เรสซิเด้นท์หรู ตีตราแบรนด์โรงแรมเชน โตสวนโควิด รับไทย-ต่างชาติซื้อบ้านหลังที่2

25 ต.ค. 2563 | 03:14 น.

เรสซิเดนท์หรู ที่มีแบรนด์โรงแรมเชนบริหาร ในเมืองท่องเที่ยวหลัก โตสวนกระแสโควิด-19 ทั้งไทยและต่างชาติ แห่ซื้อเป็นที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 สวนทางอสังหาฯภาพรวมที่หนักจากวิกฤตโควิด-19

ธุรกิจ ลักชัวรี เรสซิเดนท์ในเมืองท่องเที่ยว ที่มีแบรนด์โรงแรมเชน ตีตรา ยังคงเป็นเซ็กเม้นท์เดียวที่ยังได้รับการตอบรับจากตลาดระดับบน สวนทางอสังหาฯภาพรวมที่หนักจากวิกฤตโควิด-19

ดุสิตเรสซิเดนท์ เผยยังไม่เปิดขายแต่มีคนสนใจจ่ายเงินจองแล้ว 20% ด้านพราวกรุ๊ป ยันหลังคลายล็อกดาวน์ อินเตอร์คอนฯหัวหิน ขายไปแล้ว 65 % ขณะที่ มอนท์เอซัวร์ ภูเก็ต ยันขายได้แต่เป็นการจองผ่านออนไลน์

 เรสซิเด้นท์หรู ตีตราแบรนด์โรงแรมเชน โตสวนโควิด รับไทย-ต่างชาติซื้อบ้านหลังที่2

โควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมของไทย แต่ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสที่เกิดขึ้น มีเพียงเรสซิเด้นท์ ระดับลักชัวรี ที่มีแบรนด์โรงแรมเชน มาบริหารจัดการหรือ Branded Residences ในเมืองท่องเที่ยวหลักเท่านั้น ที่ยังพอมีการตอบรับจากตลาดอยู่บ้าง จากกลุ่มตลาดระดับบน

เนื่องจากหลังโควิด-19 กลุ่มคนไทยระดับบนไปต่างประเทศได้ลำบาก อย่างน้อยจนถึงปี2564 จึงหันมาเที่ยวในประเทศ ซึ่งคนไทยบางกลุ่มจากเดิมอาจไม่นิยมมีคอนโดฯของตนเอง นิยมพักโรงแรมมากกว่า

แต่เมื่อเกิดโควิด เห็นโรงแรมปิด และเมื่อเปิดแล้วก็ไม่อยากพักปะปนกับคนอื่น เริ่มมองหาบ้านพักตากอากาศมากขึ้น เพิ่มจากเดิมที่อาจมองเฉพาะเรื่องของการลงทุนเท่านั้น ดังนั้นเรสสิเด้นท์ ที่มีแบรนด์โรงแรมในเมืองท่องเที่ยวจึงตอบโจทย์

ขณะที่กลุ่มลูกค้าต่างชาติ จากที่ไทยมีการบริหารจัดการการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับสากล ทำให้เริ่มมองไทยเป็นบ้านหลังที่ 2 ซึ่งในขณะนี้อาจจะเดินทางเข้าไทยมาดูอสังหาฯไม่ได้ แต่ก็พอมียอดจองเข้ามาบ้างจากการขายผ่านทางออนไลน์ ซึ่งการเป็น Branded Residences ก็เป็นส่วนที่ลูกค้ามั่นใจในแบรนด์ระดับหนึ่ง

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ตลาดเรสซิเด้นท์ ในรูปแบบลักชัวรี ที่มีแบรนด์ คนยังมีแรงซื้ออยู่ เห็นได้จากการลงทุน “ดุสิต เรสซิเดนเซส” ซึ่งเป็นส่วนที่พักอาศัยอาคารสูง 69 ชั้น รวม 389 ยูนิต และเป็นหนึ่งในโครงการมิกซ์ยูส ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี2567

ตอนนี้เรายังไม่ได้เปิดขายห้องพักในส่วนของดุสิต เรสซิเดนเซส เลย แต่มีคนสนใจกว่า 20% ที่เอาเงินมาวางจองไว้แล้ว ส่วนมากเป็นคนไทย

ทั้งยังเชื่อว่าถ้าไทยเปิดประเทศหลังโควิด ก็มั่นใจว่าต่างชาติจะเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย ในลักษณะที่เป็นบ้านหลังที่ 2 เพราะระบบสาธารณสุขด้านการป้องกันโควิด-19 ของไทยที่ได้รับการยอมรับระดับสากล ประกอบกับโลเคชั่นของโครงการที่ดี การให้บริการด้วยมาตรฐาน ดุสิต ตลอด 24 ชั่วโมง และจุดเด่นรูฟพาร์ค สวนลอยฟ้า พื้นที่สีเขียว ก็ทำให้คนสนใจในโครงการนี้

นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัทพราวเรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน” พบว่ายอดขายทำได้ดีมาก ปัจจุบันขายไปแล้ว 65 % ของมูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ซึ่งเราสร้างเป็นคอนโดมิเนียม 238 ยูนิต ขายราคาเริ่มต้น 7.89 ล้านบาทต่อยูนิต คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565

“ เราเริ่มเปิดให้ชมห้องพักตัวอย่างเมื่อก.พ.63 แต่พอมีโควิด-19 เกิดการล็อกดาวน์ห้ามเดินทาง ยอดขายชลอตัวมากเมื่อช่วงเม.ย.-พ.ค. เพราะลูกค้าเดินทางมาชมห้องตัวอย่างไม่ได้ แต่หลังกลายคลายล็อกดาวน์ เรากลับมาเปิดเซลส์แกลลอรีได้ เฉพาะเดือนมิ.ย.-ก.ค.63 ดีมานต์กลับมาทะลัก มียอดจองถึง 2 พันล้านบาท แสดงให้ว่าคนระดับบนยังดีอยู่”

อีกทั้งด้วยโลเคชั่นหัวหิน ที่มีส่วนหนึ่งติดหน้าหาดหัวหิน และการใช้แบรนด์อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส ซึ่งเป็น Branded Residences ในเครือ IHG เชนโรงแรมหรูระดับสากล ทำให้โครงการขายได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะลูกค้ามั่นใจได้ในคุณภาพ สถาปัตยกรรม และบริการระดับมาตราฐานโรงแรมที่จะพ่วงมากับคอนโดฯ

 เรสซิเด้นท์หรู ตีตราแบรนด์โรงแรมเชน โตสวนโควิด รับไทย-ต่างชาติซื้อบ้านหลังที่2

นายเศรษฐพล บุตรโท กรรมการผู้จัดการ โครงการมอนท์เอซัวร์ ภูเก็ต (ลักชัวรี มิกซ์ยูส) เผยว่า ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ถึงปัจจุบันโครงการเรสสิเดนซ์แบบมีแบรนด์ในโครงการ ก็ยังพอได้อยู่บ้าง โดยเอ็มแกลเลอรี เรสซิเด้นซ์ มอนท์เอซัวร์ เลคไซด์ (แบรนด์แอคคอร์) มียอดขาย 15 ยูนิต มูลค่า 120 ล้านบาท

 เรสซิเด้นท์หรู ตีตราแบรนด์โรงแรมเชน โตสวนโควิด รับไทย-ต่างชาติซื้อบ้านหลังที่2

ส่วน ทวินปาล์ม เรสซิเด้นซ์ มอนท์เอซัวร์ (แบรนด์ทวินปาล์ม) มียอดขาย 5 ยูนิต มูลค่า 150 ล้านบาท โดยเป็นลูกค้าชาวต่างชาติที่ไม่สามารถมาชมสถานที่จริงได้ประมาณ 80% และลูกค้าชาวไทย 20%

สิ่งที่เราเห็น คือการติดต่อมาของลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์และออนไลน์ เรียกได้ว่าความสนใจในอสังหาริมทรัพย์ในไทยมีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ชาวต่างชาติเริ่มตระหนักถึงการมีบ้านหลังที่ 2 ในสถานที่ที่ปลอดภัยและยังคงความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต

โดยเฉพาะประเทศใกล้เคียง ที่มีเที่ยวบินตรงมาภูเก็ต หรือประเทศที่คุ้นเคยกับจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างดี อย่าง จีน รัสเซีย และออสเตรเลีย เป็นต้น ถ้ามีการเปิดประเทศต่างชาติก็จะกลับมาซื้อเหมือนปกติ เพราะลูกค้าเกือบทุกคนอยากมาเห็นสถานที่จริงก่อนการตัดสินใจในการซื้ออสังหาริมทรัพย์แต่ละครั้ง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดึงต่างชาติซื้ออสังหาฯแถม"อีลิทการ์ด"-ซื้อคอนโดเริ่ม8ล้านได้สมาร์ทวีซ่า

โตสวนโควิด-19 คนจีน แห่ซื้อ "อีลิทการ์ด" ยอดพุ่งกระฉูด

ท่องเที่ยวเฮ รัฐปลดล็อกต่างชาติเที่ยวไทย ไฟเขียวกต.ออก "ทัวริสต์ วีซ่า"

ผ่าอาณาจักร ‘มอนท์เอซัวร์’ ลักชัวรี มิกซ์ยูส ภูเก็ต ทุนไทย-เทศ 1.5 หมื่นล.