ยุโรป เริ่มเปิดบ้านไร้วี่แววต้อนรับ "ชาวหมีขาว"

12 ก.ค. 2563 | 00:17 น.

คอลัมน์หลังกล้องไซบีเรีย : เรื่อง: ยลรดี ธุววงศ์, ภาพ: Mos.ru

 

          ตั้งแต่เข้าเดือนกรกฎาคม หลายประเทศเริ่มตัดสินใจกลับมาเปิดประตูบ้านอีกครั้ง บ้างก็เริ่มออกมาตรการ “ทราเวล บับเบิล” (Travel Bubble) จับคู่ประเทศกับพันธมิตรให้เดินทางได้โดยไม่ต้องกักตัว แม้สถานการณ์โควิดทั่วโลกยังคงไม่คลี่คลาย กระบวนการผลิตวัคซีนป้องกันยังไม่เสร็จสิ้นแม้หลายหน่วยงานทั่วโลกจะร่วมมือกันอย่างเต็มที่

          วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ชาวยุโรปเริ่มเดินทางไปมาหาสู่กันได้ระหว่างประเทศสมาชิกเชงเก้นวีซ่า รวมถึงอังกฤษที่เพิ่งแยกตัวออกจากกลุ่มด้วย ถึงแม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะยังไม่เป็นศูนย์ แต่หลายฝ่ายเริ่มเห็นตรงกันว่าสังคมคงรอให้การแพร่ระบาดจบบริบูรณ์ 100% ไม่ได้ ควรเริ่มเดินหน้ากลับเข้าสู่สภาวะแบบเดิม หลังจากที่แช่แข็งมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

          นอกจากพลเมืองภายในกลุ่มแล้ว อียูยังเปิดให้รับพลเมืองจากประเทศที่ได้รับการพิจารณาว่าคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสภายในประเทศได้ดี มีความเสี่ยงต่ำให้เริ่มเดินทางเข้ากลับเข้าไปในอียูได้บ้างแล้ว ซึ่งไทยเราก็มีชื่อติดอยู่ในลิสต์ดังกล่าวกับเขาด้วย แต่สำหรับรัสเซียผู้บ้านใกล้เรือนเคียงนั้นเห็นทีอาจจะยังต้องรอต่อคิวไปอีกนาน

          กราฟจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรัสเซียขณะนี้เริ่มอยู่ในช่วงขาลง จากเดิมที่เคยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มวันละหมื่นในช่วงพีค ปัจจุบันตัวเลขลดลงมาเกือบครึ่ง ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่พอ โอกาสที่จะขอเข้าไปอยู่ในลิสต์ประเทศที่อียูอนุญาตให้เข้าออกเมืองได้ยังคงห่างไกลเช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาและบราซิล เนื่องจากการแพร่ระบาดในรัสเซียยังถือว่ายังอยู่ในขั้นรุนแรง จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก และมียอดรวมสะสมทะลุ 7 แสนคน แม้ว่ายอดผู้เสียชีวิตสะสมจะไม่สูงมากนัก แม้แต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินยังเอ่ยปากยอมรับว่ายังไม่เห็นอนาคตว่าอียูจะยอมเปิดบ้านรับนักท่องเที่ยวรัสเซียอีกครั้งเมื่อไหร่ ต้องรอลุ้นไปเรื่อยๆ ทุก 2 สัปดาห์ซึ่งเป็นระยะเวลาที่อียูจะคอยอัพเดทลิสต์ดังกล่าว

          คนในยังไม่ได้ออก คนนอกก็ถูกห้ามเข้า Rosaviatsia หน่วยงานด้านการบินของรัสเซียออกมาประกาศยืดระยะเวลาการยกเลิกไฟล์ทบินระหว่างประเทศต่อไปอีกถึงวันที่ 1 สิงหาคม รวมแล้วรัสเซียปิดน่านฟ้าไปมากกว่า 4 เดือนนับแต่ปลายมีนาคม ถึงจะปิดน่านฟ้าอย่างแน่นหนา แต่ในช่องพรมแดนทางบกของรัสเซียบางจุดก็เริ่มเปิดให้คนเดินทางเข้าออกประเทศได้บ้างแล้ว

          ขณะเดียวกัน รัฐบาลรัสเซียก็เริ่มเตรียมลิสต์ 13 ประเทศที่รัสเซียจะอนุญาตให้ทำการบินระหว่างประเทศได้เป็นกลุ่มแรกหลังจากเปิดน่านฟ้า ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฮังการี เยอรมนี เดนมาร์ก อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ ฟินแลนด์ เวียดนาม จีน มองโกเลีย และศรีลังกา น่าสนใจว่าลิสต์ดังกล่าวนี้แทบจะสวนทางกับลิสต์ประเทศกลุ่มแรกของอียู และยังรวมประเทศที่เคยเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดเช่นจีนและอิตาลีด้วย แต่ไม่น่าแปลกใจที่เวียดนามจะเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ติดโผกับเขาด้วย เนื่องจากเวียดนามเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับรัสเซียมาช้านาน

          สถานการณ์ที่ส่อแนวบวกขึ้นทุกวัน ทำให้มอสโกซึ่งเป็นจุดพีคที่สุดของการระบาดในรัสเซียเริ่มผ่อนผันมาตรการบางส่วน เลิกบังคับให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยออกจากบ้านได้แล้ว แต่หากไปห้าง ขึ้นรถ ไปโรงพยาบาลหรือสถานที่สาธารณะอื่นๆ ยังคงต้องใส่อยู่เพื่อลดอัตราเสี่ยง แต่ถ้าจะให้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนที่เคยเป็นก่อนที่จะมีเรื่องโควิด-19 นั้น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของรัสเซียค่าว่ายังคงเป็นไปไม่ได้อีกนาน อย่างเร็วที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

          ผ่านมาครึ่งปี โลกเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ถึงจะเปิดประเทศกันแล้ว แต่ทุกอย่างก็ยังคงแขวนอยู่กับการควบคุมการแพร่ระบาดของแต่ละประเทศอยู่เช่นเคย ส่วนธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่บาดเจ็บหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหนหลังจากนี้ คงต้องขึ้นอยู่กับความสะดวกใจของผู้คนว่าพร้อมหรือยังที่จะกลับมาเดินทางอีกครั้งเช่นก่อน และขึ้นอยู่กับความมั่นใจในมาตรการรับมือโควิด-19 ของประเทศนั้นๆ ด้วย


** พบกับ คอลัมน์ “หลังกล้องไซบีเรีย” ทุกวันอาทิตย์ ทุกช่องทางออนไลน์ของ “ฐานเศรษฐกิจ" **
Bio นักเขียน : “ยลรดี ธุววงศ์” อดีตนักข่าวที่ผ่านสนามข่าวทั้งในและต่างประเทศ จากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ และ Spring News ปัจจุบันเป็นนิสิตปริญญาโทอยู่ในส่วนที่หนาวเย็นที่สุดของประเทศรัสเซีย