เศรษฐกิจโลก 2020 : ฟื้นหรือไม่?

02 ม.ค. 2563 | 10:02 น.

เศรษฐกิจโลก 2020 : ฟื้นหรือไม่?

หลังจากสหรัฐฯ กับจีนเห็นชอบข้อตกลงทางการค้า “First Phase Trade Deal” เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 แล้วนั้น หลายประเทศเหมือนจะเห็น “แสงสว่างปลายอุโมงค์” ที่เศรษฐกิจโลกและการค้าโลกในปี 2020 (พ.ศ.2563)คงดีกว่าปีที่แล้วแน่ ๆ แต่ตลอดทั้งปี 2020 อาจจะไม่เป็นดั่งที่เราๆ ท่านๆ คาดหวังก็เป็นไปได้

เหตุผลเพราะว่าสถาบันเศรษฐกิจระดับโลกและบริษัทเอกชนรายใหญ่ของโลก ไม่ได้มองเศรษฐกิจโลกในปีนี้ไปในทิศทางเดียวกัน “ว่าดีทั้งหมด”  หรือปรับตัวดีขึ้นก็ไม่ได้มาก เหตุผลและปัจจัยใดถึงเป็นแบบนั้น หากเรานำรายงานวิเคราะห์เศรษฐกิจล่าสุดของแต่ละสำนัก เราจะเห็นถึงความแตกต่างที่มีต่อเศรษฐกิจและการค้าโลกในปี 2020 ได้อย่างน่าสนใจครับ

เศรษฐกิจโลก 2020 : ฟื้นหรือไม่?

ผมขอเริ่มจาก “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)” ที่ออกรายงานเมื่อเดือนตุลาคม 2019 ทำนายว่า ปี 2019 GDP โลกขยายตัว 3% ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009 และให้ GDP โลกในปี 2020 ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.4% อย่างไรก็ตาม “กลุ่มท็อปโฟร์ (Group of Four)” ที่มีขนาดเศรษฐกิจและการส่งออก 50% ของโลก เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเต็มร้อย ที่ประกอบด้วย สหรัฐฯ GDP ขยายตัวเท่าเดิม อยู่ที่ 1.7% ในปี 2019 และ 1.7% ในปี 2020 จากเดิมที่ขยายตัว 2.3% ในปี 2018 นั้นแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ขยายเลย

จีน ขยายตัวลดลงจาก 6.1% ในปี 2019 เหลือ 5.8% ในปี 2020 กลุ่มประเทศยุโรป โดยรวมขยายตัวเพิ่ม แต่หลายประเทศชะลอตัวลง ได้แก่ สเปน โปรตุเกส และเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น และ ญี่ปุ่น ชะลอตัวลงจาก 0.9% เหลือ 0.5% ในปี 2020 

 

นอกจากนี้ยังมี 3 ปัจจัยสนับสนุนหลักที่ทำให้ต้องคำนึงในปี 2020 คือ 1.ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ภาคอุตสาหกรรมโลกมีการผลิตลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่วัดจากเปอร์เซ็นต์ยอดขายรถยนต์ตั้งแต่ปี 2018-2019 ติดลบอย่างต่อเนื่อง และตลอดปี 2018 ปริมาณการผลิตรถยนต์ของจีน เยอรมันและสหรัฐฯ ลดลง และต้องติดตามว่าใน ปี 2020 สหรัฐฯจะมีการขึ้นภาษี 25% สำหรับรถยนต์ที่เข้าไปขายในสหรัฐฯ หรือไม่ เพราะครบเส้นตาย 180  วัน (นับตั้งแต่ พ.ค.2562 ที่สหรัฐฯ เลื่อนเก็บภาษีรถยนต์) รวมไปถึงการเปลี่ยนมาตรฐานรถยนต์ของยุโรปอย่างรวดเร็ว “New Emission Standard of Euro” เฉลี่ย 2 ปีเปลี่ยนมาตรฐานครั้งหนึ่ง

2.สงครามการค้าและ 3.กำลังซื้อของประเทศจีนชะลอตัวจากเศรษฐกิจที่ไม่ขยายตัว ในขณะที่ “บริษัท Goldman Sachs” ออกรายงานเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2562 ว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจาก 3.1% ปี 2019 เป็น 3.4% ปี 2020 และได้มีการเปรียบเทียบกับผลสำรวจของ “Bloomberg” พบว่า GDP สำรวจของ Bloomberg มีอัตราการขยายตัว GDP โลกต่ำกว่าของ Goldman Sachs

เศรษฐกิจโลก 2020 : ฟื้นหรือไม่?

เหตุผลที่ Goldman Sachs ให้ GDP โลกปรับตัวสูงขึ้นมาจากผลกระทบของสงครามการค้าเริ่มลดลง และผลของ “Brexit” แบบ “No Deal” จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอังกฤษและยุโรปในระยสามปีข้างหน้า “ติดลบ” มากกว่ากรณี “Deal” ในขณะนี้ดัชนีภาคอุตสาหกรรรมที่ตกลงอย่างต่อเนื่องในตั้งแต่ปี 2018 เป็นมา เริ่มปรับตัวดีขึ้นในปลาย 2019

 

เศรษฐกิจโลก 2020 : ฟื้นหรือไม่?

 ในขณะที่ผลวิเคราะห์ของบริษัท “Atradius” จากเนเธอร์แลนด์ ออกรายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ให้การขยายตัว GDP โลก ปี 2020 ทรงตัวอยู่ที่ 2.5% เท่ากับปี 2019 รวมไปถึงกิจยุโรปทรงตัวที่ 1.1% เช่นกัน (ปี 2019 กับ 2020) GDP สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง น้ำหนักหลักไปอยู่ที่ 3 ปัจจัยรุนแรง ที่มีจะผลมากต่อเศรษฐกิจในปี 2020 คือ 1. “สงครามการค้า”  2.ความไม่แน่นอนนโยบายเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ เช่น นโยบายต่อสงครามทางการค้าแต่ละประเทศที่จะออกมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศตนเอง นโยบาย Brexit ของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน จะเป็น No Deal หรือ Deal และ 3.อัตราขยายตัวลดลงของประเทศจีน
 

 สำหรับปัจจัยที่ผลใน ระดับปานกลาง คือนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ การลงทุนลดต่ำในสหรัฐฯ และยุโรป ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาการลงทุนปรับตัวดีขึ้น แต่ก็ยังถือว่ายังขยายตัวติดลบและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น อันเนื่องมาจากปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปก

 เมื่อประเมินจากสำนักเศรษฐกิจต่าง ๆ ผมพอจะสรุปได้ว่า เศรษฐกิจโลกปี 2020 มีโอกาสฟื้นตัว ดีขึ้นกว่าปี 2019 แต่ไม่มากนัก เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงรออยู่ข้างหน้า หลัก ๆ เป็น ประเด็นสงครามการค้าระหว่างที่ไม่ใช่เฉพาะสหรัฐฯ กับ จีน เท่านั้นแต่สหรัฐฯ กับยุโรปและประเทศต่าง ๆ รวมไปการอัตราการขยายตัวลดลงของประเทศจีน สหรัฐฯ และประเทศยุโรป (บางประเทศ) และในปี 2020 สหรัฐฯ จะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งประธานาธิบดี การหาเสียงเพื่อเรียกคะแนนเสียงของประธานาธิบดีออกได้ทั้งสองแบบคือ “ลุยหนักต่อ หรือ ผ่อนลง” ก็เป็นได้ทั้งสองครับ