beijing) เมืองหลวงของจีน โดยในปีนี้ กรุงปักกิ่งมีนักท่องเที่ยวไปเยือนเป็นจำนวนมาก คิดเป็น 99.7% และสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 63% เมื่อเทียบกับของปีก่อน

 

ปักกิ่งอุดมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ระดับ 5A อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) บริเวณใจกลางกรุงปักกิ่ง พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) ที่มีพระราชวังและวิวทิวทัศน์ของผืนน้ำและเทือกเขาที่งดงาม กำแพงเมืองจีนที่มีด่านน้อยใหญ่หลายจุดทางตอนเหนือของปักกิ่ง และอื่นๆ 

 

นอกจากไปชมความยิ่งใหญ่ของพระราชวังต้องห้ามแล้ว ท่านก็ยังสามารถเดินต่อไปเยี่ยมเยือนและเก็บภาพที่จตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ มหาศาลาประชาคมที่ใช้เป็นสถานที่ประชุมและต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองสำคัญ และอื่นๆ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนเท่านั้นได้อีกด้วย 

 

ในช่วงหยุดยาววันชาติเช่นนี้ พ่อแม่ชาวจีนจึงนิยมพาลูกหลานไปร่วมชมพิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาในบริเวณดังกล่าว แน่นอนว่า ฝูงชนนับแสนต่างทยอยเดินเข้าสู่จตุรัสเทียนอันเหมือนตั้งแต่รุ่งสาง ซึ่งถ้ามองจากมุมสูงก็จะเห็นแต่หัวคนยาวไปสุดลูกหูลูกตากันทีเดียว

 

เมื่อถึงกำหนดเวลา 7 โมงเช้า ผู้คนซึ่งต่างยืนนิ่งหันไปในทิศทางเดียวกันโดยมีลานหน้าเสาธงเป็นศูนย์กลาง และมีด้านประตูหน้าของพระราชวังต้องห้ามที่มีรูปภาพวาดของประธานเหมา เจ๋อตงประดับไว้เป็นพื้นหลัง ขบวนทหาร 3 เหล่าทัพ “บก-เรือ-อากาศ” นับร้อยนายก็จะเดินตบเท้าสวนสนามอัญเชิญธงชาติจีนจากประตูหน้าของพระราชวังต้องห้ามสู่ลานหน้าเสาธง โดยบางจังหวะก็เป็นการเดินสวนสนามแบบย่างเท้าที่ช้าราวกับภาพสโลโมชั่นบ้าง

 

ทันทีที่วงดุริยางค์เริ่มต้นบรรเลงเพลงชาติจีน ธงชาติจีนผืนใหญ่ก็ถูกสะบัดออกสู่ท้องฟ้าไปพร้อมกัน เราอาจสังเกตเห็นพี่น้องชาวจีนยืนร้องเพลงชาติคลอไปเบาๆ ด้วย แต่ทันทีที่การบรรเลงเพลงชาติจบลงและธงชาติจีนขึ้นสู่ยอดเสาเป็นที่เรียบร้อย ผู้คนที่มีธงชาติจีนอยู่ในมือต่างก็ปรบมือและโบกสะบัดธงขึ้นเหนือหัวท่ามกลางเสียงไชโยโฮ่ร้องด้วยความดีใจ และภาพในปีนี้พิเศษหน่อยที่เราจะสังเกตุเห็นชาวจีนจำนวนมากสวมหน้ากากอนามัยกันมาร่วมชมพิธีด้วย

 

รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับพิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา โดยใส่ใจในรายละเอียดเพื่อให้กิจกรรมดูขลังจนกลายเป็นแม่เหล็กด้านการท่องเที่ยว นอกจากนี้ บรรยากาศเช่นนั้นยังนับว่าเป็นการปลุกขวัญกำลังใจที่ดียิ่งให้แก่คนจีน และปลูกฝังความรักชาติให้กับเด็กรุ่นใหม่ของจีนด้วยในเวลาเดียวกัน

 

เมื่อมังกร ออกเที่ยวช่วยชาติ (จบ)  

อ่านประกอบ: เมื่อมังกรออกเที่ยวช่วยชาติ (1)

 

เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ก็เป็นอีกเมืองที่มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของทุกปี อาจด้วยความกลมกลืนระหว่างความทันสมัยและความสะดวกสบาย ทำให้ครอบครัวชาวจีนอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต

 

ภายในเมืองแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่ตื่นตาตื่นใจ อาทิ ถนนหนานจิง (Nanjing Road) ถนนคนเดินที่ได้รับการปรับโฉมและขยายเส้นทางเดินจนไปเชื่อมกับหาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (Waitan) หรือ เดอะบันด์ (The Bund) ที่สามารถชมวิวสถาปัตยกรรมอาคารริมสองฝั่งแม่น้ำหวงผู่ (Huangpu River) ที่แตกต่างกันสุดขั้วได้ เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ (Shanghai Tower) อาคารที่สูงสุดของจีน และซินเทียนตี้ (Xin Tian Di) แหล่งสันทนาการระดับพรีเมี่ยมที่มีสถานที่ประชุมแห่งแรกของพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือแม้กระทั่งร้านกาแฟสตาร์บักส์ที่ใหญ่สุดในจีน

 

ข้อมูลจากชู่หนาร์ (Qunar) ระบุว่า ยอดการจองโรงแรมในช่วงดังกล่าวเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวจากช่วงเวลาปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้าหลี่ (Dali) และลี่เจียง (Lijiang) ในยูนนาน (Yunnan) 

 

นอกจากนี้ ซานญ่า (Sanya) เมืองท่องเที่ยวชายทะเลของมณฑลไห่หนาน (Hainan) ก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก นอกจากการไปเล่นน้ำทะเลแล้ว นักท่องเที่ยวจีนก็อาจถือโอกาสซื้อสินค้าปลอดอากร (Duty Free) ตามนโยบายเขตเสรีทางการค้า (Free Trade Zone) ของจีนที่ขยายไปครอบคลุมถึงไห่หนานกันได้อีกด้วย

ทั้งนี้ หากเทียบกับช่วง 5 วันของการหยุดยาววันแรงงานเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาซึ่งมีมูลค่าราว 55,000 ล้านหยวนก็พบว่า การจับจ่ายในช่วง 5 วันแรกของการหยุดยาววันชาติในปีนี้มีมูลค่ามากกว่าถึง 7 เท่าตัว ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของภาคการบริโภคภายในประเทศของจีนที่สถิติรายเดือนเพิ่งเริ่มกลับมาเป็นบวกครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ดี หากเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของการหยุดยาววันชาติปี 2019 ซึ่งจีนฉลอง 70 ปีของก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างยิ่งใหญ่ ก็พบว่า การจับจ่ายใช้สอยในปีนี้ต่ำกว่าของปีก่อนที่มีมูลค่าถึง 550,000 ล้านหยวนอยู่มากเช่นกัน

 

ข้อมูลดังกล่าวยังสอดคล้องกับสถานการณ์การช้อปปิ้งผ่านร้านปลอดอากรของไฮ่หนาน “สวรรค์ของนักท่องเที่ยวภายในประเทศของจีน” ในปีนี้ที่มีมูลค่าลดลงไปเกือบ 1 ใน 3 ของปีที่ผ่านมา 

 

ผู้เชี่ยวชาญให้ข้อคิดเห็นว่า รัฐบาลจีนมีการบ้านข้อใหญ่หากต้องการให้ภาคการบริโภคภายในประเทศในปีนี้ รักษาระดับเดิมของปีก่อนที่มีมูลค่ารวมถึง 41 ล้านล้านหยวนเอาไว้ได้ เพราะนั่นหมายถึงการจับจ่ายใช้สอยในไตรมาสสุดท้ายที่มีมูลค่าถึง 17 ล้านล้านหยวน หรือกว่า 40% ของมูลค่าการค้าปลีกโดยรวม 

 

ตัวเลขดังกล่าวอาจดูจะไกลเกินเอื้อม แต่รัฐบาลจีนก็ยังมีทางเลือกในการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจอื่นควบคู่ไปกับการกระตุ้นภาคการบริโภคชุดใหญ่ระลอกใหม่

 

โดยสรุป การท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยในช่วงสัปดาห์ทองที่ผ่านมาไม่เพียงแต่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจจีนเติบใหญ่ตามแนวทางเศรษฐกิจแบบ “วงจรคู่” (Dual Circulation) เท่านั้น แต่ยังนับว่าเป็นเครื่องยืนยันว่าเศรษฐกิจจีนได้ฟื้นตัวกลับสู่สภาวะที่มีเสถียรภาพแล้ว

 

หากจีนยังคงรักษาโมเมนตัมของการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ให้อยู่ในอัตรา 6% ก็จะทำให้เศรษฐกิจจีนสามารถขยายตัวในอัตรา 2.5% เมื่อเทียบกับของปีก่อนได้...

 

เกี่ยวกับผู้เขียน :  ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ผู้เชี่ยวชาญที่สั่งสมความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดจีน มุ่งหวังนำข้อมูลและมุมมอง ความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การตลาดและอื่น ๆ  ที่อยู่ในกระแสของจีนมาแลกเปลี่ยนกับผู้อ่าน เพื่อเราจะไม่ตกขบวน “รถไฟความเร็วสูง” ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน