แบรนด์ดังออนไลน์ "O&B" หวังกวาดพันล้าน
"โอแอนด์บี" แบรนด์รองเท้าสัญชาติไทยสุดแรง แจ้งเกิดจากออนไลน์ ผงาดสู่ออฟไลน์ ประกาศเดินหน้ารุกต่างประเทศ พร้อมจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ปั้นรายได้ทะลุพันล้านใน 5 ปี
นางสาวรรินทร์ ทองมา ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท อาเทอ แอนด์ บุค จำกัด ผู้จำหน่ายรองเท้าแบรนด์ "โอแอนด์บี" (O&B) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทวางเป้าหมาย 5 ปีนับจากนี้ จะก้าวสู่ความเป็นโกลบัลแบรนด์และมีรายได้ 1,000 ล้านบาท จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะปิดรายได้ 400 ล้านบาท หรือมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 100% พร้อมกับเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกง เพื่อรองรับแผนงานโกลบัลแบรนด์ในอนาคต เบื้องต้น อยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนและผู้ที่สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
"โอแอนด์บีเติบโตมาจากช่องทางออนไลน์ แน่นอนว่า ปีนี้จะเดินหน้าขยายในรูปแบบออฟไลน์อย่างเต็มตัว ผ่านสาขาหน้าร้าน เพื่อเป็นการตอบโจทย์ทางการตลาดแบบ Omni Chanel ที่ต้องผสานออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันในการสร้างการเติบโตตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งแผนงานต่อจากนี้ คือ การก้าวสู่ความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่มีสินค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รองเท้า สินค้าแฟชั่น หรือแม้กระทั่งการแตกไลน์ไปยังธุรกิจอื่น ๆ เพื่อสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนในอนาคต"
[caption id="attachment_378219" align="aligncenter" width="393"]
วรรินทร์ ทองมา[/caption]
สำหรับแผนการทำตลาดในปีนี้จะให้ความสำคัญในการเลือกพันธมิตรทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อร่วมลงทุนและขยายตลาดทั้งออนไลน์ รวมไปถึงตลาดค้าปลีกและค้าส่ง เพิ่มมากขึ้น หลังจากบริษัทดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์มาเป็นเวลา 7 ปี ใช้งบลงทุนไปแล้วราว 100 ล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณการขยายสาขา 5 แห่ง 50-60 ล้านบาท อาทิ ดิ เอ็มโพเรียม, เซ็นทรัล ชิดลม, เซ็นทรัล ลาดพร้าว และจะขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่งในปลายปีนี้
ขณะที่ อีก 40-50 ล้านบาท จะเป็นงบในการขยายตลาดในช่องทางออนไลน์ การพัฒนาระบบ และปรับปรุงเว็บไซต์ ให้มีความสดใหม่ทันสมัย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยชูกลยุทธ์หลัก "ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง" เป็นกลยุทธ์หลักในการสร้างประสบการณ์และความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคผ่านโซเชียลมีเดีย และมัดใจผู้บริโภคด้วยโนว์ฮาวที่ใช้ในการทำธุรกิจแฟชั่นอี-คอมเมิร์ซกับกลุ่มผู้หญิงที่เป็นผู้บริโภคในระดับ B+ นอกจากนี้ ยังมองหาโอกาสในการสร้างแบรนด์ผ่านงานอีเวนต์ระดับโลก เพื่อสื่อสารแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย หลังจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้รับคัดเลือกจากกองประกวด Miss Universe 2018 เพียงแบรนด์เดียวให้ออกแบบรองเท้าคอลเลกชันพิเศษเพื่อสาวงามจากทั่วโลกสวมใส่ตลอดการประกวด ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากแฟนนางงามและชาวต่างชาติเป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน ในช่วงกลางปี บริษัทยังมีแผนแตกไลน์ธุรกิจไปยังร้านอาหารเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นร้านที่ทันสมัย รองรับความต้องการของลูกค้าในย่านอารีย์ฯ ก่อนจะเปิดตัวแบรนด์รองเท้าน้องใหม่และรุกตลาดต่างประเทศผ่านตัวแทนจำหน่าย ทั้งสิงคโปร์ สปป.ลาว และฟิลิปปินส์ เป็นต้น โดยปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าเป็นคนไทย 95% และต่างชาติ 5% แต่ปริมาณ Engagement ในโซเชียลมีเดีย เป็นคนไทย 70% ต่างชาติ 30% จึงเล็งเห็นเป็นโอกาสที่จะขยายตลาดมากยิ่งขึ้น
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,438 ระหว่างวันที่ 24-26 มกราคม 2562
นางสาวรรินทร์ ทองมา ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท อาเทอ แอนด์ บุค จำกัด ผู้จำหน่ายรองเท้าแบรนด์ "โอแอนด์บี" (O&B) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทวางเป้าหมาย 5 ปีนับจากนี้ จะก้าวสู่ความเป็นโกลบัลแบรนด์และมีรายได้ 1,000 ล้านบาท จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะปิดรายได้ 400 ล้านบาท หรือมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 100% พร้อมกับเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกง เพื่อรองรับแผนงานโกลบัลแบรนด์ในอนาคต เบื้องต้น อยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนและผู้ที่สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
"โอแอนด์บีเติบโตมาจากช่องทางออนไลน์ แน่นอนว่า ปีนี้จะเดินหน้าขยายในรูปแบบออฟไลน์อย่างเต็มตัว ผ่านสาขาหน้าร้าน เพื่อเป็นการตอบโจทย์ทางการตลาดแบบ Omni Chanel ที่ต้องผสานออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันในการสร้างการเติบโตตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งแผนงานต่อจากนี้ คือ การก้าวสู่ความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่มีสินค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รองเท้า สินค้าแฟชั่น หรือแม้กระทั่งการแตกไลน์ไปยังธุรกิจอื่น ๆ เพื่อสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนในอนาคต"
[caption id="attachment_378219" align="aligncenter" width="393"]
สำหรับแผนการทำตลาดในปีนี้จะให้ความสำคัญในการเลือกพันธมิตรทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อร่วมลงทุนและขยายตลาดทั้งออนไลน์ รวมไปถึงตลาดค้าปลีกและค้าส่ง เพิ่มมากขึ้น หลังจากบริษัทดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์มาเป็นเวลา 7 ปี ใช้งบลงทุนไปแล้วราว 100 ล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณการขยายสาขา 5 แห่ง 50-60 ล้านบาท อาทิ ดิ เอ็มโพเรียม, เซ็นทรัล ชิดลม, เซ็นทรัล ลาดพร้าว และจะขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่งในปลายปีนี้
ขณะที่ อีก 40-50 ล้านบาท จะเป็นงบในการขยายตลาดในช่องทางออนไลน์ การพัฒนาระบบ และปรับปรุงเว็บไซต์ ให้มีความสดใหม่ทันสมัย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยชูกลยุทธ์หลัก "ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง" เป็นกลยุทธ์หลักในการสร้างประสบการณ์และความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคผ่านโซเชียลมีเดีย และมัดใจผู้บริโภคด้วยโนว์ฮาวที่ใช้ในการทำธุรกิจแฟชั่นอี-คอมเมิร์ซกับกลุ่มผู้หญิงที่เป็นผู้บริโภคในระดับ B+ นอกจากนี้ ยังมองหาโอกาสในการสร้างแบรนด์ผ่านงานอีเวนต์ระดับโลก เพื่อสื่อสารแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย หลังจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้รับคัดเลือกจากกองประกวด Miss Universe 2018 เพียงแบรนด์เดียวให้ออกแบบรองเท้าคอลเลกชันพิเศษเพื่อสาวงามจากทั่วโลกสวมใส่ตลอดการประกวด ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากแฟนนางงามและชาวต่างชาติเป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน ในช่วงกลางปี บริษัทยังมีแผนแตกไลน์ธุรกิจไปยังร้านอาหารเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นร้านที่ทันสมัย รองรับความต้องการของลูกค้าในย่านอารีย์ฯ ก่อนจะเปิดตัวแบรนด์รองเท้าน้องใหม่และรุกตลาดต่างประเทศผ่านตัวแทนจำหน่าย ทั้งสิงคโปร์ สปป.ลาว และฟิลิปปินส์ เป็นต้น โดยปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าเป็นคนไทย 95% และต่างชาติ 5% แต่ปริมาณ Engagement ในโซเชียลมีเดีย เป็นคนไทย 70% ต่างชาติ 30% จึงเล็งเห็นเป็นโอกาสที่จะขยายตลาดมากยิ่งขึ้น
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,438 ระหว่างวันที่ 24-26 มกราคม 2562
