สงกรานต์2564 ปั๊มท่องเที่ยว 1.2 หมื่นล้าน 

06 เม.ย. 2564 | 20:25 น.

สงกรานต์ 2564 ททท.คาดคนเที่ยวในประเทศ 3.20 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท หนุนจัดกิจกรรม 8 พื้นที่เอกลักษณ์“สงกรานต์ ริน รด พรม ใส่หน้ากาก ไม่สาดน้ำ Amazing ยิ่งกว่าเดิม”

สงกรานต์ 2564 ททท.คาดคนเที่ยวในประเทศ 3.20 ล้านคน-ครั้งสร้างรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท หนุนจัดกิจกรรม 8 พื้นที่เอกลักษณ์ ภายใต้แคมเปญ “สงกรานต์ ริน รด พรม ใส่หน้ากาก ไม่สาดน้ำ Amazing ยิ่งกว่าเดิม” เผยปีนี้คนแห่จองพักโรงแรม 4-5 ดาว ทั้งภูเก็ต ติดท็อปเที่ยวระยะไกลของคนไทยเป็นครั้งแรก ขณะที่ 2 ห้างดังแห่จัดสงกรานต์แบบนิว นอร์มอลวิถีไทย

การผ่อนคลายของรัฐบาลที่เปิดให้คนเดินทางท่องเที่ยวช่วงหยุดยาว 6 วันที่จะถึงนี้ ทำให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 มีความคึกคักมากกว่าช่วงวันหยุดตรุษจีนและวันมาฆบูชาที่ผ่านมา

เงินสะพัด 1.2 หมื่นล.

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)คาดว่าหยุดยาว 6 วันช่วงสงกรานต์นี้ (วันที่ 10-15 เมษายน 2564) จะมีการเดินทางเที่ยวในประเทศ 3.20 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท

เนื่องจากเป็นช่วงที่คนไทยเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อร่วมประเพณีสงกรานต์และเยี่ยมญาติ และถือโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมๆกัน แตกจากสงกรานต์ปีที่ผ่านมาที่กิจกรรมทุกอย่างในช่วงดังกล่าวถูกล็อกดาวน์ไป

ประกอบกับแรงหนุนจากมาตรการของภาครัฐเช่น เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ ก็มีส่วนช่วยกระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางเพิ่มขึ้น

ไฮไลท์กิจกรรมสงกรานต์ 2564

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าสงกรานต์นี้ อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของที่พักทั่วประเทศ จะอยู่ที่ราว 31% โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 3.20 ล้านคน สร้างรายได้ราว 12,000 ล้านบาท ภาคกลาง มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยมากสุด อยู่ที่ 52% มีการเดินทางท่องเที่ยวราว 7.47 แสนคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1,655 ล้านบาท ส่วนภาคใต้ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยราว 25% แม้จะน้อยกว่าภาคอื่น แต่จะมีรายได้มากกว่าภาคอื่น คืออยู่ที่ราว 3,086 ล้านบาทจากไทยเที่ยวไทย 5.39 แสนคน-ครั้ง

บูมจัดกิจกรรม 8 พื้นที่

ขณะเดียวกันจังหวัดท่องเที่ยวหลายแห่งกลับมาจัดงานกันอีกครั้งทั้งเมืองหลัก-เมืองรอง โดยมีกิจกรรมที่ททท.สนับสนุนกิจกรรมสงกรานต์พื้นที่เอกลักษณ์ รวม 8 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ สุโขทัย ลำปาง บุรีรัมย์ ขอนแก่น และหนองคาย ภายใต้แคมเปญ “สงกรานต์ ริน รด พรม ใส่หน้ากาก ไม่สาดน้ำ Amazing ยิ่งกว่าเดิม”

ทั้งนี้คาดว่าพื้นที่ 8 จังหวัดจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยประมาณ 7.30 แสนคน-ครั้ง และสร้างรายได้หมุนเวียนมากกว่า 3,700 ล้านบาท มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ราว 30%

แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์นี้ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวระยะใกล้ สามารถขับรถยนต์ท่องเที่ยวได้เอง เช่น นครราชสีมา ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี ราชบุรี และพระนครศรีอยุธยา คนไทยนิยมพาครอบครัวไปทำบุญ สรงน้ำพระ เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในวันปีใหม่ไทย หรือเดินทางมาท่องเทียวและทำกิจกรรมทางน้ำเพื่อคลายร้อน เช่น การล่องแพ เล่นน้ำตก/น้ำทะเล

คนไทยแห่บุ๊กภูเก็ต

ขณะที่พื้นที่ท่องเที่ยวระยะไกลโดยเฉพาะภูเก็ตได้รับความสนใจค่อนข้างสูง เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงาม เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน เพราะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังเดินทางมาไม่ได้ อีกทั้งผู้ประกอบการโรงแรมที่พักจัดโปรโมชั่น ราคาที่คนไทยเอื้อมถึง ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่คนไทยอยากไปเที่ยว

สอดคล้องกับผลสำรวจของอโกด้า ที่ระบุว่าจุดหมายปลายทางที่มีนักท่องเที่ยวจองห้องพักมากที่สุดช่วงวันหยุดสงกรานต์ปี 2564 มีจุดหมายปลายทางประเภทชายหาดติดอันดับถึง 7 แห่ง โดยภูเก็ตไต่ขึ้นมาอยู่อันดับ 1 จากอันดับ 4 ในปี 2562 แซงพัทยาที่หล่นไปอยู่อันดับ 2

ส่วนจุดหมายประเภทชายหาดที่อื่น ๆ ที่ติดอันดับในปีนี้ ได้แก่ หัวหิน/ ชะอำ ตามมาเป็นอันดับ 3 กระบี่ อันดับ 4 เกาะสมุย อันดับ5 เขาหลัก อันดับ 6 และเกาะช้าง อันดับ 9 ส่วนกรุงเทพฯ ตกลงจากอันดับ 2 ในปี 2562 ไปอยู่อันดับ 7

รร.4-5 ดาวเนื้อหอม

อีกทั้งจากข้อมูลการจองผ่านอโกด้า ยังพบว่า คนไทยมีแนวโน้มที่จะเดินทางท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม รวมถึงเป็นครอบครัวมากที่สุด อีกทั้งยังต้องการให้รางวัลตัวเองด้วยการเลือกพักโรงแรมระดับ 4-5 ดาว เนื่องจากโรงแรมส่วนใหญ่ลดราคาห้องพักลงเกินครึ่ง เพื่อดึงลูกค้าคนไทย ซึ่งเปลี่ยนไปจากปี 2562 ที่นิยมไปพักโรงแรม 1-3.5 ดาว

ส่วนปริมาณเที่ยวบินในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 10-16 เมษายน 2564 ทางบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) คาดการณ์ว่า จะมีปริมาณเที่ยวบินรวม 8,754 เที่ยวบิน เฉลี่ย 1,250 เที่ยวบินต่อวัน และตลอดทั้งเดือนเมษายนนี้จะมีเที่ยวบินรวม 36,150 เที่ยวบิน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 7% จากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่มีปริมาณเที่ยวบินรวม 33,796 เที่ยวบินส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ

 

อีกทั้งจากการที่รัฐบาลมีแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วและมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ ให้สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ โดยเปิดพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา (ชลบุรี) กระบี่ พังงา และเกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) นั้นเชื่อว่าน่าจะส่งผลดีกับทั้งธุรกิจการบินและการท่องเที่ยวของประเทศ

นอกจากนี้ททท.ยังได้สนับสนุนการจัดประเพณีสงกรานต์ให้แก่พันธมิตรภาคเอกชน อาทิ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ศูนย์ การค้าเซ็นทรัล
เอ็มบาสซี และเทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย ครั้งที่ 6 โดย บริษัท ทศภาค จำกัด อีกทั้ง บริษัท เรกคิทท์เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้มอบผลิตเดทตอล จำนวน 200,000 ชิ้น ให้แก่พื้นที่จัดงานฯ เพื่อสร้างมาตรฐานสุขอนามัยที่ดีในการจัดเทศกาลสงกรานต์ด้วย

สงกรานต์วิถีไทย

ด้านนายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น กล่าวว่า บริษัทจัดงาน Thailand’s Songkran Festival 2021 ขึ้นภายใต้แนวคิด “วิถีใหม่ไทยนิยม ริน รด พรม ใส่หน้ากาก ไม่สาดน้ำ แต่งดอก ออกเที่ยว” ถือเป็นครั้งแรกกับการฉลองเทศกาลสงกรานต์แบบนิว นอร์ มอล ไม่เปียก โดยแต่ละจังหวัดจะดึงเอาอัตลักษณ์และเสน่ห์มาถ่ายทอดเป็นไฮไลท์ในรูปแบบต่างๆ ขณะที่ “เซ็นทรัลเวิลด์” ยังคงเดสติเนชั่น ซึ่งปีนี้มีการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมสิริมงคล พร้อมกิจกรรมต่างๆมากมายเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ

“สงกรานต์ปีนี้มีวันหยุดยาว 6 วัน ทำให้ผู้คนทยอยเดินทางกลับบ้าน ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศได้ ทำให้เชื่อว่าท่องเที่ยวในประเทศจะกลับมาคึกคัก และมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น ขณะที่การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ต่างๆ ภายในศูนย์ในปีนี้คาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 20%

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยามถือเป็นแลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้า
พระยา การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จึงเกิดขึ้นโดยมุ่งเน้นการสืบสานศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนประเพณีไทยที่อยู่คู่กับวิถีคนริมน้ำเจ้าพระยา ภายใต้ชื่อ “ไอคอนสยาม มหัศจรรย์เจ้าพระยา มหาสงกรานต์” ระหว่างวันที่ 9- 18 เม.ย. นี้โดยไฮไลท์สำคัญเป็นการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองจาก 4 ภาค (องค์จำลอง) มาให้กราบสักการะและสรงน้ำ เพื่อความเป็นสิริมงคล 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,668 วันที่ 8 - 10 เมษายน พ.ศ. 2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: