ถุงมือพลิกโลก ของ โอ.เจ.ซิมป์สัน (ตอน-2)

25 ก.ค. 2563 | 04:55 น.

-ต่อจากตอน 1 อ่านข่าวประกอบ ถุงมือพลิกโลก ของ โอ.เจ.ซิมป์สัน (ตอน-1)

จอนนี่ ค็อกแรน ใส่เลสข้อมือ และคัฟลิงค์

หนึ่งในนั้น มีจอนนี่ ค็อกแรน ทนายผิวสีฝีปากกล้า ผู้พร้อมจะหักหาญทุกวิถีทางเพื่อได้ชัยชนะและยังมีทีมสนับสนุน
ทีมค้นวิเคราะห์อีกพะเรอเกวียน

เรื่องมันสนุกตรงที่ว่า คดีนี้มันไปต่อให้ชนะไม่ได้หรอกตรงข้อกฎหมาย เพราะหลักฐานพยานมันมัดจำเลยแน่นหนา ทีมทนายผู้ไร้ความหวังความฝันทั่วไปคงต้องใช้แค่วิธีผ่อนหนักเปนเบา เข้ากระบวนการ plea bargain หรือ ไม่ก็ให้ลูกความสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง แต่ไม่ใช่สำหรับทีมทนายสายเหยี่ยวชุดนี้ ที่ โอ. เจ. ยินดีจ่ายค่าบริการสูงถึง 150 ล้านบาท

จากการเฝ้าวิเคราะห์ติดตามคนในเกมส์ มันก็มาแจ็คพอต ตรงที่ว่า ลูกทีมของค็อกแรนค้นเจอว่า มาร์ค เฟอร์แมน ตำรวจผิวขาวผู้มุทะลุของเรานี้มีพฤติกรรม “เหยียด” มาก่อน เช่น เคยเรียกคนผิวสีว่า นิกเกอร์ เวลาเขาจับกุม ผู้ต้องหาในคดีต่างๆ จับจุดได้ดังนี้ จอนนี่ก็ลงมือนวดเหยื่อผิวขาวเสียให้น่วม เริ่มที่ล่อให้ ตร. นี้ ปฏิเสธว่าไม่เคยเหยียดไม่เคยเรียกใช้วาจาหมิ่นหยามคนดำ แล้วค่อยนำหลักฐานทั้งเทปและพยานมาแสดงต่อศาล ทำลายเครดิตคนขาวเสีย

 ตำรวจผิวขาว มาร์ค เฟอร์แมน

จุดไฟติดแล้ว ค่อยเติมเชื้อให้ไฟค่อยลามเลียไปเรื่องการบุกเข้าบ้าน โอ. เจ. คนดำโดยไม่มีหมายค้น โหมไฟโดยแซะให้เห็นว่าทำไปด้วยมีใจรังเกียจคนดำเปนทุนเดิม เพราะทีคดีอื่นๆที่เปนคนขาวก็เห็นไปขอศาลออกหมายทุกรายไป

อันนี้ความซวยก็ค่อยๆคืบคลานไหม้ผลาญเข้าใส่ แม้ ตร.จะไม่ผิด เพราะมีเหตุเฉพาะหน้าติดพันอันเชื่อถือได้ ที่กฎหมายเว้นให้บุกได้ไม่ต้องรอหมาย ก็ไม่มีผลในสายตาลูกขุนเสียเเล้ว เพราะจอนนี่เจตนาดึงให้อำนาจการใช้ดุลยพินิจ บุกหรือไม่บุกเปนเรื่องของความเหยียดผิวและแล้วก็มาถึงจุดสำคัญ

ถุงมือเปื้อนเลือดคู่นั้น ทั้งทนายโจทก์ ทนายจำเลย ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าควรนำวัตถุพยานถุงมือในที่เกิดเหตุมาให้จำเลยสวมใส่ให้ดู โดยทนายจำเลย จอนนี่ ค็อกแรน ทำทีแถลงกระแนะกระแหน แถ_ลงต่อคณะลูกขุนว่า ถ้าจำเลยใส่ไม่ได้ล่ะก็ โจทก์ผู้เหยียดผิวต้องปล่อยจำเลยพ้นข้อกล่าวหา ด้วยอมตะวาจาวลีไพเราะคล้องจอง ราวกับเทน้ำมันราดรดกองไฟ

 ค็อกแรน กำลังคุมเกมส์ในศาล

ยักแย่ยักยันยัดมือเข้าถุง

วินาทีนั้นโอ. เจ. ซิมป์สัน ใช้ทักษะการรับลูกจากตัวจ่ายในสนามเข้าทำประตู แสดงการเถลือกไถลใส่สอดเยียดยัดฝ่ามือเข้าในถุงด้วยท่าทียากลำบากเเสนเข็ญ เปนเวลานานกว่าจะยักแย่ยักยันใส่มือเข้าถุงได้สำเร็จ

เท่านั้นเองคณะลูกขุนอเมริกาซึ่งมีที่มา ‘ยึดโยง’ กับประชาชน และให้บังเอิญว่าในคดีนี้ประกอบด้วยชนผิวสี 8 คน จาก ทั้งหมด 12 ก็ลงมติให้ จำเลย โอ.เจ. ซิมป์สัน ไม่ผิด-not guilty! เพราะว่าถุงมือคู่นั้นมันคับเกินไป๊!! โจรที่ไหนจะใส่ถุงมือผิดขนาดมาฆ่าคน นี่ต้องเปนฝีมือยัดข้อหาของพวกเหยียดผิวแน่ๆ-วรรคนี้เดาใจลูกขุนในเวลานั้น

ผู้พิพากษาในคดี

ผู้พิพากษาในคดีนี้ _แลนซ์ อิโตะ เปนอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น แถลงลาออกจากอาชีพผู้พิพากษาในเวลาต่อมา นัยยะว่าอดสูใจ อาจจะด้วยว่า ในระบบบ้านเขานั้นคณะลูกขุนมีหน้าที่ลงมติว่าจำเลยผิดหรือไม่ก่อน แล้วผู้พิพากษาค่อยปรับบทลงโทษตามกฎหมาย แกคงอึดอัดใจที่ความผิดจะจะ กลับจะต้องมาพลิกผันด้วยการใช้ทัศนะความเหยียดเปนเครื่องมือบิดยุติธรรม

บรรทัดนี้ ขอสดุดี จอนนี่ ค็อกแรนยอดทนายหัวเห็ดผู้ประสบความสำเร็จจากการหยิบเหตุ ‘เหยียดเดียจฉันท์’ มาพลิกเกมส์หาประโยชน์ใส่ตัวได้อย่างถูกที่พอดีเหมาะแท้ๆ

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,591 วันที่ 12 - 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2563