อัพเดทล่าสุด!! “คมนาคม” ลุยของบปี 65 กว่า 6 แสนล.

09 พ.ย. 2563 | 03:00 น.

“คมนาคม” ถก 13 หน่วยงานสังกัดกระทรวงฯ เร่งขอปี 2565 จ่อชงสำนักงบฯ 28 ธ.ค.นี้ ลั่นทล.ของบสูงสุด 3.6 แสนล้าน ทุ่มโครงการยางพาราทำถนน 8 หมื่นล้านบาท

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2565 ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมว่า วงเงินคำขอเบื้องต้นของ 8 ส่วนราชการ และ 5 รัฐวิสาหกิจอยู่ที่ประมาณ 6 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นได้มอบให้แต่ละหน่วยงานไปจัดลำดับความสำคัญของแต่ละโครงการ โดยให้เน้นโครงการที่สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี, นโยบายรัฐบาล, นโยบายกระทรวงคมนาคม รวมทั้งต้องเป็นโครงการที่มีความต่อเนื่องเชื่อมต่อกับโครงการที่ดำเนินการมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยในสัปดาห์นี้จะเริ่มประชุมเพื่อลงรายละเอียดการเสนอคำของบประมาณฯ ทีละหน่วยงาน ก่อนจะสรุปคำของบประมาณภาพรวมของกระทรวงคมนาคมเสนอให้สำนักงบประมาณพิจารณาในวันที่ 28 ธ.ค.63 ต่อไป

 

 “ได้เน้นย้ำกับทุกหน่วยงานว่า โครงการที่จะเสนอมานั้นต้องเป็นโครงการที่มีความพร้อมสามารถตอบคำถามได้ในทุกเรื่อง โครงการใดไม่พร้อมไม่ควรเสนอมา อยากให้ใช้ประสบการณ์จากการพิจารณาคำของบประมาณปี 64 ที่เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และโดนตั้งคำถาม แต่หน่วยงานกลับตอบไม่ได้ก็จะถูกตัดงบประมาณ และทำให้เสียโอกาสไป อย่างไรก็ตามในส่วนของงบประมาณปี 64 นั้น ได้ให้ทุกหน่วยกลับไปขยับกรอบเวลาการดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.64 จากเดิมที่วางไว้ว่าจะต้องแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.64 เพราะกระทรวงคมนาคมถือเป็นกระทรวงที่ทำให้เม็ดเงินสามารถเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้มาก จึงเร่งรัดให้ทุกโครงการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ขณะนี้แต่ละหน่วยได้ส่งเรื่องขอดำเนินโครงการต่างๆ ในปีงบประมาณ 2564 เสนอมาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเกือบครบ 100% แล้ว โดยได้เร่งให้ไปจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์) ให้แล้วเสร็จอย่างช้าสุดไม่เกินเดือน มี.ค.64 เพื่อเริ่มเปิดประมูล และเริ่มดำเนินโครงการทันที ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 64 ยังคงตั้งเป้าภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ 100% สำหรับภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 อยู่ที่กว่า 90% ซึ่งถือว่าน่าพอใจระดับหนึ่ง โดยเวลานี้เหลือประมาณ 33 สัญญา คาดว่าน่าจะก่อหนี้ผูกพันได้ครบถ้วนภายในเดือน ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตามสำหรับสาเหตุที่เบิกจ่ายล่าช้านั้น ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องที่ไม่สามารถจัดการเองได้ เช่น โครงการอยู่ในขั้นตอนอุทธรณ์ จึงต้องรอให้เป็นไปตามกระบวนการ

 

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม อยู่ที่ 6.15 แสนล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณของหน่วยงานราชการ 4.89 แสนล้านบาท และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 1.26 แสนล้านบาท โดยหน่วยงานที่เสนอขอมาสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรมทางหลวง (ทล.) 3.6 แสนล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นงบประมาณที่ใช้ดำเนินโครงการนำน้ำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนนประมาณ 8 หมื่นล้านบาท รองลงมา กรมทางหลวงชนบท (ทช.) 7.3 หมื่นล้านบาท, การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 6.7 หมื่นล้านบาท, การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 4.7 หมื่นล้านบาท และกรมท่าอากาศยาน(ทย.) 2.1 หมื่นล้านบาท 

 “เป็นเรื่องปกติที่แต่ละปีหน่วยงานจะตั้งคำของบประมาณในจำนวนที่ค่อนข้างสูงไว้ก่อน เพื่อให้สำนักงบประมาณพิจารณาปรับลดอีกครั้ง ซึ่งโดยหลักการแล้วสำนักงบประมาณจะพิจารณาจากฐานงบประมาณที่ได้รับจัดสรรในปีงบประมาณที่ผ่านมา และส่วนใหญ่หากได้รับเพิ่มก็จะเพิ่มจากฐานเดิมประมาณ 2-5% รวมทั้งขึ้นอยู่กับว่าในปีนั้นๆ นโยบายของรัฐบาลต้องการเน้นในด้านใด

 

อย่างไรก็ตามในปีงบประมาณ 2564 กระทรวงคมนาคม ได้รับจัดสรรงบประมาณ 2.31 แสนล้านบาท โดยหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบสูงที่สุด 5 หน่วย ทล. ได้รับงบประมาณ 1.26 แสนล้านบาท, ทช. ได้รับ 4.88 หมื่นล้านบาท, รฟท. ได้รับ 1.8 หมื่นล้านบาท, รฟม. ได้รับ 1.5 หมื่นล้านบาท และ ทย. ได้รับ 5.7 พันล้านบาท